https://www.share2trade.com/index.php?mod=news&file=view&id=4167
บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL ถือเป็นผู้นำด้านธุรกิจพลังงานทดแทนแบบครบวงจร และธุรกิจระบบไฟฟ้า ด้วยเทคโนโลยีชั้นนำเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างยั่นยืน โดยจะเห็นได้ว่าที่ผ่านมา ภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ เติบโตอย่างมีศักยภาพ โดยเฉพาะผลการดำเนินงาน และถือเป็นหนึ่งในหุ้นน้ำดี ที่ถูกยกให้เป็นหุ้นพื้นฐานดี มีความมั่นคง มีแนวโน้มการเติบโตในอนาคต เพื่อการลงทุนระยะยาว
ความโดดเด่นของ GUNKUL คือ การเติบโตของรายได้และกำไรในระยะยาวที่มาจากธุรกิจพลังงานทดแทนและธุรกิจรับเหมาวิศวกรรมและระบบ (EPC) ซึ่งธุรกิจพลังงานทดแทนตั้งเป้า 1,000 เมกะวัตต์ภายในปี 64 ส่วนธุรกิจ EPC บริษัทฯ เตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการใหญ่ๆ ทั้งจากภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง และยังมองโอกาสขยายธุรกิจไปในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน เพื่อหนุนผลการดำเนินงานในอนาคตเติบโตได้อย่างมีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด บริษัทย่อยของ GUNKUL คือ บริษัท กันกุล พาวเวอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (GPD) ได้รับงานจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) โดยได้พิจารณาตกลงให้ GPD ดำเนินการจัดซื้อพร้อมติดตั้ง ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ชนิดติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) กำลังการผลิตติดตั้งรวมไม่น้อยกว่า 580 กิโลวัตต์ (kW) และระบบกักเก็บพลังงาน Battery Energy Storage System (BESS) บนพื้นที่สำนักงานกลาง กฟผ. ประมาณ 300 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่อาคารประมาณ 350,000 ตารางเมตร และเป็นส่วนสำนักงานประมาณ 200,000 ตารางเมตร ให้เป็นโครงการ Smart City ตามนโยบายพลังงาน 4.0 คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 48,501,458.44 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
นอกจากนี้ GUNKUL ยังได้ร่วมลงนามในสัญญาโครงการก่อสร้างระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar PV Rooftop) กับ บริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 3.99 เมกะวัตต์ ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จ.ลำพูน โครงการนี้ใช้ระยะเวลาก่อสร้างให้แล้วเสร็จ 240 วัน สำหรับโครงการนี้บริษัทกันกุลฯ จะเป็นผู้ขายไฟฟ้าให้กับมูราตะ ตลอดระยะเวลา 15 ปี
สำหรับในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯเตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆ ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) คิดเป็นมูลค่างานไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท อาทิ โครงการบริหารระบบหม้อแปลงไฟฟ้า CSCS 150 ล้านบาท ,โครงการ Bypass Cable Truck 200 ล้านบาท,โครงการวางสายเคเบิ้ลใต้น้ำจากฝั่งสู่เกาะสมุย 1,700 ล้านบาท,โครงการวางสายเคเบิ้ลใต้น้ำจากฝั่งสู่เกาะเต่า 1,400 ล้านบาท,โครงการวางสายเคเบิ้ลใต้น้ำจากฝั่งสู่เกาะปันหยี 200 ล้านบาท,โครงการนำสายไฟฟ้าลงดินของ กฟน. ประมาณตามสัดส่วนของบริษัท 1,400 ล้านบาท เป็นต้น หากได้งานจะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ผลการดำเนินงานปีนี้เติบโตได้อย่างมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยสนับสนุนให้งานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 8,500 ล้านบาท ที่สำคัญทำให้มั่นใจรายได้และกำไรสุทธิในปีนี้จะเติบโตตามเป้าที่ได้ตั้งไว้ 25%
“สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่า GUNKUL พร้อมจะเติบโตไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง คือ ผลการดำเนินงานทั้งในส่วนของกำไรและรายได้ที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังคงมีงานโครงการต่างๆ จากภาครัฐและเอกชนทยอยเข้ามาเสริมศักยภาพไม่ขาดสาย แสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ ยังมีศักยภาพที่จะขยายตัวได้อีกมากในระยะยาว จึงนับเป็นหนึ่งในหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทนที่ยังมีเสน่ห์ น่าลงทุน และน่าจับตามอง”
ที่มา : สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ ติดตามข่าวสารแบบเรียลไทม์ได้ที่
https://hooninside.com
รายงานพิเศษ : เปิดสตอรี่ GUNKUL ดวงงานรุ่งพุ่งแรง
บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL ถือเป็นผู้นำด้านธุรกิจพลังงานทดแทนแบบครบวงจร และธุรกิจระบบไฟฟ้า ด้วยเทคโนโลยีชั้นนำเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างยั่นยืน โดยจะเห็นได้ว่าที่ผ่านมา ภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ เติบโตอย่างมีศักยภาพ โดยเฉพาะผลการดำเนินงาน และถือเป็นหนึ่งในหุ้นน้ำดี ที่ถูกยกให้เป็นหุ้นพื้นฐานดี มีความมั่นคง มีแนวโน้มการเติบโตในอนาคต เพื่อการลงทุนระยะยาว
ความโดดเด่นของ GUNKUL คือ การเติบโตของรายได้และกำไรในระยะยาวที่มาจากธุรกิจพลังงานทดแทนและธุรกิจรับเหมาวิศวกรรมและระบบ (EPC) ซึ่งธุรกิจพลังงานทดแทนตั้งเป้า 1,000 เมกะวัตต์ภายในปี 64 ส่วนธุรกิจ EPC บริษัทฯ เตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการใหญ่ๆ ทั้งจากภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง และยังมองโอกาสขยายธุรกิจไปในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกัน เพื่อหนุนผลการดำเนินงานในอนาคตเติบโตได้อย่างมีศักยภาพอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด บริษัทย่อยของ GUNKUL คือ บริษัท กันกุล พาวเวอร์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (GPD) ได้รับงานจาก การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) โดยได้พิจารณาตกลงให้ GPD ดำเนินการจัดซื้อพร้อมติดตั้ง ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ชนิดติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) กำลังการผลิตติดตั้งรวมไม่น้อยกว่า 580 กิโลวัตต์ (kW) และระบบกักเก็บพลังงาน Battery Energy Storage System (BESS) บนพื้นที่สำนักงานกลาง กฟผ. ประมาณ 300 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่อาคารประมาณ 350,000 ตารางเมตร และเป็นส่วนสำนักงานประมาณ 200,000 ตารางเมตร ให้เป็นโครงการ Smart City ตามนโยบายพลังงาน 4.0 คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 48,501,458.44 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว)
นอกจากนี้ GUNKUL ยังได้ร่วมลงนามในสัญญาโครงการก่อสร้างระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (Solar PV Rooftop) กับ บริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 3.99 เมกะวัตต์ ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ จ.ลำพูน โครงการนี้ใช้ระยะเวลาก่อสร้างให้แล้วเสร็จ 240 วัน สำหรับโครงการนี้บริษัทกันกุลฯ จะเป็นผู้ขายไฟฟ้าให้กับมูราตะ ตลอดระยะเวลา 15 ปี
สำหรับในช่วงที่เหลือของปีนี้ บริษัทฯเตรียมเข้าร่วมประมูลโครงการต่างๆ ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) คิดเป็นมูลค่างานไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านบาท อาทิ โครงการบริหารระบบหม้อแปลงไฟฟ้า CSCS 150 ล้านบาท ,โครงการ Bypass Cable Truck 200 ล้านบาท,โครงการวางสายเคเบิ้ลใต้น้ำจากฝั่งสู่เกาะสมุย 1,700 ล้านบาท,โครงการวางสายเคเบิ้ลใต้น้ำจากฝั่งสู่เกาะเต่า 1,400 ล้านบาท,โครงการวางสายเคเบิ้ลใต้น้ำจากฝั่งสู่เกาะปันหยี 200 ล้านบาท,โครงการนำสายไฟฟ้าลงดินของ กฟน. ประมาณตามสัดส่วนของบริษัท 1,400 ล้านบาท เป็นต้น หากได้งานจะเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้ผลการดำเนินงานปีนี้เติบโตได้อย่างมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยสนับสนุนให้งานในมือ (Backlog) เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 8,500 ล้านบาท ที่สำคัญทำให้มั่นใจรายได้และกำไรสุทธิในปีนี้จะเติบโตตามเป้าที่ได้ตั้งไว้ 25%
“สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นว่า GUNKUL พร้อมจะเติบโตไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง คือ ผลการดำเนินงานทั้งในส่วนของกำไรและรายได้ที่เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันยังคงมีงานโครงการต่างๆ จากภาครัฐและเอกชนทยอยเข้ามาเสริมศักยภาพไม่ขาดสาย แสดงให้เห็นว่าบริษัทฯ ยังมีศักยภาพที่จะขยายตัวได้อีกมากในระยะยาว จึงนับเป็นหนึ่งในหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทนที่ยังมีเสน่ห์ น่าลงทุน และน่าจับตามอง”
ที่มา : สำนักข่าวหุ้นอินไซด์ ติดตามข่าวสารแบบเรียลไทม์ได้ที่ https://hooninside.com