วันนี้ขอมารีวิวเครื่องฟอกอากาศที่ขึ้นชื่อว่าเล็กที่สุดในโลก ยี่ห้อ ible รุ่น Airvida M1 
โดยหลักการทำงานของมันคือ การปล่อยประจุอิออนลบเข้มข้นรอบๆหัวเรา ประหนึ่งสร้างหมวกกันน๊อคหรือหน้ากากที่มองไม่เห็น
เพื่อไม่ให้ฝุ่น, เกสรดอกไม้, formaldehyde (CH2O), หรือแม้แต่แบคทีเรีย เข้าสู่ร่างกายเราผ่านทางการหายใจครับ

โดยระบบนี้ถ้าใครมีเครื่องฟอกอากาศของ SHARP ก็น่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้วถายใต้ชื่อ Plasmacluster แต่ๆๆ.... ระบบ Plasmacluster เค้า advance กว่าแค่การปล่อยประจุอิออนลบแบบเข้มข้นครับ เค้าจะสร้างทั้งประจุบวกและลบเพื่อใช้ประโยชน์จากออกซิเจนและความชื้นในอากาศที่มีตามธรรมชาติ แล้วเกิดเป็นอิออนเพื่อไปจับตัวกับสิ่งสกปรกต่างๆในอากาศเพื่อให้สิ่งสกปรกเหล่านั้นหนักขึ้นจนไม่สามารถลอยในอากาศได้และตกลงพื้นในที่สุด 
โลโก้ของ Plasmacluster ของ SHARP เลยออกมาเป็นรูปคล้ายพวงองุ่นครับสื่อถึงจากรวมตัวกันไปจับสิ่งสกปรกในอากาศ  ลองหาอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องนี้ของ SHARP ได้ตามเน็ตเลยนะครับ  โดยหลักการของเจ้า ible M1 นี้ก็คล้ายๆกันกับของ SHARP ครับ คือสร้างประจุลบเพื่อดักจับสิ่งสกปรกในอากาศแล้วให้มันตกสู่พื้นก่อนที่เราจะหายใจเข้าไปในร่างกาย

ทีนี้ถ้าตามหลักการของอิออนประจุลบเรื่องฝุ่นคงไม่มีปัญหา เรื่องแบคทีเรียเองก็คงกำจัดได้เช่นกัน แต่ไวรัสหละ? 
เท่าที่ทราบมาอิออนมันก็สามารถจับไวรัสในอากาศได้เหมือนกันทั้งๆที่ขนาดของไวรัสนั้นเล็กกว่าแบคทีเรียเกือบ 100 เท่า  
แต่พอดีบนกล่องเค้าไม่ได้ระบุเรื่องไวรัสมาเลย มีแต่ PM2.5 กับ แบคทีเรีย เลยทำให้เกิดความสงสัย แต่การ google ดูข้อมูลก็ระบุกันว่าสามารถดักจับไวรัสในอากาศได้จริงนะครับ แต่ถ้าไวรัสอยู่บนมือแล้วเอามือมาป้ายหน้าก็คงไม่มีเครื่องไหนช่วยไม่ให้ติดเชื้อได้ยกเว้นใส่ face shield อิอิ แล้วอิออนที่ปล่อยออกมาอยู่ได้นานขนาดไหน? สรุปคือ จะอยู่ในอากาศได้ 20-30 วินาทีครับ โดย Airvida M1 ตัวนี้จะปล่อยอิออนออกมา 2.0 ล้าน อิออนต่อลูกบาศเซนติเมตร ในทุกๆ 0.6 วินาที ดังนั้นมีอิออนให้เราดมตลอดเวลาแน่นอนครับ

ตัวกล่องสวยงามสะอาดตาตามสมัยนิยม ดูเผินๆเหมือนกล่องโทรศัพท์มือถือ OPPO ด้านหลังมีรายละเอียดพิมพ์ไว้ค่อนข้างชัดเจน (ภาษาอังกฤษ) ตัวเครื่อง Made in Taiwan มีตัวแทนจำหน่ายในไทยชัดเจนครับ กลับมาตรงรายละเอียดผมเองก็ยังสงสัยว่า อิออนประจุลบความเข้มข้นขนาด 2.0 ล้าน อิออนต่อลูกบาศเซนติเมตรมันมากขนาดไหน? แต่ก็คงเยอะมากๆเพราะยังมากกว่าป่าตามธรมมชาติตั้ง 100 เท่า เทียบในเมืองอย่าง กทม. คงจะเยอะกว่าหลายพันเท่าเลยทีเดียว ระบบการประกอบเครื่องกับตัวยึดต่างๆก็เป็นแบบแม่เหล็กติดหัวท้าย ถอดประกอบง่ายมากๆ

 

เปิดฝากล่องมาเป็นแบบในภาพครับ เรียบง่ายดี มีเอกสารเรื่องประกัน และคู่มืออย่างละฉบับ QR code เพื่อลงทะเบียนตัวเครื่องก็สะดวกมากๆครับ
ยิง QR code ปุ๊ปเราก็เหลือกรอกแค่ข้อมูลส่วนตัวเท่านั้นเอง ส่วนรายละเอียดตัวเครื่อง serial number มันขึ้นเองอัตโนมัติเลย  ส่วนของประกัน 12 เดือนนั้นจะเริ่มจากวันลงทะเบียน และก็ประกันเฉพาะตัวเครื่องฟอกเท่านั้นนะครับ ไม่รวมสายไททาเนียม ตัวหนีบเสื้อ แปลงทำความสะอาด และอื่นๆ อีกอย่างคือไม่สามารถเปลี่ยนเจ้าของได้นะครับ เกิดซื้อเครื่องมือสองมาจากเจ้าของแรกที่ลงทะเบียนเครื่องไปแล้วประกันจะขาดเลยครับ  Clip หนีบที่ให้มาคุณภาพดี หนีบได้แน่นดีมากครับ ส่วนที่เห็นนั่นมันคือเข็มช่องใส่ซิมการ์ดมือถือชัดๆ แต่จริงๆเค้าเอามาให้ทำความสะอาดขนบนเครื่อง M1 อ่ะ เปิดใต้ clip หนีบเสื้อเปิดขึ้นมาก็จะมีสายชาร์จให้ 1 เส้น เป็นหัว micro usb ครับ  คุณภาพสายที่ให้มาดีเลย เส้นใหญ่และหนาดี (ไม่มี adapter ให้นะครับ)

 


อีก hi-light ของ ible Airvida M1 นอกจากตัวเครื่องฟอกแล้วก็จะเป็นตัวสายห้อยคอที่ทำจากไททาเนียมบริสุทธิ์ มีหนังถักสีขาวทับอีกชั้นและปิดหัวท้ายด้วยแม่เหล็ก แข็งแรง สวยงามตามท้องเรื่องครับ โดยตัวไททาเนียมมีการเคลมไว้ว่าช่วยเรื่องการไหลเวียนของเลือดในร่างกายที่ดีขึ้น เนื่องจากใช้ประโยชน์จากอินฟราเลท หรือ Far infrared (FIR) ซึ่งด้วยช่องแสงของ FIR มันมีคุณสมบัติที่ส่งผลดีต่อเยื้อต่างๆของร่างกาย ช่วยกระตุ้นการทำงานของเซลล์หรือเนื้อเยื่อบางกลุ่มได้ครับ ทางการแพทย์ก็มีบ้างที่นำไททาเนียมมาใช้เพื่อเพิ่มความต้านอนุมูลอิสระและรักษาการอักเสบของอวัยวะภายใน และไททาเนียมที่ใช้ทำสายห้อยคอนี้สามารถแพร่ FIR ได้มากถึง 86% รายละเอียดเพิ่มเติมคงต้องลองศึกษากันดูนะครับ  วิทยาศาสตร์บวกข้อมูลทางการแพทย์ทั้งนั้นเลย มึนนนนตึ๊บ!  ส่วนความยาวของสายคล้องคอคือ 45cm สำหรับสายสีขาว และ 50cm สำหรับสายสีอื่นๆ



ตัวเครื่องเล็กและเบามาก (ขนาดเครื่องคือ 2.0cm X 5.7cm X 1.4cm น้ำหนัก 20 กรัม) ติดมาบน docking station ที่เป็นที่ชาร์จในตัว และเป็นฐานสำหรับตั้งโต๊ะเพื่อฟอกอากาศด้วย โดยการชาร์จไฟนั้นกระแสไฟจะเข้าเครื่องผ่านแม่เหล็กของขายึด docking station เลยครับหมดปัญหาช่องชาร์จเสียหรือสกปรกทำให้ไฟไม่เข้าไปได้เลย ส่วนที่สำคัญที่สุดที่ห้ามเสีย ห้ามพัง ต้องคอยทำความสะอาดก็ขนๆดำๆด้านบนเครื่องที่เป็นส่วนที่ช่วยผลิตและกระจายอิออนประจุลบ โดยการใส่คือให้หันตัวเครื่องด้านที่มีลวดลายหันออกนอกตัวคนใส่ ขนสีดำก็จะหันออกไปด้านหน้าเล็กน้อย ประจุที่ส่งออกมาก็จะพุ่งขึ้นมาที่ด้านหน้าระดับจมูกเราพอดี ตามเอกสารกำกับก็แจ้งว่าถ้าไม่สะดวกใส่แบบห้อยคอก็สามารถตั้งโต๊ะหรือใช้คลิปหนีบตรงไหนก็ได้แต่ขอให้อยู่ในระยะไม่เกิน 30cm หรือ 1 ฟุต (1 ไม้บรรทัด) การชาร์จไฟก็ใช้เวลา 3 ชั่วโมง (นานจริงๆ!) ระหว่างรอชาร์จถ่านก็เอาสร้อยมาใส่เก๋ๆได้ อิอิ แล้วดมอิออนไปนานๆมันปลอดภัยต่อร่างกายหรือไม่? อิออนประจุลบ ไม่มีผลต่อร่างกายนะครับ แถมยังช่วยให้คลายเครียดได้ด้วยเพราะมันช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิต Serotonin ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย หรือรู้จักกันในอีกชื่อคือ สารแห่งความสุขครับ 


สรุปผลการใช้:
-        สายยาว 45cm สำหรับผมรู้สึกว่าสั้นไป โดยเฉพาะเวลาใส่กับชุดทำงานมันสั้นเข้ารูปจนเหมือนจะเป็นสร้อยคอแฟชั่นเลย ถ้ายาวหน่อยมันก็จะพอกล้อมแกล้มกับสายคล้องบัตรพนักงานได้ดีขึ้นครับ แถมหากต้องใส่ necktie ทำงานนี่จะไม่เหมาะเลยครับ แนะนำปรับเป็น clip หนีบปกเสื้อ หนีบสายคล้องบัตรพนักงาน หรือบริเวณกระดุมเสื้อเม็ดบนสุดครับ ส่วนสร้อยไททาเนียมก็ใส่เป็นสร้อยคอสวยๆไปแทน หุหุ 
-        เครื่องเล็ก และเบา เวลามันทำงานไม่มีเสียง ไม่สั่น ไม่มีลม ไม่มีกลิ่น ไม่มีอะไรเลย บางทีต้องแกะออกมาดูว่าลืมเปิดเครื่องป่าววะ 555  แต่! ข้อดีของเครื่องนี้คือมีแค่ปุ่มเดียวไม่ยุ่งยากเลย แถมไม่ต้องมีการกดแช่ใดๆ กดแล้วปล่อยก็จะสั่งให้เครื่องเปิด หรือ ปิด เลยครับ ง่ายๆ 

-        แม่เหล็กขั้วเดียวกันผลักกันไม่ดูด เวลาใส่เครื่องกับสร้อยคออย่าลืมกฏข้อนี้ครับ ไม่งั้นใส่ไม่ได้ อิอิ  เวลารีบๆอาจจะหงุดหงิดเล็กน้อย

-        ใส่เอง  ผมเองไม่ได้เป็นคนแพ้อากาศ แม้กระทั่งช่วง PM2.5 สูงๆในกรุงเทพฯผมก็ไม่ได้คัดจมูกหรือหายใจไม่คล่องนะครับ โดยภาพรวมของการใช้เครื่องนี้ 1 อาทิตย์เต็มๆเลยไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงใดๆ  ปกติเวลาผมลงหน้างานจะใส่ mask ในบางช่วง พอลองใช้ ible M1 นี้เลยลองไม่ใส่ mask ทั้งเวลาลงตรวจบ่อพัก และบ่อบำบัดที่ชั้น ground ของตึก ไปดู chiller และ ห้อง control ลิฟท์ที่ดาดฟ้าของตึก  หรือแม้แต่ไปเช็คโรงครัวและห้อง boiler และห้องเก็บแก็สหุงต้ม ก็ไม่รู้สึกว่ามีความแตกต่างใดๆ มีเพียงได้กลิ่นเต็มๆเวลาไปดูบ่อบำบัด 555 ใส่ mask ช่วยกรองกลิ่นได้เยอะครับ  ข้อดีที่เจออันนึงคือ ไม่ร้อนเพราะไม่ต้องใส่ mask หน้าไม่มัน แค่นั้นเอง

-       ให้แฟนลองใส่  แฟนผมค่อนข้างไวต้องฝุ่นหรืออากาศเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยก็จะเริ่มคัดจมูก แต่ไม่ได้เป็นหนักขนาดต้องพ่นจมูกหรือต้องกินยาแก้แพ้นะครับ ช่วงอาทิตย์ที่สองของมีนาคม 63 ที่ผ่านมาจังหวะทดสอบดีมากเลยเพราะอากาศร้อนจัด แถมมี PM2.5 ขึ้นสูงในบางวันด้วย แถมปลายอาทิตย์มีฝนถล่มอีก! ผลที่ได้คือ เหมือนจะหายใจโล่งขึ้นและแทบไม่คัดจมูกเลยโดยเฉพาะช่วงเย็นตอนเตรียมห้องนอนซึ่งเวลาเตรียมเครื่องนอนเป็นช่วงที่ฝุ่นตลบอบอวลที่สุด 

โดยสรุปถ้าคนที่แข็งแรงและไม่ได้แพ้อากาศหรือมีปัญหาเกี่ยวกับไซนัส อาจจะไม่ได้รู้สึกถึงผลใดๆเลย (แบบผม) อีกมุมหนึ่งสำหรับคนที่แพ้อากาศง่ายหรือไวต่ออากาศ หรือมีปัญหากับเรื่องทางเดินหายใจบ่อยๆน่าจะได้รับประโยชน์จากการลงทุนซื้อเครื่องนี้มาใช้พอสมควรครับ ขนาดแฟนผมไม่ได้แพ้อากาศมากมายอะไรยังรู้สึกว่าเครื่องนี้มันช่วยได้เลย  ด้วยค่าตัวที่ 7,990 บาท ที่หน้าเว็ปของ ible Thailand ขอบอกเลยว่าราคาสูงมากครับ  สำหรับผมนั้นอาจจะมองว่าแพงเพราะไม่เห็นผลเปลี่ยนแปลง แต่กับแฟนเธอบอกว่าก็น่าลงทุนซื้อมาใช้เพราะทำให้ไม่มีปัญหาคัดจมูกมากวนใจเพราะการแพ้อากาศ หรือแพ้ฝุ่น ควัน แล้วทำให้คัดจมูกหรือแสบตามันน่าหงุดหงิดมากๆ ทำอะไรก็ได้ไม่เต็มที่ (อารมณ์ประมาณตอนเมนต์มาอ่ะครับ 555) และคนที่แพ้อากาศหนักๆอาจจะช่วยประหยัดค่ายาไปได้ระดับหนึ่งในระยะยาว

ขอบคุณครับ