หลังจากหยุดทำงานประจำที่อยู่กับที่ ก็ได้เดินทางไปไหนต่อไหน ผ่านมาสิบกว่าปี
จึงคิดรวบรวมเจดีย์พิพิธภัณฑ์ที่เคยไปทั้งที่ตั้งใจ และไม่ได้ตั้งใจมาไว้ที่นี่
หลวงปู่ขาว อนาลโย เป็นคนอำนาจเจริญ
ออกบวชในมหานิกายที่วัดโพธิ์ศรีอำนาจเจริญ หลังจากแต่งงานมีบุตร 3 คน ก็ได้แยกทางกับภรรยา
อายุ 31 ปีจึงบวช บาชได้ 8 ปี ก็ตามพระอาจารย์มั่นธุดงค์ไปที่ต่าง ๆ
เคยเดินธุดงค์ร่วมกับ หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่แหวน หลวงปู่ตื้อ หลวงปู่ชอบ
เป็นเวลารวมกันหลายปีอีกด้วย
ในที่สุดก็มาพำนักจำพรรษาอยู่ที่
วัดถ้ำกลองเพล อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู เมื่อ พ.ศ.2501
จวบจนมรณภาพ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2526
กุฏิหลวงปู่ขาว
เดินวนอ้อมไปทางหลังถ้ำ
กุฏิเก่าหลวงปู่ขาว ... เรียกถ้ำผาผึ้ง
จากกุฏิ มองไปตรงหน้าคือ หินพญาหงส์
?
กู่อัฐิหลวงปู่ขาว
ที่เสนาสนะป่ากลางทุ่งนา บ้านโหล่งขอด อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ท่านเล่าว่า
เย็นวันหนึ่ง เมื่อปัดกวาดเสร็จออกจากที่พักไปสรงน้ำ ได้เห็นข้าวในไร่ชาวเขากำลังสุกเหลืองอร่าม ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาในขณะนั้นว่า
ข้าวมันงอกขึ้นมาเพราะมีอะไรเป็นเชื้อพาให้เกิด
ใจที่พาให้เกิด ตายอยู่ไม่หยุด ก็น่าจะมีอะไรเป็นเชื้ออยู่ภายในเช่นเดียวกันกับเมล็ดข้าว
เชื้อนั้นถ้าไม่ถูกทำลายเสียที่ใจให้สิ้นไป จะต้องพาให้เกิดตายอยู่ไม่หยุด
ก็แล้วอะไรเป็นเชื้อของใจเล่า ถ้าไม่ใช่กิเลส อวิชชา ตัณหาอุปทาน
ท่านคิดทบทวนไปมา โดยถืออวิชชาเป็นเป้าหมายแห่งการวิพากษ์วิจารณ์ พิจารณาย้อนหน้าถอยหลัง อนุโลม ปฏิโลมด้วยความสนใจ
อยากรู้ตัวจริงแห่งอวิชชานับแต่หัวค่ำจนดึกไม่ลดละ การพิจารณา ระหว่างอวิชชา กับ ใจ
พอจวนสว่างจึงตัดสินกันลงได้ด้วยปัญญาอวิชชาขาดกระเด็นออกจากใจไม่มีอะไรเหลือ
การพิจารณาข้าวก็มายุติกันที่ข้าวสุก หมดการงอกอีกต่อไป
การพิจารณาจิตก็มาหยุดกันที่อวิชชาดับ กลายเป็นจิตสุกขึ้นมาเช่นเดียวกับข้าวสุก
จิตหมดการก่อกำเนิด เกิดในภพต่างๆอย่างประจักษ์ใจ
สิ่งที่เหลือให้ชมอย่างสมใจคือความบริสุทธิ์แห่งจิตล้วนๆ ในกระท่อมกลางเขา มีชาวป่าอุปัฏฐากดูแล
ขณะที่จิตผ่านดงหนาป่ากิเลสวัฏฏ์ไปได้แล้ว เกิดความอัศจรรย์อยู่คนเดียว
ตอนอรุณรุ่งพระอาทิตย์ก็เริ่มสว่างบนฟ้า ใจก็เริ่มสว่างจากอวิชชาขึ้นสู่ธรรมอัศจรรย์
เครดิท มุทิตา ผู้ช่วยแอดมิน //www.jetovimut.com/forum/index.php?topic=779.0
ไปเจดีย์พิพิธภัณฑ์
“ ปล่อยจิตว่าง แล้วจิตสบาย
เพราะจิตเป็นหนึ่งไม่ขุ่นมัว ไม่มีอารมณ์มาฉาบทา
ดวงจิต แล้ว ดวงจิตขาว จิตเย็น มีแต่ความสบาย
รู้เท่าสังขาร รู้เท่าความเป็นจริง
จิตเราไม่หวั่นไหวต่อ สิ่งทั้งปวง
ถึงมรณะจะมาถึงก็ตาม
ทุกขเวทนาเจ็บปวด มาถึงก็ตาม
ไม่มีความหวั่นไหว ต่อสิ่งเหล่านั้น ”
บันทึกไว้เมื่อ ปี พ.ศ. 2519 , 10 ตุลาคม 2557 , 6 ตุลาคม 2558
เจดีย์พิพิธภัณฑ์
พระอาจารย์ จวน กุลเชฏโฐ - วัดเจติยาคีรีวิหาร อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ
https://ppantip.com/topic/39660727
พระอาจารย์อุ่น กลฺยาณธมฺโม - วัดป่าวิสุทธิธรรม อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร
https://ppantip.com/topic/39663313
พระอาจารย์หลุย จันทสาโร - วัดถ้ำผาบิ้ง
https://ppantip.com/topic/39671654
พระอาจารย์ เทสก์ เทสรํสี - วัดหินหมากเป้ง ศรีเชียงใหม่ หนองคาย
https://ppantip.com/topic/39678857
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ - วัดดอยแม่ปั๋ง
https://ppantip.com/topic/39684211
หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร - วัดถ้ำผาปล่อง
https://ppantip.com/topic/39689410
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม - วัดป่าสัมมานุสรณ์
https://ppantip.com/topic/39694282
เจดีย์พิพิธภัณฑ์หลวงปู่ขาว อนาลโย - วัดถ้ำกลองเพล อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู
จึงคิดรวบรวมเจดีย์พิพิธภัณฑ์ที่เคยไปทั้งที่ตั้งใจ และไม่ได้ตั้งใจมาไว้ที่นี่
หลวงปู่ขาว อนาลโย เป็นคนอำนาจเจริญ
ออกบวชในมหานิกายที่วัดโพธิ์ศรีอำนาจเจริญ หลังจากแต่งงานมีบุตร 3 คน ก็ได้แยกทางกับภรรยา
อายุ 31 ปีจึงบวช บาชได้ 8 ปี ก็ตามพระอาจารย์มั่นธุดงค์ไปที่ต่าง ๆ
เคยเดินธุดงค์ร่วมกับ หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่แหวน หลวงปู่ตื้อ หลวงปู่ชอบ
เป็นเวลารวมกันหลายปีอีกด้วย
ในที่สุดก็มาพำนักจำพรรษาอยู่ที่
วัดถ้ำกลองเพล อำเภอเมือง จังหวัดหนองบัวลำภู เมื่อ พ.ศ.2501
จวบจนมรณภาพ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2526
เย็นวันหนึ่ง เมื่อปัดกวาดเสร็จออกจากที่พักไปสรงน้ำ ได้เห็นข้าวในไร่ชาวเขากำลังสุกเหลืองอร่าม ทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาในขณะนั้นว่า
ข้าวมันงอกขึ้นมาเพราะมีอะไรเป็นเชื้อพาให้เกิด
ใจที่พาให้เกิด ตายอยู่ไม่หยุด ก็น่าจะมีอะไรเป็นเชื้ออยู่ภายในเช่นเดียวกันกับเมล็ดข้าว
เชื้อนั้นถ้าไม่ถูกทำลายเสียที่ใจให้สิ้นไป จะต้องพาให้เกิดตายอยู่ไม่หยุด
ก็แล้วอะไรเป็นเชื้อของใจเล่า ถ้าไม่ใช่กิเลส อวิชชา ตัณหาอุปทาน
ท่านคิดทบทวนไปมา โดยถืออวิชชาเป็นเป้าหมายแห่งการวิพากษ์วิจารณ์ พิจารณาย้อนหน้าถอยหลัง อนุโลม ปฏิโลมด้วยความสนใจ
อยากรู้ตัวจริงแห่งอวิชชานับแต่หัวค่ำจนดึกไม่ลดละ การพิจารณา ระหว่างอวิชชา กับ ใจ
พอจวนสว่างจึงตัดสินกันลงได้ด้วยปัญญาอวิชชาขาดกระเด็นออกจากใจไม่มีอะไรเหลือ
การพิจารณาข้าวก็มายุติกันที่ข้าวสุก หมดการงอกอีกต่อไป
การพิจารณาจิตก็มาหยุดกันที่อวิชชาดับ กลายเป็นจิตสุกขึ้นมาเช่นเดียวกับข้าวสุก
จิตหมดการก่อกำเนิด เกิดในภพต่างๆอย่างประจักษ์ใจ
สิ่งที่เหลือให้ชมอย่างสมใจคือความบริสุทธิ์แห่งจิตล้วนๆ ในกระท่อมกลางเขา มีชาวป่าอุปัฏฐากดูแล
ขณะที่จิตผ่านดงหนาป่ากิเลสวัฏฏ์ไปได้แล้ว เกิดความอัศจรรย์อยู่คนเดียว
ตอนอรุณรุ่งพระอาทิตย์ก็เริ่มสว่างบนฟ้า ใจก็เริ่มสว่างจากอวิชชาขึ้นสู่ธรรมอัศจรรย์
เครดิท มุทิตา ผู้ช่วยแอดมิน //www.jetovimut.com/forum/index.php?topic=779.0
ไปเจดีย์พิพิธภัณฑ์
เจดีย์พิพิธภัณฑ์
พระอาจารย์ จวน กุลเชฏโฐ - วัดเจติยาคีรีวิหาร อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ https://ppantip.com/topic/39660727
พระอาจารย์อุ่น กลฺยาณธมฺโม - วัดป่าวิสุทธิธรรม อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร https://ppantip.com/topic/39663313
พระอาจารย์หลุย จันทสาโร - วัดถ้ำผาบิ้ง https://ppantip.com/topic/39671654
พระอาจารย์ เทสก์ เทสรํสี - วัดหินหมากเป้ง ศรีเชียงใหม่ หนองคาย https://ppantip.com/topic/39678857
หลวงปู่แหวน สุจิณโณ - วัดดอยแม่ปั๋ง https://ppantip.com/topic/39684211
หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร - วัดถ้ำผาปล่อง https://ppantip.com/topic/39689410
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม - วัดป่าสัมมานุสรณ์ https://ppantip.com/topic/39694282