สวัสดีครับ คือ พ่อผมได้ก่อหนี้ไว้เป็นเวลาประมาณ 20 กว่าปี มา แล้ว ส่ง บ้าง ไม่ ส่ง บ้าง พักหนี้มาตลอดครับ ตอนนั้นผมยังเด็กมากครับ รู้แค่ว่าแม่เล่าให้ฟังว่า พ่อกู้มาทำสวนแค่ประมาณ 40,000 บาท แต่พ่อไม่เคยส่งปล่อยเฉยไว้ จริงๆ ถ้าจ่ายก็หมดนานแล้ว แต่พอแม่ให้เงินไปจ่ายก็เอาไปเที่ยวหมดเพราะสมัยก่อนแกติดเที่ยวครับ แถมยังปลอมลายมือแม่เอาที่ดินไปตั้งเพิ่มไปอีก จนปัจจุบันก็เกือบ 4 ล้านครับ เรียกได้ว่าเข้าขั้นเลยครับพ่อผม ครอบครัวผม มีพี่น้องกัน 4 คนเป็นลูกชายทั้งหมดครับ ผมเป็นคนสุดท้อง ครอบครัวเราไม่เคยได้อยู่อย่างมีความสุขเลย เพราะทะเลาะกันแต่เรื่องหนี้สินของพ่อ ตอนนี้พ่อผมอายุมากแล้ว70กว่า ทำอะไรไม่ค่อยไหวแล้ว ธนาคารเห็นว่าไม่มีความสามารถชำระหนี้ได้แน่ และธนาคารจึงบังคับให้ลูกๆรับหนี้แทนพ่อโดยการไปไถ่ถอนที่ดิน ที่เป็นหลักทรัพย์ประกันแล้วโอนชื่อเป็นชื่อลูก แต่ไม่มีพี่ชายคนไหนเซ็นรับเลยครับ แรกๆผมยังไม่รู้อะไรสงสารพ่อไม่ได้ศึกษาเรื่องนี้มาก่อนด้วยเลย จึงเป็นผมและภรรยาที่เซ็นรับไป เพราะจดทะเบียนกันแล้ว ทีนี้ธนาคารได้ดูแล้วว่าที่ดินจำนวน150ไร่ ที่มีทั้งสวนทุเรียน และยาง ทางผมคงสามารถปลดหนี้ได้ แต่เรื่องราวกลับวุ่นวายไปอีกครับเมื่อปี 62 ผมได้ลงมือทำสวนทุเรียนให้พ่อเพราะว่าเป็นความหวังเดียว ทำทั้งฤดูกาลเลยครับ อุตส่าห์เหนื่อยทำอย่างตั้งใจคิดกับภรรยาว่าจะได้เอาเงินมาใช้หนี้ให้พ่อ แต่อยู่ๆมา พ่อเริ่มมีคำพูดแปลกๆเริ่มมองเราผิดไป เริ่มจับผิดขึ้น เราพูดแนะนำอะไรไปก็ไม่ค่อยฟัง มารู้ทีหลังว่าเป็นฝีมือของพี่ชายผมคนที่ 3 ที่คอยยุยงพ่อกับแม่ให้ไม่ชอบเรา ใจดำมากๆ ไม่ช่วยแล้วยังจะมาใส่ร้ายอีก เพราะว่าอยากได้เงิน วันนึงผมได้ยินพ่อพูดกับคนอื่นว่าจะซื้อรถยนต์มาไว้ใช้อีกสักคันถ้าขายทุเรียนได้ ผมได้ยินแบบนั้นก็ถามพ่อไปว่า พ่อมีภาระหนี้สินเกือบ 4 ล้านนะพ่อๆ จะก่อหนี้เพิ่มทำไม พ่อก็ด่าผมว่า แล้วทำไมเงินของพ่อ สวนก็ของพ่อ อย่ามายุ่ง ..ผมได้ฟังเเล้วเจ็บจี๊ดสุดๆ เราช่วยท่านแท้ๆ แต่กลับมาเจอคำพูดและความคิดแย่ๆ แบบนี้ พ่อเริ่มไม่ไว้ใจผมมาตั้งแต่วันนั้นครับ กลัวผมจะเก็บเงินทั้งหมดแล้วไม่ให้แกจ่ายบ้าง กลัวผมเอาไปจ่ายเล่นบ้าง (นิสัยพ่อผมถนัดหมุนเงินก้อนใหญ่อยู่แล้ว ดื้อ หัวรั้นครับ) ผมก็ทนๆไปกะว่าขายทุเรียนให้เสร็จๆไปก่อน แต่พอช่วงตัดทุเรียนขาย พ่อกลับไปบอกให้พี่ชายคนนี้มาตัดอีก ผมเจ็บใจซ้ำอีก ไม่บอกเราสักคำผมทะเลาะกับพ่อชุดใหญ่อีก สุดท้ายผมต้องไปพักใจแล้วเค้าก็ตัดทุเรียนพลาดตัดอ่อนไป2-3ตันอีก ผิดคาดที่ผมและพ่อแกตั้งเป้าไว้ เงินที่ขายได้นั้น ควรจะได้ล้านกว่าแต่ไม่ถึง พอได้เงินแกก็ได้ถือสมใจ ผมไม่ได้ถือสักบาท แกเอาไปใช้หนี้นอกระบบซะส่วนใหญ่ จ่ายดอกเบี้ยให้ธกส. ยังไม่พอเลย แถมไปซื้อรถยนต์มาอีก จนแม่ต้องขายที่ดินแม่มาจ่ายอีก 4 การหย่า เรื่องนี้เค้าคิดกัน 2 คนเพราะกลัวผมรู้และว่าเค้าอีก สุดท้ายกรรมมาตกอยู่ที่ผมและภรรยาครับ ที่ต้องเครียดกับเรื่องของพ่อที่เค้าเห็นผิดเป็นถูก และหนี้สินอีกเกือบ4ล้าน ที่ไม่ได้ลดลงไปเลย ทุกวันนี้แกไม่ได้สนใจความรู้สึกของผมเลย ทนงตัวและยังทำตัวไม่รู้ร้อนอีก เหมือนว่าตัวเองไม่ต้องรับผิดชอบหนี้ก้อนนี้แล้ว ปล่อยเวลาให้ผ่านไปถึงแกไม่อยู่ลูกก็ต้องใช้แทนอยู่แล้วประมาณนั้น กรรมซ้ำไปอีกครับ ที่ดินที่ผมทำกินอยู่ทุกวันนี้ก็ยังติดธกส. ร่วมด้วย 23 ไร่ จากแปลงของแม่ที่พ่อปลอมลายมือแม่ไปกู้ ทุกวันนี้มืดแปดด้านครับ ไม่รู้จะทำไงจะไปปรึกษาใคร ทำทุเรียนอีกก็กลัวเป็นแบบเดิม พ่อกับแม่ก็ทำเฉยไม่เคยเปิดใจพูดกับผมเลย ผมทำดีมาตลอดกับท่านทั้ง 2 ครับ แต่เหมือนผมเป็นลูกชังครับ ทำอะไรก็ไม่อยู่ในสายตา เค้ามีลูกรักของเค้า แต่ลูกที่เค้ารักคนโตและคนที่ใส่ร้ายผมก็ติดยางอมแงมเเล้วตอนนี้ครับ แล้วพ่อกับแม่ก็รู้แล้ว ทำให้เค้าอับอายชาวบ้านมากๆเลยทำให้ห่างๆ ลูก 2 คนนี้ครับ ซึ่งผมและพี่ชายอีกคนก็นิสัยไปกันได้อยู่ครับ มีอะไรก็จะมาช่วยกันบ้างครับ แต่เค้าก็มีที่ทำกินของเค้า ไม่ค่อยมีเวลาได้คุยกันเท่าไหร่ ผมเป็นคนเดียวที่ได้ที่ดินพร้อมหนี้ครับ ผมควรทำยังไงดีครับ คิดว่าอีกไม่กี่ปีธกส. คงยึดหมดแน่ๆ ผมทำหน้าที่ลูกดีที่สุดแล้วครับ เจตนาดี ช่วยพ่อกับแม่ทำงานมา ตลอด แต่ท่านไม่รับเอง เจอแบบนี้ไปไม่ถูกแล้วครับ ผมควรแก้ปัญหาอย่างไรดี ครับ ขอบพระคุณครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใส่ข้อความ