สำหรับช่วงนี้ที่มีโรคระบาดทำให้คนเที่ยวน้อยลง เลยถือโอกาสนี้มารีวิวสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจใกล้กรุงเทพและที่สำคัญใช้งบน้อยมาก

ไว้เผื่อช่วงที่โรคระบาดหายแล้วการท่องเที่ยวจะได้กลับมาคึกคักอีกครั้งค่ะ 

(เรามีช่องทางรีวิวทริปนี้อีก ทางYoutube เลื่อนไปล่างสุดเลย)

เรามาเริ่มกันที่การเดินทางกันเลยค่ะ

 - สำหรับรถยนต์ส่วนตัว หากใครเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็สามารถปักหมุดไปที่ 'ศูนย์การเรียนรู้ ภูกระเหรี่ยง' ได้เลยค่ะ ซึ่งการเดินทางก็แสนจะสะดวกสบายใช้เวลาเดินทางแค่เพียงประมาณ 1 นิดๆ ชั่วโมงเท่านั้นเองค่ะ

 - สำหรับการเดินทางด้วยรถประจำทาง หากใครเดินทางด้วยวิธีนี้สามารถมาขึ้นรถตู้ที่ท่ารถตู้ตรงด้านข้าง Future Park Rangsit โดยขึ้นรถที่ผ่านโรงพยาบาลนครนายก ลงรถตู้ที่หน้าโรงพยาบาลนครนายกแล้วหาวินบริเวณนั้น(หรือข้ามสะพานลอยมาฝั่งตรงข้ามบริเวณหน้าปากซอยจะมีวินค่ะ)นั่งต่อเข้าไปที่ภูกระเหรี่ยงได้เลยค่ะ (*อย่าลืมขอเบอร์พี่วินไว้ด้วยนะคะ เผื่อขากลับจะได้อุ่นใจ)

เมื่อมาถึงที่ภูกระเหรี่ยงแล้วก็มาถ่ายรูปเช็คอินที่ป้ายสวยๆ ข้างหน้านี้ก่อนดีกว่าค่ะ

ก่อนเข้าไปทัวร์ด้านในเราต้องซื้อบัตรตรงซุ้มด้านหน้าก่อนนะคะ

บัตรราคาเพียงแค่ 49 บาท/คนเท่านั้นค่ะ และที่สำคัญคือบัตรนี้สามารถแลก เครื่องดื่ม หรือ ขนม หรือ อาหารสัตว์ ก็ได้ค่ะ

ตรงจุดนี้คุณลุงขายบัตรน่ารักมากค่ะ ถ้าต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมสามารถสอบถามคุณลุงได้เลยค่ะ

(ไม่ใช่แค่เรื่องในภูกระเหรี่ยงนะคะ แต่เป็นที่เที่ยวใกล้ๆ ลุงก็แนะนำได้ดีมากเลยค่ะ)

เมื่อเข้าไปเข้าในเราจะเจอกับโซนคาเฟ่และโซนโรงเรือนขายต้นไม้ก่อน(ซึ่งแนะนำว่าเข้าไปตะลุยข้างในก่อนค่อยออกมาดื่มเครื่องดื่มที่สดชื่นของทางคาเฟ่ดีกว่าค่ะ)

ต่อมาเมื่อเดินผ่านซุ้มประตูเข้าไปแล้วจะเจอกันสวนและฐานทำกิจกรรมของทางภูกระเหรี่ยงค่ะ

เริ่มต้นที่ฐานแรกคือ 'ฐานทำไข่เค็ม' (ฐานนี้ใช้บัตรแลกเพื่อทำไข่เค็มและจ่ายตังค์เพิ่ม 50 บาทเพื่อนำไข่เค็มกลับบ้านค่ะ)

  

ฐานต่อมาคือ 'ฐานสีข้าว' (ฐานนี้จ่ายตังค์เพิ่ม 100 บาทค่ะ *ในส่วนของฐานนี้ไม่แน่ใจในรายละเอียดค่ะ*)

และฐานสุดท้ายคือ 'ฐานปลูกต้นข้าวอ่อน' (ฐานนี้สามารถใช้บัตรแลกหรือจ่ายตังค์ 50 บาทก็ได้ค่ะ)

เอาล่ะค่ะ เราได้เดินมาถึงแลนด์มาร์กสำคัญของที่นี่แล้วนั่นก็คือออออ

ซึ่งของบอกเลยว่าที่นี่ของจริงสวยมาก เหมาะกับการหามุมถ่ายรูปสวยๆ เป็นที่สุดเลยค่ะ

เพราะทั้งวิวที่ดีและแสงที่ดี แถมยังมีลมเย็นๆ พัดตลอดทั้งวันอีกด้วยค่ะ

บรรยากาศที่นี่เขียวดีมากๆ ยังไงก็อย่าลืมหาเสื้อผ้าสวยๆ เข้าตรีมมาถ่ายรูปกันด้วยนะคะ

[จะใส่เป็นชุดลายผ้าพื้นเมืองหรือจะชุดสีเอิร์ธโทนชิคๆ ก็สวยดีน้าาา]

ในส่วนของทุ่งนาสามารถเดินลงไปบริเวณคันนาได้นะคะ

*คำแนะนำคือ อย่าลืมทาครีมกาแดดมา และที่สำคัญทางภูกระเหรี่ยงมีบริการร่มฟรีตรงทางเข้าด้วยนะคะ*

โซนต่อมาก็คือโซนสวนสัตว์

โซนนี้จะมีอีกหนึ่งฐานโผล่ขึ้นมานั่นก็คือ 'ฐานให้อาหารสัตว์นั่นเอง'

สำหรับค่าเสียหายในจุดนี้ก็จะมี

อาหารน้องแพะ = แลกด้วยบัตรเข้า หรือ จ่ายตังค์ 20 บาท

อาหารน้องปลา = แลกด้วยบัตรเข้า หรือ จ่ายตังค์ 20 บาท

อาหารน้องควาย = แลกด้วยบัตรเข้า หรือ จ่ายตังค์ 20 บาท

ซื้อยกกระเช้าจ่ายเพียง 100 บาท จะได้อาหารน้องอย่างละ 2 ชุดค่ะ

โดยเดินมาไม่ไกลจากซุ้มมากนักก็จะเจอกับประตูทางเข้าไปในกรงน้องนะคะ ในส่วนบริเวณนี้สามารถเข้าไปได้เลยนะคะ

(เปิดประตูแล้วอย่าลืมปิดล็อคด้วยนะคะ เพราะน้องๆ แพะแอบซนมากๆ)

เมื่อเข้าไปสิ่งที่ควรระวังก็คือน้องแพะจะวิ่งกระโดดเข้ามากอดค่ะ โดยเฉพาะสาวๆ น้องจะวิ่งเข้าหาอย่างแรงเลย5555

ในกรงน้องๆ ก็จะมีน้องแพะที่มาอิสระในกรงมากกว่าใครเพื่อน และในบางส่วนจะมีน้องเป็ดและน้องไก่

ส่วนด้านในสุดตรงกับประตูจะมีน้องควายยืนอยู่ในอาณาเขตของตัวเองค่ะ

ตรงหน้าประตูกรงน้องๆ จะมีหอคอยชมวิวค่ะ ใครไหวขึ้นไปเลยค่ะในส่วนนี้ขอบายค่ะเพราะแอบสูง

(แอบกระซิบว่าวิวด้านบนสวยมากเพราะมีตัวแทนขึ้นไปดูให้)

และแล้วเราก็เดินทางมาจนถึงโซนสุดท้ายแล้วซึ่งก็คือจุดแรกที่เราพูดถึงนั่นเอง

"ภูกระเหรี่ยง คาเฟ่"

เมื่อเดินทำกิจกรรม ถ่ายรูป และให้อาหารน้องๆ เสร็จก็อาจจะมีอาการเหนื่อยหล้าและกระหายน้ำเล็กน้อย

ในส่วนนี้ถ้าใครยังมีบัตรเหลือรอดอยู่ในมือก็จะได้ดื่มเครื่องดื่มของทางร้านฟรีไปเลยค่ะ 1 แก้ว

(ส่วนใครที่ใช้บัตรไปแล้วก็ไม่ต้องน้อยใจนะคะ เราสามารถซื้อเครื่องดื่มได้ในราคาที่ไม่แพงเลยค่ะ)

ซึ่งเมนูก็หลากหลายมากๆ มีทั้งเครื่องดื่มร้อนและเย็น

เมนูแนะนำ *น้ำข้าวยาคู ซึ่งเมนูนี้เหมาะกับคนที่ชื่นชอบเครื่องดื่มไม่หวานนะคะ

    

ทางร้านไม่ได้มีแค่เครื่องดื่มและของหวานทานเล่นเท่านั้นนะคะ

แต่ยังมีอาหารด้วยค่ะ

สำหรับการมาเที่ยวที่ภูกระเหรี่ยงครั้งนี้ก็คือประทับใจมากๆ เลยค่ะ เหมือนได้มาชาร์จพลังกับธรรมชาติและน้องๆ เหล่าสัตว์ทั้งหลาย

แถมยังได้รูปสวยๆ และของกินอร่อยติดไม่ติดมือกลับบ้านได้ด้วย

ที่เที่ยวที่สงบ(เพราะมาเที่ยวไม่เยอะและเป็นที่ๆ โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ)และใกล้กรุงเทพแบบนี้หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ

ยังไงก็ของฝาก "ภูกระเหรี่ยง" ไว้ในแพลนเที่ยวนครนายกของเพื่อนๆ ด้วยนะคะ