สวัสดีครับ ก่อนอื่นเลยผมต้องบอกก่อนว่าครอบครัวผมทำงานเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตาทวด ตอนนี้ผมอยู่บนเกาะแห่งหนึ่งทางภาคใต้ ผมอายุ 25 ปี เป็นผู้ชายผิวดำตัวเล็กผมหยิก ผมมีแฟนคนนึงเธอเป็นชาวเยอรมันอายุน้อยกว่าผมปีนึงเราเจอกันบนเกาะแห่งนี้นี่แหละ ด้วยความที่ผมค่อนข้างเข้าใจวัฒนธรรมฝรั่งก็เลยไม่อยากผูกมัดอะไรอีกอย่างเขาแค่มาเที่ยว เราตกลงคบกันแบบ open relationship ต่างฝ่ายต่างมีอิสระ ช่วงแรกทุกอย่างสีชมพูหมด ปีกว่าที่เราคบกันเธอมาหาผมถึงสามครั้ง มันง่ายกว่าถ้าเกิดเปรียบเทียบกับการที่ผมไปเยอรมนี ผมรักเธอมาก ผมลืมบอกไปเธอกำลังเรียนตำรวจอยู่ปีสุดท้ายช่วงนั้นต่างฝ่ายต่างอยากคุยกัน ผมเลยคิดเลยเถิดว่าคนนี้ละคือคู่ชีวิตผม แต่มาช่วงหลังๆมีแต่ผมที่คอยส่งข้อความหา โทรก็ไม่รับ ผมก็ยังคิดในทางที่ดีเพราะเธอบอกปีสุดท้ายของการเรียนจะหนักหน่อย ก็ไม่ได้คิดอะไรเธอคงไม่ว่าง จนกระทั่งมาวันที่ 17 /1/20 ที่ผ่านมาเธอทักมาบอกผมว่าสถานะเราคงเป็นได้แค่เพื่อน ไอนี่งงตาแตกเลยครับ ไม่เคยร้องไห้ให้ใครนอกจากแม่ตอนที่ถูกตีตอนเด็กๆ ทำใจอยู่พักนึงก็ทักไปบอกเธอว่าผมเป็นเพื่อนเธอไม่ได้ตอนนี้ขอเวลาผมหน่อย ผ่านไป1เดือนผมเริ่มโอเคก็กลับไปคุยกับเธอในสถานะเพื่อนเป็นไงบ้าง สบายดีไหม ผมเลยถือโอกาสบอกเธอไปว่าผมโอเคแล้ว ก็คิดว่าตัวเองตัดใจได้แล้ว หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยได้คุยกันเท่าไหร่ จนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาพ่อของเธอมาประเทศไทยและมาหาผมที่เกาะ เผอิญผมทำงานที่ร้านกาแฟบนเกาะซึ่งเจ้าของก็เป็นฝรั่งอังกฤษผู้หญิงซึ่งเป็นแฟนกับเพื่อนฝรั่งผมอีกคน เรา3คนเพิ่งเปิดร้านด้วยกันตอนนี้ทุกอย่างยังไม่ลงตัวเราก็เลยช่วยกันทำกัน3คน พ่อของเธอก็คิดว่าฝรั่งผู้หญิงเป็นแฟนผมเลยบอกเธอไป หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น ระเบิดลงสิครับเธอส่งข้อความมาด่าผมสารพัด เลวอย่างนู้นเลวอย่างนี้ ผมงงมากจนมารู้ว่าพ่อเธอเข้าใจผิด อีกอย่างถ้าเกิดฝรั่งคนนั้นเป็นแฟนผมจริง เธอมีสิทธิ์มาว่าผมหรอ เพราะเธอเป็นคนที่บอกเลิกผมเอง แล้วเธอมาทำแบบนี้ทำให้ผมคิดถึงเธอเข้าไปอีก เมื่อวานผมเลยตัดสินใจส่งข้อความหาเธอบอกเธอว่าลืมผมเถอะแล้วเราไม่ต้องคุยกันอีก ผมอยากรู้ว่าผมทำถูกไหม ผมยังรักเธอมากนะ แต่ผมก็รักหัวใจผมด้วย เวลาคงช่วยเยียวยาไม่ช้าก็เร็ว เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะ
บอกเลิกทั้งที่ยังรักมาก