เนื่องจากเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ และบริษัทจะซ้อม Work From Home ในวันที่ 23 มีนาคม 2563 สืบเนื่องมาจากมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และผมจะกลับบ้านด้วยการนั่งเครื่องบิน ที่ดอนเมือง
โดยส่วนตัวผมนั้นทราบว่าโรคระบาดเป็นโรคที่ติดต่อกันได้ง่าย ผมมีความกังวลอยู่บ้าง ผมรู้อยู่แล้วว่าสนามบินเป็นสถานที่เสี่ยงในการรับเชื้อโรค
แต่ผมก็คิดว่าหากเราปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด ไม่ประมาท ทำตามคำแน่นำ
-ใส่แมสก์ตลอดเวลายืนหรือนั่งให้ห่างจากบุคคลอื่น 1-2 เมตร เราคงไม่อัธยาศัยดีเดินไปทักคนโน้นคนนี้หรอกมั้ง แต่ห่าง1-2 เมตรนี้เบาะนั่งบนเครื่องบินคงแยกออกห่างขนาดนั้นไม่ได้หรอกเนาะ ปิดทุกรูแล้วกัน จมูก หู ตา ปาก หายใจแบบระวังๆแล้วกันนะทุกคน
-หยิบจับสิ่งของใช้เจลล้างมือทุกครั้ง ส่วนตัวน่ะครับ เรื่องหยิบจับที่สนามบินนี้ส่วนตัวแทบจะตัดไปได้เลย เดินไปเช็คอินยื่นใบจองให้พนักงานรับตั๋วเสร็จก็ใช้เจลล้างมือสัก1ครั้ง เดินไปที่เกทขึ้นเครื่องยื่นตั๋วให้พนักงานล้างเจลอีกสักครั้ง
ตัดฉากมาตอนนั่งอยู่บนเครื่องช่วงนี้แหละ ใครไอใครจามคงจะหลอนกันน่าดู ณ จุดนี้อยากบอกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องว่าไม่ใส่แมสก์คุณไม่ต้องเดินทางไม่ต้องขึ้นเครื่อง เพราะ เราต้องปลอดภัยไว้ก่อนเรื่องนี้ต้องจริงจัง คนที่มีเชื้อไวรัสโควิด หรือไข้หวัดเล็กหวัดใหญ่ เวลาไอจามเชื้อมันก็อยู่ในแมสก์ มันออกมาเพ่นพ่านไม่ได้ เพราะฉะนั้นทุกคนบนเครื่องบินต้องใส่แมสก์ เห็นคนไม่ใส่ผมยืนโวยวายหน้าประตูเครื่องบินได้มั้ยใครไม่ใส่แมสก์ด่ากราดเลยได้มั้ย55555
ข่าวที่ออกมาให้อ่านในโลกโซเชียล อ่านแล้วทำให้จิตตก ทั้งคนที่กำลังจะเดินทางไป และคนที่รอการกลับมาของเรา ต่างฝ่ายต่างเครียด เครียดสุดก็กลัวแม่แฟนไม่ให้เข้าบ้าน5555555
เอาว่ะเกิดมา29ปี ไม่เจ็บไม่ป่วย ปีที่29ถ้าจะตายเพราะไอโควิดก็ให้มันรู้ไป เอ๊อ!!!ผมอยากจะบอกว่า ติดเชื้อแล้วไม่ตายทันทีนะรักษาหาย จะตายเพราะจิตตกความคิดเตลิดเปิดเปิงของคนนี่เรานี่ล่ะครับ สติครับ ดูแลใส่ใจการใช้ชีวิตประจำวันกันมาก อย่าประมาทในทุกที่ที่ไป
อย่าลืมดูแลสุขภาพจิต สุขภาพกายกันด้วยนะครับทุกคน แล้วมันจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
จะทำอย่างไรถ้าต้องไปขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง?
โดยส่วนตัวผมนั้นทราบว่าโรคระบาดเป็นโรคที่ติดต่อกันได้ง่าย ผมมีความกังวลอยู่บ้าง ผมรู้อยู่แล้วว่าสนามบินเป็นสถานที่เสี่ยงในการรับเชื้อโรค
แต่ผมก็คิดว่าหากเราปฏิบัติตัวอย่างเคร่งครัด ไม่ประมาท ทำตามคำแน่นำ
-ใส่แมสก์ตลอดเวลายืนหรือนั่งให้ห่างจากบุคคลอื่น 1-2 เมตร เราคงไม่อัธยาศัยดีเดินไปทักคนโน้นคนนี้หรอกมั้ง แต่ห่าง1-2 เมตรนี้เบาะนั่งบนเครื่องบินคงแยกออกห่างขนาดนั้นไม่ได้หรอกเนาะ ปิดทุกรูแล้วกัน จมูก หู ตา ปาก หายใจแบบระวังๆแล้วกันนะทุกคน
-หยิบจับสิ่งของใช้เจลล้างมือทุกครั้ง ส่วนตัวน่ะครับ เรื่องหยิบจับที่สนามบินนี้ส่วนตัวแทบจะตัดไปได้เลย เดินไปเช็คอินยื่นใบจองให้พนักงานรับตั๋วเสร็จก็ใช้เจลล้างมือสัก1ครั้ง เดินไปที่เกทขึ้นเครื่องยื่นตั๋วให้พนักงานล้างเจลอีกสักครั้ง
ตัดฉากมาตอนนั่งอยู่บนเครื่องช่วงนี้แหละ ใครไอใครจามคงจะหลอนกันน่าดู ณ จุดนี้อยากบอกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องว่าไม่ใส่แมสก์คุณไม่ต้องเดินทางไม่ต้องขึ้นเครื่อง เพราะ เราต้องปลอดภัยไว้ก่อนเรื่องนี้ต้องจริงจัง คนที่มีเชื้อไวรัสโควิด หรือไข้หวัดเล็กหวัดใหญ่ เวลาไอจามเชื้อมันก็อยู่ในแมสก์ มันออกมาเพ่นพ่านไม่ได้ เพราะฉะนั้นทุกคนบนเครื่องบินต้องใส่แมสก์ เห็นคนไม่ใส่ผมยืนโวยวายหน้าประตูเครื่องบินได้มั้ยใครไม่ใส่แมสก์ด่ากราดเลยได้มั้ย55555
ข่าวที่ออกมาให้อ่านในโลกโซเชียล อ่านแล้วทำให้จิตตก ทั้งคนที่กำลังจะเดินทางไป และคนที่รอการกลับมาของเรา ต่างฝ่ายต่างเครียด เครียดสุดก็กลัวแม่แฟนไม่ให้เข้าบ้าน5555555
เอาว่ะเกิดมา29ปี ไม่เจ็บไม่ป่วย ปีที่29ถ้าจะตายเพราะไอโควิดก็ให้มันรู้ไป เอ๊อ!!!ผมอยากจะบอกว่า ติดเชื้อแล้วไม่ตายทันทีนะรักษาหาย จะตายเพราะจิตตกความคิดเตลิดเปิดเปิงของคนนี่เรานี่ล่ะครับ สติครับ ดูแลใส่ใจการใช้ชีวิตประจำวันกันมาก อย่าประมาทในทุกที่ที่ไป
อย่าลืมดูแลสุขภาพจิต สุขภาพกายกันด้วยนะครับทุกคน แล้วมันจะผ่านพ้นไปได้ด้วยดี