เจลล้างมือ ควรเป็นเครื่องสำอางค์ หรือ เป็นเครื่องมือแพทย์
เดิมที เจลล้างมือ ถูกจัดว่าเป็นเครื่องมือแพทย์ เพราะมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อปี 2562
ทำไมเจลล้างมือถึงต้องมีแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์เป็นตัวทำละลายหลัก ซึ่งจะขาดเสียไม่ได้ในเครื่องสำอางค์ทุกชนิด แต่ความจริงที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ คือ แอลกอฮอล์ แบ่งได้เป็นสองประเภท คือประเภทที่ดีต่อผิว กับประเภทที่ไม่ดีต่อผิว
ประเภทที่ดีต่อผิว คือ ไม่ก่อให้เกิดความระคายเคือง ซึ่งได้แก่ แอลกอฮอล์ประเภท Glycol ซึ่งเป็นตัวช่วยกักเก็บน้ำเอาไว้ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิว และ Fatty alcohol เป็นแอลกอฮอล์ที่มีโมเลกุลไปจับกับไขมันหรือน้ำมัน ซึ่งจะไปลดความเป็นแอลกอฮอล์ลง ทำให้ระคายเคืองผิวน้อยลง จึงมักนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ในเครื่องสำอางก็พบมีสารพวกนี้ เช่น
Cetyl alcohol สกัดมาจากมะพร้าว แต่มีบางรายงานบอกว่า มันก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้
Stearyl alcohol สกัดจากมะพร้าวเช่นกัน มีคุณสมบัติช่วยประสาน น้ำและน้ำมันให้เข้ากันได้ดี พบได้ในครีม หรือพวกคอนดิชั่นเนอร์
Cetearyl alcohol เป็นแว็กซ์ที่ช่วยประสานน้ำกับไขมันให้เข้ากันได้ดี พบบ่อยในผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำในน้ำมัน หรือน้ำมันในน้ำ พวกคลีนซิ่ง ยาย้อมผม และครีมกันแดด
ประเภทที่ไม่ดีต่อผิว คือกลุ่มที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว มักเป็นแอลกอฮอล์ที่ถูกแปรสภาพ(Denatured alcohol) ถูกแปรสภาพพิเศษ (SD alcohol) Ethanol , Methanol , Ethyl alcohol , Benzyl alcohol และ Isopropyl alcohol แอลกอฮอล์กลุ่มนี้ จะทำให้ผิวแห้ง ก่อความระคายเคือง และทำลายเซลล์ผิว แต่มีรายงานทางวิทยาศาสตร์ ระบุว่า Ethanol มีความปลอดภัยโดยไม่ก่อให้เกิดมะเร็ง และใช้ฆ่าเชื้อโรคได้ แต่ต้องมีความเข้มข้นสูงถึง 70%
การประกาศให้เจลล้างมือ เป็นเครื่องมือแพทย์ จะมีขั้นตอนการขออนุญาตยุ่งยากกว่าการเป็นเครื่องสำอางค์ ประกอบกับขณะนี้ มีการระบาดของไวรัสโควิดนายทีน ซึงต้องการเจลล้างมือจำนวนมาก เพื่อป้องกันการระบาด กระทรวงจึงมีประกาศใหม่ ยกเว้นของเดิม ที่ให้เป็นเครื่องมือแพทย์ กลายเป็น ให้เป็นเครื่องสำอางค์แทน เพื่อลดความยุ่งยากในการขออนุญาต จะได้มีการผลืตและขออนุญาต ได้ง่ายขึ้น จะได้มีผลิตภัณฑ์ออกมาจำหน่ายเพิ่มขึ้น ป้องกันการขาดตลาด
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/054/T_0005.PDF
ผลจากประกาศนี้ ประชาชน จึงควรต้องแยกแยะให้ถูก ว่า เจลล้างมือ เพื่อถนอมผิว ไม่อาจฆ่าเชื้อได้
ต้องเลือกเจลล้างมือ ที่มีส่วนประกอบเป็น Ethanol และต้องมีความเข้มข้นถึง 70% จึงจะฆ่าเชื้อได้ ถ้าต่ำกว่า 70% จะฆ่าเชื้อไม่ได้ และไม่ควรเอาเจลพวกนี้ไปล้างหน้า เพราะจะก่อให้เกิดการระคายเคือง และเป็นอันตรายต่อเซลลผิวใบหน้า
เรื่องแอลกอฮอล์ในเจลล้างมือที่เป็นข่าว
เดิมที เจลล้างมือ ถูกจัดว่าเป็นเครื่องมือแพทย์ เพราะมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อปี 2562
ทำไมเจลล้างมือถึงต้องมีแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์เป็นตัวทำละลายหลัก ซึ่งจะขาดเสียไม่ได้ในเครื่องสำอางค์ทุกชนิด แต่ความจริงที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ คือ แอลกอฮอล์ แบ่งได้เป็นสองประเภท คือประเภทที่ดีต่อผิว กับประเภทที่ไม่ดีต่อผิว
ประเภทที่ดีต่อผิว คือ ไม่ก่อให้เกิดความระคายเคือง ซึ่งได้แก่ แอลกอฮอล์ประเภท Glycol ซึ่งเป็นตัวช่วยกักเก็บน้ำเอาไว้ ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นของผิว และ Fatty alcohol เป็นแอลกอฮอล์ที่มีโมเลกุลไปจับกับไขมันหรือน้ำมัน ซึ่งจะไปลดความเป็นแอลกอฮอล์ลง ทำให้ระคายเคืองผิวน้อยลง จึงมักนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ในเครื่องสำอางก็พบมีสารพวกนี้ เช่น
Cetyl alcohol สกัดมาจากมะพร้าว แต่มีบางรายงานบอกว่า มันก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวได้
Stearyl alcohol สกัดจากมะพร้าวเช่นกัน มีคุณสมบัติช่วยประสาน น้ำและน้ำมันให้เข้ากันได้ดี พบได้ในครีม หรือพวกคอนดิชั่นเนอร์
Cetearyl alcohol เป็นแว็กซ์ที่ช่วยประสานน้ำกับไขมันให้เข้ากันได้ดี พบบ่อยในผลิตภัณฑ์ประเภทน้ำในน้ำมัน หรือน้ำมันในน้ำ พวกคลีนซิ่ง ยาย้อมผม และครีมกันแดด
ประเภทที่ไม่ดีต่อผิว คือกลุ่มที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว มักเป็นแอลกอฮอล์ที่ถูกแปรสภาพ(Denatured alcohol) ถูกแปรสภาพพิเศษ (SD alcohol) Ethanol , Methanol , Ethyl alcohol , Benzyl alcohol และ Isopropyl alcohol แอลกอฮอล์กลุ่มนี้ จะทำให้ผิวแห้ง ก่อความระคายเคือง และทำลายเซลล์ผิว แต่มีรายงานทางวิทยาศาสตร์ ระบุว่า Ethanol มีความปลอดภัยโดยไม่ก่อให้เกิดมะเร็ง และใช้ฆ่าเชื้อโรคได้ แต่ต้องมีความเข้มข้นสูงถึง 70%
การประกาศให้เจลล้างมือ เป็นเครื่องมือแพทย์ จะมีขั้นตอนการขออนุญาตยุ่งยากกว่าการเป็นเครื่องสำอางค์ ประกอบกับขณะนี้ มีการระบาดของไวรัสโควิดนายทีน ซึงต้องการเจลล้างมือจำนวนมาก เพื่อป้องกันการระบาด กระทรวงจึงมีประกาศใหม่ ยกเว้นของเดิม ที่ให้เป็นเครื่องมือแพทย์ กลายเป็น ให้เป็นเครื่องสำอางค์แทน เพื่อลดความยุ่งยากในการขออนุญาต จะได้มีการผลืตและขออนุญาต ได้ง่ายขึ้น จะได้มีผลิตภัณฑ์ออกมาจำหน่ายเพิ่มขึ้น ป้องกันการขาดตลาด
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/054/T_0005.PDF
ผลจากประกาศนี้ ประชาชน จึงควรต้องแยกแยะให้ถูก ว่า เจลล้างมือ เพื่อถนอมผิว ไม่อาจฆ่าเชื้อได้
ต้องเลือกเจลล้างมือ ที่มีส่วนประกอบเป็น Ethanol และต้องมีความเข้มข้นถึง 70% จึงจะฆ่าเชื้อได้ ถ้าต่ำกว่า 70% จะฆ่าเชื้อไม่ได้ และไม่ควรเอาเจลพวกนี้ไปล้างหน้า เพราะจะก่อให้เกิดการระคายเคือง และเป็นอันตรายต่อเซลลผิวใบหน้า