Trip นี้ หวายทำการวางแผนมาปีกว่า สุดท้ายก็ได้ไปสักที ตื่นเต้นมากๆ
จากหมู่บ้านชาวประมง (lofoten0 ยันหมู่บ้านซานตาคลอส (lapland) เอาให้ครบจบในรอบเดียวค่ะ
10 คืน 11 วัน
จะสรุปงบไว้ให้ หลังจบทริปน้า
อยากได้ file excel ก็กดไลค์กดแชร์เพจแล้ว ทักมาโล้ด ^^
ทริปนี้เริ่มต้นที่หมู่บ้านชาวประมง Lofoten เป็นเกาะๆด้านบนของประเทศ Norway แล้วไปจบที่ Finland
เอาหล่ะ เตรียมตัวกัน
เตรียมตัวก่อนไป :
1. จองที่พักไว้ก่อนเลยโดยเฉพาะ igloo ที่ดังๆ ใน Finland เต็มเร็วมาก ขนาดหวายจองข้ามปี ยังเหลือจำนวนห้องน้อยเลย
2. การจองรถไฟ จองได้ล่วงหน้าแค่ 3 เดือนเท่านั้น Train
3. การจอง Polar Ice Breaker จองได้ก่อน 3 เดือนล่วงหน้า แนะว่าให้รีบจองเพราะไม่งั้นเต็ม และต้องเช็คด้วยนะว่าเค้าเปิดบริการวันไหนบ้าง เพราะไม่ได้มีทุกวัน และรอบก็ไม่เหมือนกัน บางวันมีรอบเช้า บางวันมีรอบบ่าย
4. เตรียมกับข้าวพวก พร้อมกิน มาม่าไปเผื่อเลยเพราะที่ norway หาร้านทานอยาก ส่วนใหญ่จะมีแต่ไส้กรอกตามปั๊มให้กิน และมี super ใหย่ๆที่เมือง Reine
5. ถุงมือ ผ้าพันคอ แผ่นร้อน เตรียมปากกากดมือถือไปเลย เอาไว้ถ่ายรูปจะได้ไม่ต้องถอดมือออกจากถุงมือ
6. หากมี drone เอา drone ไปด้วยและเตรียมแบตสำรองไปเยอะๆเลยค่ะ เพราะว่าพอหนาวแล้วแบตไม่ทน อย่าลืมขาตั้งกล้องสำหรับล่าแสงเหนือ
7. โหลด app ‘aurora’ เพื่อไว้คอยดู aurora
a. วิธีการดู aurora :
BZ คือส่วนหนึ่งของสนามแม่เหล็กดาวเคราะห์ (IMF) ยิ่งติดลบ หมายถึง shoutward ยิ่งดี
KP index 0-9 ยิ่งสูงเท่าไหร่ โอกาสเห็นแสงเหนือก็ยิ่งมากขึ้น ยิ่งเยอะยิ่งดี
8. เช่ารถ :
a. การเช่ารถให้เลือกยางแบบ winter tire
b. แนะนำรถ volkswagen รุ่น Golf variant เพราะค่อนข้างใหญ่กว้างกว่าแบบ toyota collara เยอะมาก
c. ถามว่าขับยากไหม ที่ lofoten ส่วนใหญ่จะเป็นถนนเส้นเดียว ค่อนข้างแคบ ต้องขับระมัดระวังหน่อย ส่วน Finland ค่อนข้างเจริญกว่า ถนนกว้างกว่าขับง่ายกว่า
d. ปั้มน้ำมันที่ Norway ส่วนใหญ่จะให้จ่ายบัตรแต่ในเมืองใหญ่ๆหน่อยก็จะรับเงินสด ให้สังเกดว่ามีป้าย Kassa (cash) หรือป่าว ถ้ามีก็แสดงว่าจ่ายเงินสดได้
e. การเติมน้ำมันที่นี่เป็น self service เติมเสร็จดูเลขตู้จ่ายแล้วเข้าไปจ่ายเงินที่ร้านสะดวกซื้อด้านใน
ปล. การขับรถที่ Finland และ Norway ค่อนข้าง strict เรื่องความเร็วและหากขับเกินกว่ากำหนด ที่ประเทศ Finland จะโดนปรับตาม income
รถ Toyota Corolla
รถ volkswagen Golf varient แนะนำว่าจองอันนี้เถอะ กว้างสบายกว่าเยอ
วิธีการเดินทางไป Lofoten จาก OSLO สามารถไปได้ 3 airport ได้แก่ :
1. OSLO – BODO – SVJ : ไม่ได้มีบินทุกวัน จาก BODO ต้องต่อเครื่องบินใบพัดของ Winderoe
2. OSLO – BODO - LKN : ไม่ได้มีบินทุกวัน จาก BODO ต้องต่อเครื่องบินใบพัดของ Winderoe
3. OSLO – EVE : มีบินตรงโดยสายการบิน SAS / Norwegian และต้องขับรถต่อไปยัง lofoten island
หวายเลือกเดินทางไป EVE จากนั้นเช่ารถต่อและขับต่อไปยัง lofoten island ใช้เวลาประมาณ 2:30 จาก EVE ไป lofoten. เนื่องจากถ้าบินกับสายการบิน Winderoe ราคาค่อนข้างแพง แล้วต้องไปแวะจอดอีกที่ BODO เลยตัดสินใจไปลงสนามบินไกลหน่อยแล้วขับเอาดีกว่า saveค่าเดินทาง ไปเยอะเลย
แผนคร่าวๆของทริปนี้
Day 1 : BKK – OSL , OSL – EVE (Harstad/Narvik airport) - Lofoten, Kabelvag
Day 2 : Lofoten, Sakrisøy
Day 3 : Lofoten, Reine, Hamnoy
Day 4 : Lofoten, Gullesfjord
Day 5 : OSLO – HEL, Train to Kemi เช่ารถ
Day 6 : Kemi – Sweden for Polar Ice breaker cruise
Day 7 : Ranua, Arctic Fox Igloo
Day 8: Rovanimie, Arctic Tree house
Day 9 : Rovanimie, Golden crown – Levin Iglut
Day 10 : Rovanimie – Helsinki
Day 11 : HEL – DOHA - BKK
[CR] Norway Finland ลอยน้ำแข็ง นอน igloo ดูเรนเดียร์ - 11 วัน ไม่ถึงแสน ตอนที่ 1: Lofoten, Norway
https://www.facebook.com/WTravelDiary IG: https://www.instagram.com/waii_jp/
1. จองที่พักไว้ก่อนเลยโดยเฉพาะ igloo ที่ดังๆ ใน Finland เต็มเร็วมาก ขนาดหวายจองข้ามปี ยังเหลือจำนวนห้องน้อยเลย
2. การจองรถไฟ จองได้ล่วงหน้าแค่ 3 เดือนเท่านั้น Train
3. การจอง Polar Ice Breaker จองได้ก่อน 3 เดือนล่วงหน้า แนะว่าให้รีบจองเพราะไม่งั้นเต็ม และต้องเช็คด้วยนะว่าเค้าเปิดบริการวันไหนบ้าง เพราะไม่ได้มีทุกวัน และรอบก็ไม่เหมือนกัน บางวันมีรอบเช้า บางวันมีรอบบ่าย
4. เตรียมกับข้าวพวก พร้อมกิน มาม่าไปเผื่อเลยเพราะที่ norway หาร้านทานอยาก ส่วนใหญ่จะมีแต่ไส้กรอกตามปั๊มให้กิน และมี super ใหย่ๆที่เมือง Reine
5. ถุงมือ ผ้าพันคอ แผ่นร้อน เตรียมปากกากดมือถือไปเลย เอาไว้ถ่ายรูปจะได้ไม่ต้องถอดมือออกจากถุงมือ
6. หากมี drone เอา drone ไปด้วยและเตรียมแบตสำรองไปเยอะๆเลยค่ะ เพราะว่าพอหนาวแล้วแบตไม่ทน อย่าลืมขาตั้งกล้องสำหรับล่าแสงเหนือ
7. โหลด app ‘aurora’ เพื่อไว้คอยดู aurora
a. วิธีการดู aurora :
BZ คือส่วนหนึ่งของสนามแม่เหล็กดาวเคราะห์ (IMF) ยิ่งติดลบ หมายถึง shoutward ยิ่งดี
KP index 0-9 ยิ่งสูงเท่าไหร่ โอกาสเห็นแสงเหนือก็ยิ่งมากขึ้น ยิ่งเยอะยิ่งดี
8. เช่ารถ :
a. การเช่ารถให้เลือกยางแบบ winter tire
b. แนะนำรถ volkswagen รุ่น Golf variant เพราะค่อนข้างใหญ่กว้างกว่าแบบ toyota collara เยอะมาก
c. ถามว่าขับยากไหม ที่ lofoten ส่วนใหญ่จะเป็นถนนเส้นเดียว ค่อนข้างแคบ ต้องขับระมัดระวังหน่อย ส่วน Finland ค่อนข้างเจริญกว่า ถนนกว้างกว่าขับง่ายกว่า
d. ปั้มน้ำมันที่ Norway ส่วนใหญ่จะให้จ่ายบัตรแต่ในเมืองใหญ่ๆหน่อยก็จะรับเงินสด ให้สังเกดว่ามีป้าย Kassa (cash) หรือป่าว ถ้ามีก็แสดงว่าจ่ายเงินสดได้
e. การเติมน้ำมันที่นี่เป็น self service เติมเสร็จดูเลขตู้จ่ายแล้วเข้าไปจ่ายเงินที่ร้านสะดวกซื้อด้านใน
ปล. การขับรถที่ Finland และ Norway ค่อนข้าง strict เรื่องความเร็วและหากขับเกินกว่ากำหนด ที่ประเทศ Finland จะโดนปรับตาม income
วิธีการเดินทางไป Lofoten จาก OSLO สามารถไปได้ 3 airport ได้แก่ :
1. OSLO – BODO – SVJ : ไม่ได้มีบินทุกวัน จาก BODO ต้องต่อเครื่องบินใบพัดของ Winderoe
2. OSLO – BODO - LKN : ไม่ได้มีบินทุกวัน จาก BODO ต้องต่อเครื่องบินใบพัดของ Winderoe
3. OSLO – EVE : มีบินตรงโดยสายการบิน SAS / Norwegian และต้องขับรถต่อไปยัง lofoten island
หวายเลือกเดินทางไป EVE จากนั้นเช่ารถต่อและขับต่อไปยัง lofoten island ใช้เวลาประมาณ 2:30 จาก EVE ไป lofoten. เนื่องจากถ้าบินกับสายการบิน Winderoe ราคาค่อนข้างแพง แล้วต้องไปแวะจอดอีกที่ BODO เลยตัดสินใจไปลงสนามบินไกลหน่อยแล้วขับเอาดีกว่า saveค่าเดินทาง ไปเยอะเลย
แผนคร่าวๆของทริปนี้
Day 1 : BKK – OSL , OSL – EVE (Harstad/Narvik airport) - Lofoten, Kabelvag
Day 2 : Lofoten, Sakrisøy
Day 3 : Lofoten, Reine, Hamnoy
Day 4 : Lofoten, Gullesfjord
Day 5 : OSLO – HEL, Train to Kemi เช่ารถ
Day 6 : Kemi – Sweden for Polar Ice breaker cruise
Day 7 : Ranua, Arctic Fox Igloo
Day 8: Rovanimie, Arctic Tree house
Day 9 : Rovanimie, Golden crown – Levin Iglut
Day 10 : Rovanimie – Helsinki
Day 11 : HEL – DOHA - BKK
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น