. เพราะว่าการนำคลิปเช่นนี้มาโพสต์นั้น มีความเสี่ยงทั้งทางกฎหมายและชีวิตความเป็นอยู่
จู่ ๆ มีคน ๆ หนึ่งมาโพสต์ให้เห็นว่า มีหน้ากากจำนวนมาก มีการขนของขึ้นรถ มีการประกาศขายกันในโลกโซเชี่ยล
ซึ่งก็ควรจะหมดหน้าที่พลเมืองดี ๆ คนหนึ่งอยู่เพียงแค่นั้น แล้วให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
แต่เหตุที่ยังไม่จบ ก็เพราะดันมีภาพถ่ายของคนนั้น คนนี้ คนโน้น ยืนยิ้มแป้นเซลฟี่กัน
เลยกลายเป็นว่า พลเมืองดีที่หาข้อมูลมาให้สาธารณชนได้ทราบ กลับจะต้องมาตอบคำถามท่านผู้ชมว่า
เป็นคนของนักการเมืองฝ่ายไหนหรือเปล่า , ไปหาหน้ากากมาได้ยังไงตั้งสองหมื่นสามหมื่น
แถมยังต้องถกกับสื่อใหญ่ ซึ่งก็ได้ขอโทษขออภ้ย เข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนอู่ฮั่นไปแล้ว
โบนัสล่าสุด ที่ไม่รู้ว่าจะหยุดหรือไม่ ก็คือจะมีการดำเนินการตามกฎหมายกันเสียอีก (อย่าเลยค่ะ คนสวยขอร้อง)
จากการวิแคะแกะเกาของเรา สำหรับสองคำถาม
1. เป็นคนของนักการเมืองฝ่ายไหนหรือเปล่า
เราขอชี้ชัดฟันธงเลยว่า ไม่ใช่คนของนักการเมืองฝ่ายไหน
เพราะว่า ถ้าอยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คงไม่ทะเล่อทะล่าเอามาโพสต์ ให้โจทย์เพียบ
ซึ่งตอนนี้ก็ยังหาที่ลงกันไม่ได้ว่า จะไปลงจอดที่ฝ่ายไหน
2. ไปหาหน้ากากมาได้ยังไงตั้งสองหมื่นสามหมื่น
ถ้าเป็นชาวบ้านธรรมดา ๆ ก็น่าแปลกใจและสงสัย ซึ่งไม่ใช่ความผิดที่จะถาม
แต่ถ้าตามติดเรื่องนี้ตั้งแต่แรก ๆ ที่เริ่มระบาด จะสามารถคาดคะเนได้ว่า
หน้ากากอนามัยจะต้องเป็นสิ่งขาดแคลนในอนาคต
บริษัท ห้างร้าน บ้านเรือน ที่พอจะหาซื้อเก็บเอาไว้ตั้งแต่ช่วงแรก ๆ
ก็คงจะไม่ปล่อยโอกาสนั้นหลุดลอยไป ในขณะที่ยังพอหาซื้อได้
ฉนั้นการที่เพจดังอย่าง "แหม่มโพธิ์ดำ" จะสามารถรวบรวมได้ในจำนวนหมื่น
จากคนที่พอมีเหลืออยู่ จึงถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเราค่ะ
ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ ก็เพื่อที่จะถามว่า
ถ้า"แหม่มโพธิ์ดำ" ยังไม่โพสต์ในวันนั้น
ซึ่งคุณก็มีคลิป แล้วคุณจะโพสต์ในวันนี้หรือไม่คะ
น้องน้ำหวานสงสัยว่า ถ้า "แหม่มโพธิ์ดำ" ไม่นำคลิปออกมาในวันนั้น แล้วจะมีใครไปตามหามาโพสต์ในวันนี้หรือไม่
จู่ ๆ มีคน ๆ หนึ่งมาโพสต์ให้เห็นว่า มีหน้ากากจำนวนมาก มีการขนของขึ้นรถ มีการประกาศขายกันในโลกโซเชี่ยล
ซึ่งก็ควรจะหมดหน้าที่พลเมืองดี ๆ คนหนึ่งอยู่เพียงแค่นั้น แล้วให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
แต่เหตุที่ยังไม่จบ ก็เพราะดันมีภาพถ่ายของคนนั้น คนนี้ คนโน้น ยืนยิ้มแป้นเซลฟี่กัน
เลยกลายเป็นว่า พลเมืองดีที่หาข้อมูลมาให้สาธารณชนได้ทราบ กลับจะต้องมาตอบคำถามท่านผู้ชมว่า
เป็นคนของนักการเมืองฝ่ายไหนหรือเปล่า , ไปหาหน้ากากมาได้ยังไงตั้งสองหมื่นสามหมื่น
แถมยังต้องถกกับสื่อใหญ่ ซึ่งก็ได้ขอโทษขออภ้ย เข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนอู่ฮั่นไปแล้ว
โบนัสล่าสุด ที่ไม่รู้ว่าจะหยุดหรือไม่ ก็คือจะมีการดำเนินการตามกฎหมายกันเสียอีก (อย่าเลยค่ะ คนสวยขอร้อง)
จากการวิแคะแกะเกาของเรา สำหรับสองคำถาม
1. เป็นคนของนักการเมืองฝ่ายไหนหรือเปล่า
เราขอชี้ชัดฟันธงเลยว่า ไม่ใช่คนของนักการเมืองฝ่ายไหน
เพราะว่า ถ้าอยู่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง คงไม่ทะเล่อทะล่าเอามาโพสต์ ให้โจทย์เพียบ
ซึ่งตอนนี้ก็ยังหาที่ลงกันไม่ได้ว่า จะไปลงจอดที่ฝ่ายไหน
2. ไปหาหน้ากากมาได้ยังไงตั้งสองหมื่นสามหมื่น
ถ้าเป็นชาวบ้านธรรมดา ๆ ก็น่าแปลกใจและสงสัย ซึ่งไม่ใช่ความผิดที่จะถาม
แต่ถ้าตามติดเรื่องนี้ตั้งแต่แรก ๆ ที่เริ่มระบาด จะสามารถคาดคะเนได้ว่า
หน้ากากอนามัยจะต้องเป็นสิ่งขาดแคลนในอนาคต
บริษัท ห้างร้าน บ้านเรือน ที่พอจะหาซื้อเก็บเอาไว้ตั้งแต่ช่วงแรก ๆ
ก็คงจะไม่ปล่อยโอกาสนั้นหลุดลอยไป ในขณะที่ยังพอหาซื้อได้
ฉนั้นการที่เพจดังอย่าง "แหม่มโพธิ์ดำ" จะสามารถรวบรวมได้ในจำนวนหมื่น
จากคนที่พอมีเหลืออยู่ จึงถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเราค่ะ
ที่เขียนมาทั้งหมดนี้ ก็เพื่อที่จะถามว่า
ถ้า"แหม่มโพธิ์ดำ" ยังไม่โพสต์ในวันนั้น
ซึ่งคุณก็มีคลิป แล้วคุณจะโพสต์ในวันนี้หรือไม่คะ