https://www.share2trade.com/index.php?mod=talk&file=view&id=6106
ทองแท้ไม่แพ้ไฟฉันใด ธุรกิจที่แกร่งจากเนื้อในจักไม่หวั่นไหวแม้นเผชิญภัยเศรษฐกิจฉันนั้น บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) ที่เพิ่งโชว์กำไรสุทธิทุบสถิติ 2.1 พันล้านบาท เพิ่มเกือบ 100% ลั่นจะมุ่งสู่การเติบโตต่อเนื่องเพื่อเป็น "Safty Growth Stock" สำหรับนักลงทุน
จากตัวเลขกำไรสุทธิในระดับไม่ถึง 100 ล้านบาทเมื่อปี 54 ก้าวสู่ 1 พันล้านบาทสำเร็จในปี 61 และยังโตเป็นเท่าตัวในงบปี 62 นั้น สะท้อนชัดว่า การตัดสินใจลงทุนด้านพลังงานทดแทน ต่อยอดธุรกิจอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้า-ก่อสร้าง นับเป็นเส้นทางถูกต้องของ GUNKUL
หลายปัจจัยลบเศรษฐกิจที่ผ่านมา รวมถึงไวรัสโควิด-19 ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเติบโต ผู้บริหารยังชี้ไปข้างหน้าด้วยเป้าหมายโตต่อเนื่อง โดยคาดว่ารายได้รวมปีนี้จะแตะระดับ 9,000 ล้านบาท จากทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม ทั้งในและต่างประเทศ ที่ดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เต็มปี ซึ่งปี 62 นี้จะจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเพิ่มอีกกว่า 100 เมกะวัตต์
ปัจจุบัน GUNKUL มีโรงไฟฟ้าอยู่ 630 เมกะวัตต์ จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ 470 เมกะวัตต์ ขณะที่ปี 63 นี้คาดจะมีเพิ่มอย่างน้อย 150 - 160 เมกะวัตต์ และตามแผนในอีก 2 ปี (ปี 65) เป้าหมายอยู่ที่ 1,000 เมกะวัตต์ และจากเป้าหมายนี้ทำให้ต้องมีภาระลงทุนรวมนับ 4-5 พันล้านบาทต่อปี
ในช่วงเวลาผู้ประกอบการส่วนใหญ่ขวัญฝ่อ แต่ GUNKUL กลับประเมินตนเองว่า ในทุกสายธุรกิจได้แก่ 1.ผลิต จัดหา และจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้า 2.รับเหมาก่อสร้าง และ 3. พลังงานทดแทน จะเติบโตทั้งหมด ทว่าที่โดดเด่นสุดคือ โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเนื่องจากมีสัดส่วนรายได้ราว 70% แล้ว
"ปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 25 % ทั้งรายได้และกำไร ในทุกไตรมาส จากธุรกิจพลังงานทดแทนที่มีทั้งการลงทุนในญี่ปุ่น เวียดนาม มาเลเซีย รวมถึงในประเทศกับภาครัฐบาลและเอกชน ส่วนธุรกิจ EPC (งานวิศวกรรม-จัดหา-ก่อสร้าง) ก็มีงานในมืออยู่ที่ราว 9 พันล้านบาท ซึ่งงานรับเหมาก่อสร้างเตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆ ของ กฟภ. กฟผ. และกฟน. อีกเป็นมูลค่ารวมหลักหมื่นล้านบาท ซึ่งไวรัสโควิด-19 ไม่ได้มีผลกระทบต่อการเติบโตของเรา" น.ส.โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว
นอกจาก GUNKUL จะมีงานรองรับจำนวนมากแล้ว ในมุมความมั่นคงก็เพิ่มขึ้น ด้วยกระแสเงินสดที่สร้างได้ในแต่ละปีโดยสม่ำเสมอ บวกกับทิศทางดอกเบี้ยขาลงทำให้การลงทุนจากนี้มีโอกาสสูงจะต้นทุนการเงินต่ำลง อีกทั้งตัวเลขอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) เพิ่งอยู่เพียงระดับ 2 เท่าเศษ และในอนาคตจะเหลือระดับ 1 เท่ากว่าๆ อย่างง่ายดายด้วยฐานกำไรสูงขึ้น
"ใน 2-3 ปีนี้เราจะยังมีการเติบโตต่อเนื่องไม่น้อยกว่าปีละ 20 % โดยยังคงลงทุนต่อเนื่อง ซึ่งทุกๆ การจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบย่อมเท่ากับว่าจะมีรายได้ยาวนับไป 20-25 ปี เราจึงเป็น Growth Stock พร้อมกับมีความปลอดภัยให้นักลงทุนอย่างแน่นอน" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GUNKUL กล่าวอย่างมั่นใจ
รวบรวมมุมมองหุ้น GUNKUL จากโบรกเกอร์มีดังนี้
บล. คันทรี กรุ๊ป แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.00 บาท
บล. เอเชีย พลัส แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.30 บาท
บล. กสิกร แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.48 บาท
บล.เคทีบี(ประเทศไทย) แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายที่ 3.60 บาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.70 บาท
บล.โนมูระ พัฒนสิน แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายที่ 3.80บาท
รายงานพิเศษ : GUNKUL ยิ่งโตยิ่งแข็งแกร่ง
ทองแท้ไม่แพ้ไฟฉันใด ธุรกิจที่แกร่งจากเนื้อในจักไม่หวั่นไหวแม้นเผชิญภัยเศรษฐกิจฉันนั้น บมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง (GUNKUL) ที่เพิ่งโชว์กำไรสุทธิทุบสถิติ 2.1 พันล้านบาท เพิ่มเกือบ 100% ลั่นจะมุ่งสู่การเติบโตต่อเนื่องเพื่อเป็น "Safty Growth Stock" สำหรับนักลงทุน
จากตัวเลขกำไรสุทธิในระดับไม่ถึง 100 ล้านบาทเมื่อปี 54 ก้าวสู่ 1 พันล้านบาทสำเร็จในปี 61 และยังโตเป็นเท่าตัวในงบปี 62 นั้น สะท้อนชัดว่า การตัดสินใจลงทุนด้านพลังงานทดแทน ต่อยอดธุรกิจอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้า-ก่อสร้าง นับเป็นเส้นทางถูกต้องของ GUNKUL
หลายปัจจัยลบเศรษฐกิจที่ผ่านมา รวมถึงไวรัสโควิด-19 ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการเติบโต ผู้บริหารยังชี้ไปข้างหน้าด้วยเป้าหมายโตต่อเนื่อง โดยคาดว่ารายได้รวมปีนี้จะแตะระดับ 9,000 ล้านบาท จากทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม ทั้งในและต่างประเทศ ที่ดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) เต็มปี ซึ่งปี 62 นี้จะจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเพิ่มอีกกว่า 100 เมกะวัตต์
ปัจจุบัน GUNKUL มีโรงไฟฟ้าอยู่ 630 เมกะวัตต์ จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ 470 เมกะวัตต์ ขณะที่ปี 63 นี้คาดจะมีเพิ่มอย่างน้อย 150 - 160 เมกะวัตต์ และตามแผนในอีก 2 ปี (ปี 65) เป้าหมายอยู่ที่ 1,000 เมกะวัตต์ และจากเป้าหมายนี้ทำให้ต้องมีภาระลงทุนรวมนับ 4-5 พันล้านบาทต่อปี
ในช่วงเวลาผู้ประกอบการส่วนใหญ่ขวัญฝ่อ แต่ GUNKUL กลับประเมินตนเองว่า ในทุกสายธุรกิจได้แก่ 1.ผลิต จัดหา และจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้า 2.รับเหมาก่อสร้าง และ 3. พลังงานทดแทน จะเติบโตทั้งหมด ทว่าที่โดดเด่นสุดคือ โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนเนื่องจากมีสัดส่วนรายได้ราว 70% แล้ว
"ปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 25 % ทั้งรายได้และกำไร ในทุกไตรมาส จากธุรกิจพลังงานทดแทนที่มีทั้งการลงทุนในญี่ปุ่น เวียดนาม มาเลเซีย รวมถึงในประเทศกับภาครัฐบาลและเอกชน ส่วนธุรกิจ EPC (งานวิศวกรรม-จัดหา-ก่อสร้าง) ก็มีงานในมืออยู่ที่ราว 9 พันล้านบาท ซึ่งงานรับเหมาก่อสร้างเตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆ ของ กฟภ. กฟผ. และกฟน. อีกเป็นมูลค่ารวมหลักหมื่นล้านบาท ซึ่งไวรัสโควิด-19 ไม่ได้มีผลกระทบต่อการเติบโตของเรา" น.ส.โศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าว
นอกจาก GUNKUL จะมีงานรองรับจำนวนมากแล้ว ในมุมความมั่นคงก็เพิ่มขึ้น ด้วยกระแสเงินสดที่สร้างได้ในแต่ละปีโดยสม่ำเสมอ บวกกับทิศทางดอกเบี้ยขาลงทำให้การลงทุนจากนี้มีโอกาสสูงจะต้นทุนการเงินต่ำลง อีกทั้งตัวเลขอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) เพิ่งอยู่เพียงระดับ 2 เท่าเศษ และในอนาคตจะเหลือระดับ 1 เท่ากว่าๆ อย่างง่ายดายด้วยฐานกำไรสูงขึ้น
"ใน 2-3 ปีนี้เราจะยังมีการเติบโตต่อเนื่องไม่น้อยกว่าปีละ 20 % โดยยังคงลงทุนต่อเนื่อง ซึ่งทุกๆ การจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบย่อมเท่ากับว่าจะมีรายได้ยาวนับไป 20-25 ปี เราจึงเป็น Growth Stock พร้อมกับมีความปลอดภัยให้นักลงทุนอย่างแน่นอน" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GUNKUL กล่าวอย่างมั่นใจ
รวบรวมมุมมองหุ้น GUNKUL จากโบรกเกอร์มีดังนี้
บล. คันทรี กรุ๊ป แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.00 บาท
บล. เอเชีย พลัส แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.30 บาท
บล. กสิกร แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.48 บาท
บล.เคทีบี(ประเทศไทย) แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายที่ 3.60 บาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 3.70 บาท
บล.โนมูระ พัฒนสิน แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายที่ 3.80บาท