นี่เป็นกระทู้แรกของเราในพันทิปเลย คือจริงๆต้องการแชร์และขอบคุณกระทู้ต่างๆที่เราได้อ่านและได้ทำตามที่หลายๆกระทู้แนะนำในการทำวีซ่า
ก่อนอื่นเราอยากจะขอบคุณผู้เขียนรีวิวเจ้าของกระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/38766611 เพราะเจ้าของกระทู้เขียนรายละเอียดและขั้นตอนได้ดีมากก ลองอ่านดูนะคะ ^^
เจ้าของกระทู้ต้องการทำเอกสารยื่นวีซ่าด้วยตัวเอง เพราะเห็นหลาย Agency รับทำและเตรียมเอกสารให้ แต่ราคาค่อนข้างสูง และพอวันที่เข้าสัมภาษณ์จริงเราเห็นหลายคนที่ทำเอกสารผ่าน Agency แต่กลับไม่ผ่านวีซ่าก็มี
อันนี้ไม่ดราม่านะคะ
ดังนั้นถ้าหากมีเวลาเตรียมเอกสารเอง ทบทวนเอง เวลาตอบคำถามเราจะรู้ว่าเราตอบแบบไหนชัดเจนได้ โอกาสได้ก็
อาจจะมากกว่ากันนะคะ
>>> แต่ถ้าท่านใดไม่มีเวลา หรือ ไม่มั่นใจในการทำวีซ่าเองก็ลองปรึกษา Agency ทำวีซ่าเลยจ้าา <<<<
1. เพศ หญิง โสด อายุ 28 ปี
2. เดินทางคนเดียว (จริงๆเราแพลนไปเที่ยวกับเพื่อน แต่บอกว่าไปคนเดียวดีสุด )
3. ทำงานเป็นตัวแทนประกันชีวิตแห่งหนึ่ง
4. รายได้ของเราไม่คงที่
5. เคยเดินทางท่องเที่ยวไปต่างประเทศ ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี สวีเดน และสเปน
6. เคยไป Work & Travel ที่อเมริกา 2 ครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อ 3 ปีก่อน
เอกสารที่ต้องเตรียมในการขอวีซ่า และวันสัมภาษณ์วีซ่าให้เตรียมไปด้วย กันไว้เผื่อเค้าขอดู
1. รูปถ่ายเพื่อทำซ่าอเมริกาโดยเฉพาะ ขนาด 2 x 2 นิ้ว พื้นหลังขาว เห็นหูชัดเจนไม่มีไรผมบังหน้า 1 ใบ
2. นำ passport เล่มปัจจุบันตัวจริง และ passport เล่มเก่าที่เคยเดินทางไปต่างประเทศ (ถ้ามีแนะนำให้นำไปด้วย)
3. ใบรับรองการทำงานภาษาอังกฤษ
4. สำเนาบัตรตัวแทนประกันชีวิต
5. รูปภายประกอบเกี่ยวกับอาชีพว่าทำงานอะไร อย่างไร ให้ชัดเจนขึ้น เผื่อเค้าถาม
6. สำเนา statement การเดินเงินบัญชีธนาคาร ภาษาอังกฤษ (เราปริ๊นเอาจาก APP ธนาคารในมือถือ )และสมุด Book bank เล่มจริง
7. ใบแสดงรายได้ ทวิ 50
8. สำเนาทะเบียนบ้าน
9. แพลนการเดินทางท่องเที่ยว + ที่พัก ว่าไปเครื่องบินสายการบินอะไร ไฟท์ไหน พักที่ไหน ไปเที่ยวที่ไหนบ้าง กี่วัน
10. ใบยืนยันการสมัคร DS-160
11. ใบยืนยันการนัดสัมภาษณ์วีซ่า
12. ปากกา (เอาไว้จดเลขไปรษณีที่จะส่งกลับมาที่เรา)
เมื่อเอกสารพร้อมแล้ว ขั้นตอนในการขอสัมภาษณ์มีดังนี้
1.1ทำการสมัคร DS-160 ที่ website นี้เลยจ้า :
https://ceac.state.gov/genniv/
และขั้นตอนการสมัครก็ขอให้ดูตามขั้นตอนกระทู้นี้เลย :
https://ppantip.com/topic/35021980 กระทู้นี้ขั้นตอนการสมัครระเอียดมากกกน๊า
**แนะนำนิดนึง ควรกรอกรายละเอียดการทำงานให้ละเอียดก็ดีน๊า จะเป็นตัวช่วยในการผ่านวีซ่าได้ดีขึ้น
1.2 เมื่อสมัคร DS-160 เสร็จ ก็สมัครการยื่นขอสัมภาษณ์วีซ่าต่อเลยจ้า ที่ website :
https://www.ustraveldocs.com/th/th-steps.asp หลังจากสมัครเสร็จก็นำเงินไปจ่ายที่ธนาคาร (อย่าลืมปริ๊นใบจ่ายเงินของธนาคารกรุงศรีไปด้วยนะคะ จ่ายเงินแล้วเช็คเลขรหัสเราให้เรียบร้อยว่าตรงกันมั้ย) ตอนที่เราสมัคร เลทเงินตอนนั้น 31 บาท ค่าสมัครขอวีซ่าของ จขกท 4,960 บาท หลังจากชำระเงินเสร็จแล้ววันรุ่งขึ้นช่วงเที่ยง (กรณีที่ผู้ขอชำระเงินในวันธรรมดา)ก็สามารถเข้าจองนัดวันสัมภาษณ์วีซ่าได้แล้ว
**การนัดสัมภาษณ์วีซ่า หากผู้เข้าสัมภาษณ์ติดธุระด่วน หรือ ไม่พร้อม สามารถเลื่อนการสัมภาษณ์วีซ่าออกไปได้ 3 ครั้ง และเลื่อนช้าสุด หรือ 1 วันก่อนวันสัมภาษณ์วีซ่า
1.3 เตรียมตัวเตรียมใจเข้าสัมภาษณ์วีซ่า
- ก่อนถึงวันสัมภาษณ์วีซ่าแนะนำให้เตรียมข้อมูล ท่องแพลนการท่องเที่ยว ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวไปดีดี ถ้าเป็นคนจำยากๆก็ท่องแค่ชื่อเมืองใหญ่ๆที่เราจะไป โรงแรมก็ท่องชื่อที่พักแค่คืน สองคืนแรกก็ได้ อย่าลืมปริ๊นแพลนการเดินทางไปด้วยนะ
- ปริ๊นข้อมูลคำถาม และเตรียมคำตอบเพื่อการสัมภาษณ์ คำถามที่ทุกคนจะเจอจะประมาณนี้
http://topicstock.ppantip.com/klaibann/topicstock/2011/07/H10811439/H10811439.html ลองเข้าไปอ่านเล่นๆ
Why are you going to the US?
Where will you go in the US?
How many days you will stay in the US?
Where will you stay in the US?
Who is sponsoring you?
Do you know anyone in the US
Do you have reletives in the US
Did you ever go abroad before?
What do you do in Thailand?
**การที่เราเตรียมคำตอบไปจะทำให้เรามั่นใจในการตอบและสายตาในการตอบคำถามควรจะนิ่ง ไม่วอกแวก ไม่คิดเยอะ ถามมาตอบไปแค่นั้นเลย ใจต้องนิ่งๆ ตื่นเต้นก็ฮึ๊บไว้ๆ
วันสัมภาษณ์จริง ตื่นเต้นสุดๆ
ขั้นตอนในการเข้าสัมภาษณ์มีดังนี้
1.ไปถึง สถานฑูตอเมริกาก่อนเวลาสัก 30 นาทีก็ดีน๊า เพราะไปถึงเราก็ไปเข้าคิวด้านหน้าได้เลย
2.เตรียมเอกสาร DS-160 และใบนัดสัมภาษณ์ให้เจ้าหน้าที่เช็คชื่อเราและเวลานัดสัมภาษณ์
3.เมื่อผ่านประตูหน้าเข้าไปแล้วก็ฝากเครื่องมือสื่อสาร แนะนำให้เอาของไปให้น้อยที่สุด พาวเวอร์แบงค์ I-watch ไม่ต้องเอาไป โทรศัพท์มือถือนำไปเครื่องเดียวพอนะคะ ถ้าใครมีหลายเครื่องหลายสิ่งต้องนำไปฝากข้างนอก กระเป๋าใบเล็กๆนำเข้าได้
4.เมื่อผ่านช่องฝากของแล้ว ก็ต้องสแกนร่างกายว่ามีโลหะอันตรายหรือเครื่องสื่อสารมั้ย ถ้าไม่มีก็ผ่านเข้าไป
5.เมื่อเข้ามาด้านในแล้วจะเจอจุดตรง check-in เวลาเข้าสัมภาษณ์ เค้าจะเรียกช่วงเวลานัดเป็นรอบๆเข้าไป หลังจากเสร็จช่อง check-in เสร็จ เราก็เดินไปตรงช่องไปรษณีย์เพื่อจดเลขรหัสพัสดุไปรษณีย์ เผื่อเราผ่าน กงสุสจะส่ง passport เรากลับมา
6.เมื่อเสร็ทุกอย่างก็จะเดินเข้ามาในห้องสัมภาษณ์ใหญ่ก็จะแบ่ง 3 โซน ด้วยกัน
โซนแรก ช่องที่ 11 – 15 จะมีเจ้าหน้าที่เป็นคนไทย คอยเช็ครูปถ่ายเราว่าผ่านให้ และให้แสกนนิ้วมือทั้ง 2 ข้าง
โซนที่สอง ช่องที่ 10 จะเป็นเจ้าน้าที่ต่างชาติ อันนี้เราจะยื่นแผ่นที่เรารับมาจากช่อง Check-in เค้าจะแสกนบาร์โค๊ดแผ่นนั้น และจะให้เราแสกนนิ้วอีกรอบ จะมีสอบถามบ้างว่าเคยไปอเมริกา VISA J1 มาเหรอ แต่ถ้าคนอื่นเค้าก็จะถามทั่วๆไป ไปเที่ยวเหรอ หรือ ไปทำอะไรประมาณนี้
โซนที่ 3 ช่องที่ 7-9 จะเป็นเจ้าหน้าที่กงสุสชาวต่างชาติเป็นคนสัมภาษณ์ วันที่เราไปสัมภาษณ์ เจ้าหน้าที่ 3 คน คนแรกหน้าจะออกแขกๆผิวแทนๆหน้าคมๆ คนที่ 2 เจ้าหน้าที่ต่างชาติผิวขาว รูปร่างอ้วนใหญ่ ไม่มีผม คนที่ 3 ก็ผิวขาว หุ่นพอดี ไม่มีผมเช่นกัน ทั้ง 3 คนจะดูน่าตาใจดี และจะโหดตอนไม่ให้วีซ่านี่แหละ
เรามาเจอท่านกงสุสช่องที่ 7 คนก่อนหน้าเราเข้าสัมภาษณ์ก็ไม่ผ่าน เห็นท่านให้พาสปอตพร้อมเอกสารใบสีขาวคืนให้ พอถึงตาเรานี่หน้ายิ้มสู้ เจ้าหน้าที่กล่าวทักทายด้วยรอยยิ้มสดใส
เจ้าหน้าที่ : สวัสดีครับ
เรา : สวัสดีค่ะ ^^
เจ้าหน้าที่ :ไปทำอะไรที่อเมริกาครับ ?
เรา :จะไปเที่ยวคะ
เจ้าหน้าที่ : ทำงานที่บริษัท…ชื่อบริษัท..ประกันชีวิตเหรอ ?
เรา : ไม่ใช่คะ เราทำงานที่บริษัทญี่ปุ่นประกันชีวิตคะ
เจ้าหน้าที่ : you can speak English , right ?
เรา : yes!
เจ้าหน้าที่ :เริ่มถามเป็นภาษาอังกฤษ คุณเคยไปวีซ่า J1 มา 2 ครั้งเหรอ/ไปที่ไหน /ไปทำอะไร?
เรา : เราร่ายยาวไปว่าไปที่ไหน ทำงานอะไร
เจ้าหน้าที่ : ทำไมไปคนเดียว ? คุณจะไปที่ไหนบ้าง?
เรา : อ๋อ…รอบที่ไป work เราไปทำแต่งานไม่เคยไปเที่ยวรัฐนี้เลย รอบนี้เราทำงานมีเงินแล้วเลยอยากกลับไปเที่ยว
เจ้าหน้าที่ : Do you have reletives in the US ?
เรา : No ! ตอนนี้ตาแอบล็อกแล๊ก 555+ เพราะจริงๆมีเพื่อนอยู่ที่นั่น แพลนเราคือจะไปเที่ยวกับเพื่อน
เจ้าหน้าที่ :มองหน้าแล้วยิ้มในคำตอบ จากนั้นถาต่อว่า Have u ever been to Europe before ? who u went to there with and what u were seeing there ?
เรา : เราก็ตอบไป ไปกับเพื่อน ไปทำอะไร ไปเที่ยวเมืองไหนมาบ้าง บลาๆๆๆ
เจ้าหน้าที่ : กลับมาถามภาษาไทย) ทำไมไปอเมริกาคนเดียวครับ?
เรา : ก็ตอนไปยุโรปเราพูดภาษาสวีเดนกับเสปนไม่ได้ แต่ภาษาอังกฤษเราพอพูดได้ (เอาจริงๆพูดไปแค่ก๊อกก๋อยเลย แค่พอฟังๆเอาตัวรอดได้)
เจ้าหน้าที่ : หัวเราะเรา แล้วก็พูดต่อ OK ! your visa approved ! have a nice trip there ^^
เรา : oh ! thank you so much ^^ คือยิ้มแก้มปริเลยค๊า
เอาจริงๆเราว่าการสัมภาษณ์วีซ่าขึ้นอยู่กับดวง และการตอบคำถาม + สายตาในการตอบกับเจ้าหน้าที่ด้วย บางทีถ้าเรามั่นใจในการตอบก็มีโอกาสที่จะผ่านสูงเช่นกันคะ ขอให้ทุกคนที่ผ่านเข้าอ่านเพื่อเตรียมตัวสัมภาษณ์วีซ่าโชคดีน๊า
หากมีข้อความผิดพลาด หรือบางคำพูดไม่ถูกใจท่านใด...เราต้องขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
รีวิว สัมภาษณ์ VISA ท่องเที่ยว USA เดือนกุมภาพันธ์ 2020 เตรียมเอกสารเอง ได้วีซ่า 10 ปีเลยจ้า
เจ้าของกระทู้ต้องการทำเอกสารยื่นวีซ่าด้วยตัวเอง เพราะเห็นหลาย Agency รับทำและเตรียมเอกสารให้ แต่ราคาค่อนข้างสูง และพอวันที่เข้าสัมภาษณ์จริงเราเห็นหลายคนที่ทำเอกสารผ่าน Agency แต่กลับไม่ผ่านวีซ่าก็มี อันนี้ไม่ดราม่านะคะ
ดังนั้นถ้าหากมีเวลาเตรียมเอกสารเอง ทบทวนเอง เวลาตอบคำถามเราจะรู้ว่าเราตอบแบบไหนชัดเจนได้ โอกาสได้ก็อาจจะมากกว่ากันนะคะ
>>> แต่ถ้าท่านใดไม่มีเวลา หรือ ไม่มั่นใจในการทำวีซ่าเองก็ลองปรึกษา Agency ทำวีซ่าเลยจ้าา <<<<
1. เพศ หญิง โสด อายุ 28 ปี
2. เดินทางคนเดียว (จริงๆเราแพลนไปเที่ยวกับเพื่อน แต่บอกว่าไปคนเดียวดีสุด )
3. ทำงานเป็นตัวแทนประกันชีวิตแห่งหนึ่ง
4. รายได้ของเราไม่คงที่
5. เคยเดินทางท่องเที่ยวไปต่างประเทศ ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี สวีเดน และสเปน
6. เคยไป Work & Travel ที่อเมริกา 2 ครั้ง ครั้งล่าสุดเมื่อ 3 ปีก่อน
เอกสารที่ต้องเตรียมในการขอวีซ่า และวันสัมภาษณ์วีซ่าให้เตรียมไปด้วย กันไว้เผื่อเค้าขอดู
1. รูปถ่ายเพื่อทำซ่าอเมริกาโดยเฉพาะ ขนาด 2 x 2 นิ้ว พื้นหลังขาว เห็นหูชัดเจนไม่มีไรผมบังหน้า 1 ใบ
2. นำ passport เล่มปัจจุบันตัวจริง และ passport เล่มเก่าที่เคยเดินทางไปต่างประเทศ (ถ้ามีแนะนำให้นำไปด้วย)
3. ใบรับรองการทำงานภาษาอังกฤษ
4. สำเนาบัตรตัวแทนประกันชีวิต
5. รูปภายประกอบเกี่ยวกับอาชีพว่าทำงานอะไร อย่างไร ให้ชัดเจนขึ้น เผื่อเค้าถาม
6. สำเนา statement การเดินเงินบัญชีธนาคาร ภาษาอังกฤษ (เราปริ๊นเอาจาก APP ธนาคารในมือถือ )และสมุด Book bank เล่มจริง
7. ใบแสดงรายได้ ทวิ 50
8. สำเนาทะเบียนบ้าน
9. แพลนการเดินทางท่องเที่ยว + ที่พัก ว่าไปเครื่องบินสายการบินอะไร ไฟท์ไหน พักที่ไหน ไปเที่ยวที่ไหนบ้าง กี่วัน
10. ใบยืนยันการสมัคร DS-160
11. ใบยืนยันการนัดสัมภาษณ์วีซ่า
12. ปากกา (เอาไว้จดเลขไปรษณีที่จะส่งกลับมาที่เรา)
เมื่อเอกสารพร้อมแล้ว ขั้นตอนในการขอสัมภาษณ์มีดังนี้
1.1ทำการสมัคร DS-160 ที่ website นี้เลยจ้า : https://ceac.state.gov/genniv/
และขั้นตอนการสมัครก็ขอให้ดูตามขั้นตอนกระทู้นี้เลย : https://ppantip.com/topic/35021980 กระทู้นี้ขั้นตอนการสมัครระเอียดมากกกน๊า
**แนะนำนิดนึง ควรกรอกรายละเอียดการทำงานให้ละเอียดก็ดีน๊า จะเป็นตัวช่วยในการผ่านวีซ่าได้ดีขึ้น
1.2 เมื่อสมัคร DS-160 เสร็จ ก็สมัครการยื่นขอสัมภาษณ์วีซ่าต่อเลยจ้า ที่ website : https://www.ustraveldocs.com/th/th-steps.asp หลังจากสมัครเสร็จก็นำเงินไปจ่ายที่ธนาคาร (อย่าลืมปริ๊นใบจ่ายเงินของธนาคารกรุงศรีไปด้วยนะคะ จ่ายเงินแล้วเช็คเลขรหัสเราให้เรียบร้อยว่าตรงกันมั้ย) ตอนที่เราสมัคร เลทเงินตอนนั้น 31 บาท ค่าสมัครขอวีซ่าของ จขกท 4,960 บาท หลังจากชำระเงินเสร็จแล้ววันรุ่งขึ้นช่วงเที่ยง (กรณีที่ผู้ขอชำระเงินในวันธรรมดา)ก็สามารถเข้าจองนัดวันสัมภาษณ์วีซ่าได้แล้ว
**การนัดสัมภาษณ์วีซ่า หากผู้เข้าสัมภาษณ์ติดธุระด่วน หรือ ไม่พร้อม สามารถเลื่อนการสัมภาษณ์วีซ่าออกไปได้ 3 ครั้ง และเลื่อนช้าสุด หรือ 1 วันก่อนวันสัมภาษณ์วีซ่า
1.3 เตรียมตัวเตรียมใจเข้าสัมภาษณ์วีซ่า
- ก่อนถึงวันสัมภาษณ์วีซ่าแนะนำให้เตรียมข้อมูล ท่องแพลนการท่องเที่ยว ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวไปดีดี ถ้าเป็นคนจำยากๆก็ท่องแค่ชื่อเมืองใหญ่ๆที่เราจะไป โรงแรมก็ท่องชื่อที่พักแค่คืน สองคืนแรกก็ได้ อย่าลืมปริ๊นแพลนการเดินทางไปด้วยนะ
http://topicstock.ppantip.com/klaibann/topicstock/2011/07/H10811439/H10811439.html ลองเข้าไปอ่านเล่นๆ