ขอถามเกี่ยวกับไส้ติ่งแตกของน้องชายหน่อยค่ะ

คือเรื่องของเรื่อง น้องชายเป็นทหารเกณฑ์ มาได้ 4-5 เดือน แล้วจู่ๆเกิดอาการปวดท้องมาก ผู้หมู่เขาเลยพาไปส่ง โรงบาลพระมงกุฎเกล้าของทหาร กว่าจะได้ตรวจ นั่งรอปวดอยู่เกือบชั่วโมง ก็มีหมอ 2 คนมาตรวจ อีกคนสันนิษฐานว่าเป็นโรคกระเพาะ อีกคนบอกลำไส้เป็นแผล แต่แล้วก็มีหมอผู้หญิงมาตรวจอีกทีเขาสงสัย เลยพาเข้าไปฉีดสีและเข้าอุโมงค์ฉายรังสี ถึงได้รู้ว่า ไส้ติ่งน้องชาย แตกแล้ว และมีหนองอยู่เต็มช่องท้อง หมอเลยทำการเจาะใส่สายระบายหนองให้ตั้งแต่ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 นอนโรงพยาบาลให้ยาแก้ปวด และ ยาฆ่าเชื้อ อยู่ ร.พ. ประมาณ อาทิตย์นึง วันที่ 14 กุมภา ก็ให้กลับมารักษาตัวต่อที่บ้าน โดยที่ยังเจาะใส่สายระบายหนองอยู่อย่างนั้น และ ให้ยามากิน และ นัด 18 กับ 25 กุมภา มาล้างแผล แต่สายไม่เปลี่ยนและใช้ถุงเก่า และนัดเอ็กซเรย์ฉีดสีเข้าอุโมงค์อีกวันที่ 3 มีนาที่ผ่านมา และรอผล วันที่ 10 และนัดอีกทีวันที่ 17 มีนาคม แต่ยาฆ่าเชื้อไม่ยอมให้ บอกยาหมดแล้วก็ไม่ต้องกินแล้ว ทั้งที่น้องยังต้องใส่สายระบายหนองอยู่ แล้วหนองเริ่มมีลักษณะสีออกเขียวๆคล้ำๆ ไม่เหลืองเหมือนช่วงแรกๆ น้องชายเราบอกเริ่มมีอาการ มือชาๆไม่ค่อยมีแรงทั้ง 2 ข้างด้วย แต่หมอบอกไม่เป็นไร คือเราอยากรู้ว่า ปกติเคยได้ยินแต่ ถ้าไส้ติ่งแตก ต้องได้รับการผ่าตัดโดยทันที ดูดล้างหนองและตัดไส้ติ่งตรงนั้นออกไป ไม่เคยได้ยินว่าให้ใส่สายระบายและมารอที่บ้านอยู่นานเป็นเดือน แบบนี้ เสี่ยงกะการติดเชื้อมาก ยาก็ไม่มีให้เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่อาจจะติดตรงท้องที่เจาะได้ จะขอย้าย ร.พ. ก็ไม่ให้ เพราะเขาว่า ไม่ใช่พลเรือน เพราะย้ายทะเบียนราษฎร์มาเป็นพลทหารแล้ว ก็ต้องใช้สิทธิการรักษาที่ ร.พ. นี้เท่านั้น อยากทราบว่าแบบนี้มันปกติมั้ยคะ เรากลัวน้องชายจะติดเชื้อในกระแสเลือดมากค่ะ เพราะปล่อยระยะเวลามานานมาก ตั้งแต่ 8 กุมภา ถึง จะวันที่ 10 มีนาแล้วค่ะ ยังไม่ทำอะไรให้สักที
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่