**ข่าวหุ้นยอดนิยม** GUNKUL งัดแผนซื้อหุ้นคืน ราคานี้น่าซื้อหรือยัง?!

GUNKUL ราคาดีด หลังประกาศซื้อหุ้นคืน 5% วงเงิน 1,100 ล้านบาท เริ่ม เม.ย.นี้ หวังพยุงราคาที่ตกต่ำ ส่องพื้นฐานนักวิเคราะห์มองกำไรปีนี้จ่อนิวไฮต่อเป็นปีที่ 4 มีบุ๊ครายได้ขายไฟเต็มปีจากโรงไฟฟ้าญี่ปุ่นต่อเนื่อง เคาะราคาเหมาะสม 3.60 บาท ขณะที่ P/E ลงแตะ 7 เท่าน้อยกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่ม 


 
บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) เช้านี้ราคาฟอร์มดี วอลุ่มซื้อขายสูงกว่าปกติเทียบ 5 วันก่อน หลังประกาศข่าวจะซื้อหุ้นคืน โดยเปิดเช้านี้ที่ 2.04 บาท สูงสุด 2.06 บาท และปิดการซื้อขายภาคเช้าที่ 1.97 บาท เพิ่มขึ้น 0.06 บาท หรือ 3.4% มูลค่าการซื้อขาย 42 ล้านบาท  
ราคา GUNKUL ก่อนไวรัสโควิด-19 ทำจุดสูงสุดของปีนี้ที่ 3 บาทในเดือน ม.ค. ก่อนจะเป็นขาลง และปรับลงรุนแรงในช่วงเดือน ก.พ. ต่อเนื่องถึงเดือน มี.ค.ตามสภาพตลาดโดยรวม และทำจุดต่ำสุดของปีนี้ที่ 1.84 บาท เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมา ใกล้เคียงกับจุดต่ำสุดเมื่อปี57 ที่ 1.83 บาท   
*เช้านี้หุ้นบวกทันที รับข่าวจะซื้อหุ้นคืน 440 ล้านหุ้น เริ่ม 1 เม.ย.-30 ก.ย.63
GUNKUL แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า บอร์ดอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน วงเงินสูงสุดไม่เกิน 1,100 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่ซื้อคืนไม่เกิน 440 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 5% ของหุ้นที่ออกและชำระแล้ว หลังหักหุ้นทุนซื้อคืนจริง ในครั้งที่ 1 กำหนดการรับซื้อช่วง 1 เม.ย.-30 ก.ย.63
ทั้งนี้ เมื่อรวมหุ้นทุนซื้อคืนจริงในครั้งที่ 1 ที่บริษัทฯ ซื้อคืนมาในช่วงระหว่าง 24 เม.ย.-22 ต.ค.61 จำนวน 99.04 ล้านหุ้น กับจำนวนหุ้นที่จะซื้อสูงสุดไม่เกิน 440 ล้านหุ้น ตามมติที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทในครั้งนี้ จะเท่ากับ 539.04 ล้านหุ้น คิดเป็น 6.14%
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในโครงการซื้อหุ้นคืน
 
*เหตุผลในการซื้อหุ้นคืน ก็เป็นไปตามหลักการโดยทั่วไปของ บจ. นั่นคือ เพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัท เพื่อเพิ่ม ROE,EPS ที่สำคัญเป็นการส่งสัญญาณแก่ผู้ลงทุน ถึงสถานะการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท
*การประกาศซื้อคืน ในช่วงนี้นับว่าถูกเวลาในช่วงที่ตลาดหุ้นไม่ดี ซึ่งทางตลาดหลักทรัพย์ก็สนับสนุน โดยราคาหุ้นทั้งตลาดปรับลงหากบริษัทไหนที่พอมีสภาพคล่อง ก็จะนำเงินมาเก็บหุ้นคืนไว้ เพื่อพยุงราคาไม่ให้เลวร้ายไปมากกว่านี้  
*นอกจากเรื่องการซื้อหุ้นคืนเพื่อพยุงราคา เราจะไปสำรวจปัจจัยพื้นฐาน GUNKUL กันบ้างว่าทำมาหากินเก่งแค่ไหน 
GUNKUL ประกอบธุรกิจ ผลิต จัดหา และจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ, ธุรกิจผลิต จัดหา และจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประหยัดพลังงาน รวมถึงพลังงานทางเลือกที่เหมาะสม , ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศ , ธุรกิจก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน (EPC) และธุรกิจการให้บริการบำรุงรักษาโรงไฟฟ้า
โครงสร้างรายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายไฟฟ้า โดยบริษัทมีกำไรนิวไฮตลอด 3 ปีซ้อน (2560-2562) จากฐานกำไรหลักร้อยล้านแตะหลักพันล้านบาท คือ 635 ล้านบาท (+18%) 1,090  ล้านบาท (+71%) และ 2,147 ล้านบาท (+96%) ตามลำดับ อัตรากำไรสุทธิ (NPM)ก็เพิ่มขึ้นจาก 12.40% เป็น 16.20% และ 28.77% ตามลำดับ 
โดยเฉพาะในปี 2562 กำไรโตแรงเกือบ 100% สาเหตุหลักจากรายได้ขายไฟฟ้าและส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 53.75% จากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตประเทศญี่ปุ่น 2 โรง ที่เริ่มขายไฟตั้งแต่ Q4/61 และ Q2/62 ตามลำดับ รวมถึงกระแสไฟฟ้าจากโครงการลมที่มีผลผลิตสูงขึ้นจากภาวะแรงลม 
 
*ผู้บริหารส่งสัญญาณกำไรปี63 ยังโดดเด่น รายได้ไม่ต่ำกว่า 9,000 ลบ.
ส่วนปี 63 นี้ ผู้บริหารระบุว่า บริษัทจะรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มที่เวียดนาม กำลังผลิต 60MW และโซลาร์ฟาร์มที่ญี่ปุ่น 34MW แบบเต็มปี ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ไตรมาสแรกปีนี้เป็นต้นไป ส่วนทั้งปีคาดว่าจะทำรายได้รวมประมาณ 9,000 ล้านบาท โตราว 25%  
 
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : GUNKUL ตั้งเป้ารายได้ปี 63 โต 25% - วางงบลงทุน 5 พันลบ.
 
*สำรวจมุมมองนักวิเคราะห์ มองบวกต่อข่าวประกาศซื้อหุ้นคืน ขณะที่ราคาหุ้น GUNKUL เทรดที่ P/Eเพียง 7 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ราว 20 เท่า นอกจากนี้ ประมาณการกำไรที่ 2.7 พันลบ. นับได้ว่าจะเป็นการทุบสถิติต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 
     
KTBST มีมุมมองเป็นบวกโดยหากอิงราคาซื้อหุ้นคืนจากวงเงิน 1.1 พันล้านบาทและจำนวนหุ้นที่ 440 ล้านหุ้น จะได้ราคาซื้อคืนที่ราว 2.50 บาท หรือมีอัพไซด์จากราคาปัจจุบันที่ 1.91 บาทราว 31% ทั้งนี้ ราคาหุ้น GUNKULได้ปรับลงราว -40% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาจากภาวะตลาดโดยรวม ซึ่งถูกกระทบจาก COVID-19 
อย่างไรก็ตาม มอง downside ณ ราคาปัจจุบันจำกัด จากธุรกิจหลัก renewable energy ไม่ได้รับผลกระทบ ในขณะที่ธุรกิจ EPC ความเสี่ยงมีเพียงการก่อสร้างล่าช้าและมี earnings contribution เพียง 15%  เท่านั้น นอกจากนี้ ปัจจุบันหุ้นเทรดอยู่ที่ PERเพียง 7 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ราว 20 เท่า จึงประเมินมีโอกาสสูงที่หุ้นจะกลับมา perform ได้ดี 
ส่วนกำไรปีนี้ KTBST คาด 2.7 พันล้านบาท เติบโต 24% YoY หนุนโดยการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าเพิ่มเติม 84MW และรับรู้รายได้จากงาน EPC ในระดับ 3.0 พันล้านบาท จาก backlog ราว 9.0 พันล้านบาท ทั้งนี้ ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 3.60 บาท 
    
*ส่วนหากใครจะเก็งกำไร บทวิจัยจาก บล.เอเซียพลัส พูดถึงการซื้อหุ้นคืนของ บจ. โดยเผยว่า ช่วงเวลาในการลงทุนหุ้นที่ถูกซื้อหุ้นคืน อ้างอิงข้อมูลย้อนหลัง 10 ปี ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด คือการซื้อหุ้นในวันที่ประกาศ และขายทำกำไรใน 1 เดือนถัดมา มีโอกาสได้ผลตอบแทนเฉลี่ยเป็นบวกราว 2.6% (บางบริษัทให้ผลตอบแทนเกิน 10%) แต่หลังจากนั้นราคาส่วนใหญ่จะย่อตัวลงตามลำดับ โดยเฉพาะหลังจากประกาศซื้อหุ้นคืนเกิน 6 เดือน  
    ข่าวที่เกี่ยวข้อง : โบรกฯ ชี้บจ.ซื้อหุ้นคืน ส่งผลดีต่อราคาหุ้นในช่วงสั้น
    
 
*การประกาศซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้ อาจจะมาถูกเวลา และเป็นข่าวดีในระยะสั้น แต่ประเด็นสำคัญที่ต้องดูคือพื้นฐานของบริษัทดีขนาดไหน เพราะสุดท้ายแล้วเมื่อจบโครงการ ราคาหุ้นก็จะสะท้อนที่ผลประกอบการที่แท้จริง
.
สำนักข่าว efinanceThai ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับการลงทุนหุ้นได้ที่
Website : https://www.efinancethai.com
Facebook : https://www.facebook.com/efinanceThaiTV/
Facebook : https://www.facebook.com/efinanceThai/
Twitter : @eFinanceThai
IG : @efinancethai_official
line : @efin
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่