ไม่รู้จะมีคนเข้ามาอ่านไหมแต่ก็แค่อยากระบายความเศร้าที่มีอยู่ในใจออกมา เริ่มตั้งแต่ม.1 เราเข้าไปร.ร.ที่นึง เพื่อนใหม่ร.ร.ใหม่ทุกอย่างใหม่ไปหมด เราพยายามสร้างสัมพันธ์ สร้างเพื่อน เราสนิทกับเพื่อนกลุ่มนึง และเป็นคนธรรมดาที่คุยได้กับทุกคนในห้อง จนกระทั่งเราชอบเพื่อนเราคนนึง แต่มันเป็นผช. เราเลยไม่กล้าจะบอกไป เราได้แต่บันทึกทุกอย่างที่อยากจะบอกไว้ในโทรศัพท์ แล้วคิดว่าค่อยบอกตอนจบม.3 แต่ตอนม.2 มีเพื่อนคนนึงแกล้งเอาโทรศัพท์เราไปเปิดดูตอนที่เรานอน แล้วมันก็รู้กับเพื่อนทั้งกลุ่ม จากนั้นมันก็สร้างกลุ่มขึ้นมาคุยเรื่องเราโดยเชิญคนทั้งห้อง ว่าคนในห้องคิดว่าไงร่วมถึงคนที่เราชอบด้วย และตั้งแต่ที่คนในกลุ่มรู้ก็ทำตัวแปลกไป ห่างมากขึ้นเรื่อยๆโดยเฉพาะคนนั้น แล้วเราก็รู้ว่ามีคนทำแบบนี้ ก็เพราะคนในห้องอดสงสัยไม่ไหว อยากรู้ความจิงแล้วมาถามเราตัวต่อตัว เราไม่อยากปิดมันอีกแล้ว เลยบอกไป ผลที่ได้คือ เราถูกเพื่อนที่เราไว้ใจหักหลังและทอดทิ้ง รุมแกล้ง นินทา ต่างๆนาๆ และปล่อยให้อยู่คนเดียวไม่มีใครคุยด้วยนอกจากจะมาแกล้งเท่านั้น กินข้าวคนเดียว ทำงานกลุ่มคนเดียวถ้าเข้ากลุ่มไปพวกมันก็จะไม่ทำให้เราคนเดียวอยู่ดี เราอยู่ที่นั้นอย่างทุกข์ทรมานทุกวัน ร้องไห้คนเดียวทุกคืน อยากจะหลับแล้วฝันไปเรื่อยๆในสิ่งที่ไม่มีวันเป็นจิง จนวันนึงเราทนต่อโลกที่รังเกียจเราต่อไปไม่ไหวเลยกินยาฆ่าตัวตายไป แต่ว่าแม่เข้ามาเห็นแล้วส่งโรงพยาบาลทันทำให่เรารอดมาได้ แต่เราก็ไม่สามารถบอกความจิงต่อแม่ได้เพราะเรากลัวกลัวมากๆว่าครอบครัวจะเปลื่ยนไปเราเลยหาเหตุผลอื่นมาแทนแต่เราก็ต้องกลับไปอยู่ที่ห้องเรียนสุดทรมานนั้นเหมือนเดิมถึงการแกล้งจะน้อยลงแต่ก็ไม่มีใครยุ่งกลับเราและนินทาให้ได้ยินอยู่เสมอ เราทนได้เพราะแม่บอกว่ารักเราเราจึงทนความคิดเหล่า จนจบม.3 เราย้ายร.ร. เพื่อที่จะเริ่มชีวิตใหม่ แต่สิ่งที่ติดมาด้วยคือโรคซึมเศร้า ความคิดที่เกลียดตัวเอง อยากฆ่าตัวเองตลอด และสิ่งที่สังคมรังเกียจ เราจึงไม่บอกใครในที่ใหม่ ได้แต่ปิดบัง อึดอัดอยู่อย่างนั้น แต่ก็พยายามทำตัวร่าเริงมีความสุขไปทั้งอย่างนั้น ทั้งที่เวลาเพื่อนของเราด่าเพศที่3 ล้อเลียน พูดถึงเราก็ยังเจ็บปวดแต่ทำอะไรไม่ได้ จนเราอยู่ม.5 เราได้มีความชอบขึ้นอีกครั้ง แต่เราคิดว่าคงไม่เป็นแบบนั้นไปซะทุกคนหรอก เพราะคนนี้ไม่เคยล้อเลียนอะไรเลย บอกในใจว่าต้องพยายามคิดแง่ดีเข้าไว้ จนบอกไปในเฟส แล้วสิ่งที่เราได้ไม่ต่างจากเดิมเลย เราได้แต่ร้องไห้ และลบข้อความทั้งหมดออกไป แต่เพื่อนคนที่เราชอบก็ไม่ได้บอกใครแต่ก็ห่างไปจนมันย้ายห้องไปในประมาณ 1 เดือน หลังจากนั้นก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย แล้วเราก็คิดได้ว่า เรานี่มันน่ารังเกียจจิงๆ อย่าให้ใครรู้ดีกว่า เรายังอยากมีเพื่อนเราอยากมีความสุขที่ไม่ต้องอึดอัดบ้างแต่มันยากที่จะเป็นไปได้ จนม.6 เรามีเพื่อนคนนึงที่คบกันมา3ปี เราหลอกถามแบบขำๆว่าถ้ากูเป็นเกย์จะว่าไง สิ่งที่ได้มาคือ กูเลิกเป็นเพื่อนกับแน่ กูไม่ชอบ กูไม่อยากอยู่ด้วย เราหมดความมั่นใจในตัวเองและเพื่อนทันทีเราเลยคุยกับมันไม่เท่าเมื่อก่อนเพราะกลัวว่าถ้ามันรู้สักวันที่เราเป็นเพื่อนสนิทมากกว่านี้ แต่ก็มีเพื่อน2คน เป็นคู่แฟนชายหญิงคู่นึงที่เราสนิทกันมาตั้งแต่ม.4 เป็นเพื่อนสนิทของเรา เราเป็นเพื่อนกันก่อนที่มันจะเป็นแฟนกันซะอีก สนิทมากกว่าคนที่หลอกถามไป ซึ่งเป็นคนที่ทำให้เราเลิกคิดถึงความเศร้าเวลาอยู่ด้วยกัน มันดีจังที่เรามีเพื่อนแบบนี้แต่บางครั้งเราก็คิดว่าถ้าครอบครัวและเพื่อนสนิทรู้เราจะทำยังไง เราจะมีชีวิตอยู่ได้ยังไงในสังคมที่คนรังเกียจเราขนาดนี้ ไว้จะมาต่อนะเราว่ามันอาจจะน่าเบื่อ ถ้ามันยาว
ประสบการณ์เศร้าๆของคนที่เราเพศเดียวกัน