สวัสดีค่ะ เราเป็นนักศึกษาที่จบมาได้พักนึงแล้วแต่ยังทำงานได้ไม่ถึงปี เราท้อใจอยู่หลายครั้งมากๆกับการทำงานครั้งแรก อยากให้พี่ๆช่วยสอน ให้กำลังใจ หรือช่วยเปลี่ยนความคิดในการทำงานของเราหน่อยค่ะ เพราะเรารู้สึกว่า เรามีความคิดที่ "เด็ก" จนเกินไป
ขออนุญาตเล่าเรื่องราวในกล่องสปอยนะคะ เผื่อว่าบางท่านอาจจะไม่อยากอ่านเรื่องราว สามารถข้ามได้เลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เรื่องราวนี้จะเป็นการระบายนะคะ งานนี้เป็นงานแรกของเราค่ะ ความจริงคือเราอยากทำงานด้านนิเทศ คอนเทนต์ต่างๆ แต่เราไม่ได้จบสายนี้มาค่ะ เราจบภาษาไทยและวรรณกรรมมา ตอนไปสัมภาษณ์ที่แรกเขาบอกว่าเราใช้ภาษาอังกฤษได้ดี ทำไมไม่ลองสมัครงานที่ใช้ภาษาอังกฤษดู เราเลยลองสมัครค่ะแล้วได้เลย งานอันนี้มันคือ งานแปล/งานล่าม ค่ะ ซึ่งเราต้องบอกตรงๆว่า เราไม่ได้เป็นคนที่เก่งภาษาอังกฤษขนาดนั้น ยังพูดผิดแกรมม่า ยังแอบลักไก่ใช้กูเกิ้ลแปลอยู่เลยซึ่งเราก็บอกเจ้านายไปตรงๆนะคะว่าเราไม่ได้เป็นคนที่เก่งภาษาอังกฤษขนาดนั้น แต่เจ้านายเราก็โอเคค่ะ รับเราเข้าทำงาน
มีอยู่วันนึงเราต้องทำงานเป็นล่ามครั้งแรก เราเครียดมากค่ะ เครียดจนหัวจะระเบิดเพราะแปลไม่ทัน แปลได้แบบงูๆปลาๆ แต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี ซึ่งเจ้านายก็ไม่ได้พูดหรือว่าอะไร แต่เราเป็นคนที่รู้ตัวเองว่าถ้าทำงานออกมาไม่ดี เราจะรู้สึกแย่มาก เหมือนเป็นตัวถ่วงอะค่ะ ซึ่งประสบการณ์ครั้งแรกวันนั้นก็ยังเป็นฝันร้ายของเรามาตลอด ซึ่งหลังจากวันนั้นก็ยังไม่ได้ทำหน้าที่ล่ามแบบจริงๆจังๆอีกเลยนะคะ มีแค่ช่วยเป็นตัวกลางในการคุยระหว่างเจ้านายกับแม่บ้าน พี่คนขับรถเฉยๆ แต่ปัญหามันอยู่ตรงนี้ค่ะ
เจ้านายเราให้เราทำทุกอย่าง บางอย่างที่เป็นงาน(ที่ดูเหมือนว่าจะเป็น)ของเลขาก็กลายเป็นของเรา เช่น ติดต่อทำwork permit, ติดต่อกระทรวง ติดต่อสำนักงานต่างๆ, ติดต่อทำรายงานตัว 90 วันสำหรับชาวต่างชาติ, ออกไปข้างนอก/ประชุมกับเขา ซึ่งตัวข้อสุดท้ายเป็นตัวที่ทำให้เรานอยด์ที่สุดค่ะ เราเป็นคนกลัวการเจอคนแปลกหน้า เรากลัวว่าถ้าออกไปจะต้องเป็นล่ามมั้ย แล้วบางทีไปเจอคนใหญ่คนโตค่ะ ถ้าเราเป็นล่ามแล้วแปลไม่ได้จะทำยังไง เราเครียดมาก บางทีเครียดจนนอนไม่หลับเลยค่ะ เราเป็นคนที่คิดมากมากๆ และเพราะความรู้สึกแบบนี้มันทำให้เราไม่อยากออกไปข้างนอก และทำให้หลายๆครั้งอยากลาออก เพราะรู้สึกว่างานนี้มันไม่ใช่งานของเรา มันทำให้เรากดดันตัวเองทุกครั้ง หรือบางทีนายส่งไฟล์งานมาให้ 9 งาน งานละ 70+หน้าแล้วแปลให้หมดทุกหน้า เราก็เหนื่อยเหมือนกันค่ะ ท้อใจจนร้องไห้อยู่หลายรอบ อยากจะบอกว่างานเท่านี้ เงินเดือนของเราไม่ถึงสองหมื่นนะคะ แต่เคยคุยกับเจ้านายเรื่องขอขึ้นเงินเดือน เขาบอกหากต่อสัญญาจะขึ้นให้แต่เราก็รู้สึกว่าเมื่อเทียบกับจำนวนงานที่ทำแล้วมันไม่พออยู่ดี ข้อดีของนายเราคือ เขาจะให้พนักงานพูดตรงๆค่ะว่า ถ้าไม่โอเคยังไงอยากให้คุยกัน อยากให้บอกตรงๆ ตรงนี้เราก็ยังลังเลอยู่ว่าจะบอกเขาไปตรงๆดีมั้ย
เราเคยคุยกับเพื่อน เพื่อนก็บอกว่างานเราเยอะเกินไปไม่คุ้มค่าจ้าง เราเป็นเลขาเหรอทำไมถึงทำงานแบบนี้ เจ้านายคงรักแกมั้ง เห็นแกทำงานดีเลยใช้งานบ่อยแล้วก็ขำๆกัน แต่พอเจอจริงๆมันไม่ขำเลยค่ะ เราเคยคุยกับพี่สาว พี่ก็บอกว่า เจ้านายเธอดีมากนะให้พูดตรงๆได้ด้วย ถ้าพี่เป็นเรา พี่จะสู้ตายกับงานนี้เลย แต่พี่เราเรียนจบเอกฝรั่งเศสมาค่ะ เก่งอังกฤษมากด้วย เราก็รู้สึกว่า ถ้าเราเก่งเท่าพี่บ้าง มันก็คงลดความกดดันไปได้บ้าง
แทบจะทุกครั้งที่เจอเรื่องแบบนี้ เราจะพยายามคิดตลอดว่า การทำงานจะทำให้เราโตขึ้น เหนื่อยหน่อยแต่มันจะเป็นประสบการณ์ที่ดีไม่มากก็น้อย แต่มันยังลบความรู้สึกนอยด์/เหนื่อยไม่ได้เลยค่ะ บางทีก็นอยด์จนเดินกลับบ้านไปร้องไห้ไป เพราะไม่อยากทำ ซึ่งมันเป็นความคิดที่ไม่โตเลย เราไม่ชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้แต่ก็ห้ามมันไม่ได้ตลอด อีกอย่างเรารู้สึกว่าเราเป็นคนที่มองโลกในแง่ร้ายมากด้วย เคยเครียดจนเป็นโรคกระเพาะ+ไมเกรนอยู่ช่วงนึงด้วยค่ะ
คำถามคือ จะทำอย่างไรให้เป็นคนที่มีมุมมองความคิดที่ดีขึ้นและโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เราเข้าใจว่าทุกคนต้องเคยท้อและเหนื่อยกับงาน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้สึกนอยด์กับงานเหมือนเรา จะทำยังไงให้ความรู้สึกนอยด์ เหนื่อยใจ ความรู้สึกแย่ๆที่มีต่องาน (ที่มีจำนวนเยอะ) หายไป เราอยากเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี อยากเป็นคนที่เครียดน้อยลงและอยากมีแพชชั่นในการทำงานแม้ว่างานนั้นจะไม่ใช่งานที่ชอบก็ตาม เรามีความคิดว่า คนที่จะประสบความสำเร็จได้คือคนที่อดทนและไม่เกี่ยงงาน สมองเราคิดได้นะคะแต่ใจมันนอยด์ เครียดจนไม่อยากทำเลย จะทำอย่างไรดี
ทำยังไงให้มีความคิดที่โตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นคะ เพื่อจะได้เป็นคนที่ทำงานได้ดีและมองโลกได้ดีขึ้น
ขออนุญาตเล่าเรื่องราวในกล่องสปอยนะคะ เผื่อว่าบางท่านอาจจะไม่อยากอ่านเรื่องราว สามารถข้ามได้เลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คำถามคือ จะทำอย่างไรให้เป็นคนที่มีมุมมองความคิดที่ดีขึ้นและโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เราเข้าใจว่าทุกคนต้องเคยท้อและเหนื่อยกับงาน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะรู้สึกนอยด์กับงานเหมือนเรา จะทำยังไงให้ความรู้สึกนอยด์ เหนื่อยใจ ความรู้สึกแย่ๆที่มีต่องาน (ที่มีจำนวนเยอะ) หายไป เราอยากเป็นคนที่มองโลกในแง่ดี อยากเป็นคนที่เครียดน้อยลงและอยากมีแพชชั่นในการทำงานแม้ว่างานนั้นจะไม่ใช่งานที่ชอบก็ตาม เรามีความคิดว่า คนที่จะประสบความสำเร็จได้คือคนที่อดทนและไม่เกี่ยงงาน สมองเราคิดได้นะคะแต่ใจมันนอยด์ เครียดจนไม่อยากทำเลย จะทำอย่างไรดี