ตัวเลือกที่ดีที่สุดในการป้องกันสำหรับผู้ที่ยัง
ไม่ติดเชื้อ มาฟังกันค่ะ อาจเป็นเราคนเดียว
หรืออีกหลายคนก็ได้ที่คิดว่า หน้ากากอนามัย
โดยทั่วไป สามารถป้องกันเชื้อจากคนเป็นพาหนะ
มาสู่เราได้ แต่แท้จริงแล้วอันนี้คือการป้องกันเชื้อ
แพร่ไปสู่ผู้อื่นเมื่อป่วย แต่นั้นไม่ได้หมายถึงมัน
จะป้องกันจากคนที่ติดเชื้อแล้วมาสู่เราได้ ตอนนี้
เข้าใจประโยคที่ฝรั่งบอกล่ะ คนป่วยเท่านั้นล่ะ
ที่ใส่หน้ากาก แต่ที่มันแพร่ก็อิคนที่ป่วยไม่รู้ไงว่า
ฉันป่วยเลยแพร่กระจายแบบนี้
เพราะในความจริงหน้ากากอนามัยที่สามารถป้องกัน
เชื้อเข้าและเชื้อออก ต้องเป็นหน้ากากอนามัยแบบนี้
N95 , FFP2 หรือตัวกรองที่ใกล้เคียงกัน ไม่งั้นเราคง
ไม่มีเคสที่คุณพยาบาลไปเจาะเลือดคนไข้โรคนี้ที่
เสียชีวิตแล้วติดเชื้อมาด้วย ทางกระทรวงสธ.ได้บอก
เราลึกกว่านี้ไหมว่า ที่ป้องกันไม่รัดกุมคือป้องกันแบบ
ไหน หรือที่คุณหมอบอกที่บอกว่าคนไข้ที่ตายจาก
โรคนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวกับไข้เลือดออก ก็ให้ใส่หน้า
กากป้องกัน นอกจากห่างจากคนอื่นประมาณ 1 เมตร
ล้างมือบ่อยๆ ซึ่งก็ตรงรายงานของแพทย์เมกาเช่นกัน
เพราะจากที่อ่านมาและมีคนเคยมีคำถามในพันทิปนี้
ตั้งคำถามหน้ากากอนามัยมันป้องกันได้จริงๆ ไหม
มันคือ ป้องกันได้เมื่อคุณติดเชื้อแล้วไม่ให้มันแพร่
กระจายไปสู่คนอื่น แต่แล้วถ้าคนที่ติดเชื้อแล้วพวกเขา
ไม่ใส่หน้ากากอนามัยล่ะ เชื่อมันก็กระจายอยู่ดี โอเค
การใส่หน้ากากตอนนี้คือ มีข้อดีที่ว่าเมื่อไม่รู้ว่าตัวเอง
เป็นพาหะไหม ถ้าเป็นมันก็ป้องกันไม่ให้แพร่ได้ แต่การ
สัมผัสผ่านสารคัดหลั่งแล้ว เผลอจับหน้าตา จมูก เยื่อ
บุอ่อนก็มีโอกาสติดได้ งั้นเราควรฝึกที่จะไม่สัมผัส
หน้าตาจมูกให้ได้ เราควรพูดถึงเรื่องนี้ให้มากๆ รวมถึงรณรงค์เลยก็ดี เกี่ยวกับการล้างมือว่าทำไมจำเป็น
เพราะลักษณะเชื้อไวรัสมันมีโครงสร้างยังไง ถ้าแจ้ง
ข่าวอย่างแพร่หลาย รณรงค์แล้วเราก็ขอโทษด้วยค่ะ
ตอนนี้เรามีคำถามคือ เราขอความร่วมมือคนไม่ให้
ไปประเทศเสี่ยงถูกไหม คนไปมาขอร้องให้กักตัว
14 วันถูกไหม แล้วทางการไทยเองมีมาตรการอะไร
กับบุคคลประเทศเสี่ยง 10 กว่าประเทศที่เข้ามาบ้าน
เรายังไงคะ แค่เช็คอุณหภูมิ ไม่มีอาการใดๆ ก็ไปโลด
ใช่ไหมคะ นิคือคำถาม ชาวบ้านปกปิดไม่กักตัวโดน
ผู้มีอำนาจดูว่าผ่านการแถลงการ ซึ่งปู่ย่าก็ผิดส่วน
หนึ่ง แต่ทำไมกับคนของตัวเองเวลามีคำถามที่แนะ
ให้ประชาชนทำ ตัวเองกลับไม่ทำ มัน 2 มาตรฐาน
ไหมคะ แล้วสิ่งที่กระทรวงสธ.เองแถลง เราเชื้อได้
100% จริงไหมคะ
ไม่ใช่เรื่องการเมืองไม่ต้องพาเข้ารกเข้าพงนะ ที่แสดงคห.คือ เรื่องการปฏิบัติงานของหน่วยบริหารล้วนๆ ค่ะ
มันมีปัญหาหรือไม่ เราคงคิดมากไปก็ได้ค่ะ แต่เราตามตั้งแต่ตนตั้งกระทู้ที่ WHO เองประกาศภาวะฉุกเฉินก็ตั้ง
เราเห็นการทำงานมาตลอด จะให้ชมหน่วยบริหารบอก
เลยยากค่ะ
สิ่งที่ออกมาเป็น paper แจ้งประชาชนกับสิ่งที่เราเจอ
มาทั้งไปและกลับจากประเทศเสี่ยงตอนไปทำงาน
ทำไมไม่เหมือนกันกับรายงานล่ะ แล้วถ้าเราติดเชื้อ
แล้วเราไม่มีอาการใดๆ ล่ะ แต่โชคดีงานที่เราทำอยู่บ้าน
คุยผ่านสาย ก็เลยเหมือนกักตัวเองไปในตัว แต่เรากลัว
มากเรียกว่าวิตกเลยล่ะ ประชุมอยู่แค่บริษัทเสร็จกับ
โรงแรม กับปฏิบัติประหนึ่งตัวชุ่มยาฆ่าเชื้อ และโชคดี
หาหน้ากากอนามัยธรรมดาไม่ได้ เลยมีแต่ N95 ติดตัว
จากการอัพเดทข้อมูลของผู้อำนวยกรมอนามัย Ohio
คุณ Amy Action ที่ถือหน้ากากอนามัย เมื่อวันที่ 27
กพ. ที่ผ่านมาที่ศูนย์การแพทย์ MetroHealth ที่
คลิฟแลนด์ ถึงความพร้อมและการพยายามศึกษา
เพื่อจำกัดการแพร่กระจายของ COVID-19 ตามรูป
บางส่วนตอนทีเราอ่านแล้วสรุปออกมาจริงๆ เข้าใจ
ที่คุณหมอบอก และนักชีวฟิสิกส์บอกนั้นล่ะ แต่บาง
คน หรือหลายๆ คนยังขาดความรู้ที่หน่วยงานที่
สำคัญควรรณรงค์บอกกล่าวให้เข้าใจ เพราะบางที
ฟังข่าวในรายการข่าวนักข่าวดันอธิบายได้เข้าใจ
มากกว่าอีก
คำพูดของ Dr. Eli Perencevich ศาสตราจารย์
แพทย์ระบาดวิทยา มหาวิทยาลัยแพทย์ศาสตร์
Iowa พูดหรือเคยทวีตไว้ก็น่าคิดทีเดียวค่ะ หลังจาก
มีการกักตุนหน้ากากอนามัยกัน เพราะขณะนี้เมกา
เริ่มมีการแพร่ระบาดในชุมชนอย่างเป็นทางการแล้ว
มีผู้ติดเชื้อในเมกาและเสียชีวิตแล้วเช่นกัน ทำให้
ผู้คนตระหนก ซื้อและกักตุนหน้ากากกันแล้ว แม้ว่า
คุณจะหาซื้อได้ในภาวะขาดแคลนทั่วโลก ซึ่งคุณ
หมอท่านนี้เคยทวีตไว้เกี่ยวกับ " วิกฤตการขาด
แคลน *เครื่องช่วยหายใจ(*หน้ากาก) " N95
หรือศัลยแพทย์ทั่วไปชาวอเมริกัน Jerome Adams,
MD, ได้บอกขอร้องทาง Twitter ว่า " หยุดซื้อหน้ากาก
กันสักที! ถ้าผู้ให้ผู้ดูแลด้านสุขภาพไม่สามารถไปดูแล
ผู้ป่วยที่ป่วยได้ มันจะทำให้พวกเขาและชุมชนของเรา
ตกอยู่ในความเสี่ยง! นะจะบอกให้ "
ซึ่งในมุมมองของหมอ Perencevich ก็น่าสนใจว่า
คุณต้องระวังอย่างดีในการสวมใส่และกำจัดมัน
อย่างเหมาะสมด้วยไม่ให้เชื้อแพร่ระบาด ในการซื้อหน้ากากเหล่านี้ในภาวะขาดแคลนนั้น จะทำให้
บุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลที่ต้องการ
ใช้มันได้ยากขึ้นด้วย คุณหมอเธอกล่าว ( อันนี้คือ
เรื่องเริ่มเห็นจริงกันแล้ว มีข่าวที่อ่านเจอมาว่า
หน้ากากอนามัยสต็อคในโรงพยาบาลไทยเริ่มพร่อง)
" สิ่งที่เกี่ยวข้องคือ ถ้าบุคลากรทางการแพทย์ของ
เราป่วยและต้องอยู่บ้านเราต้องสูญเสียหมอและ
พยาบาลที่เราต้องรับมือการระบาดนี้ "
( ขอโทษนะคะเราอ่านแล้วจำจากบทความที่คุณ
หมอพูดเลยไม่ได้เรียงตามบทความที่จะแนบลิงก์
ในท้ายที่สุดค่ะ ) เราแสดงคห.ประมาณไหนรวมถึง
อ่านเจอมาจึงแทรกจากบทความที่คุณหมอพูดมาค่ะ
แปลตามรูปด้านบน
คุณหมอ Perencevich เธอได้กล่าวว่า " สำหรับ
คนที่สุขภาพโดยทั่วไปแข็งแรงดี ไม่จำเป็นและ
ไม่ควรสวมใส่หน้ากากด้วยซ้ำ เพราะไม่มีหลักฐาน
ว่า การใส่หน้ากากในผู้ปกติที่แข็งแรงดีจะช่วย
ปกป้องพวกเขาได้ พวกเขายังใส่มันอย่างไม่ถูก
ต้องอยู่เลยและนั้นมันยังเป็นการเพิ่มความเสี่ยง
ในดารติดเชื้อขึ้นด้วย เพราะพวกเขาเหล่านั้นก็
ยังคงสัมผัสหน้าตาอยู่บ่อยครั้งนั้นเอง คงเป็นจุด
สำคัญของเธอในเรื่องนี้ เพราะในบทความมีนัก
ชีวฟิสิกส์มายืนยันโครงสร้างไวรัส และการตัด
ตอนมันด้วยสบู่น้ำโดยการล้างมือ
วลีเด็ดฝรั่งบอก ใส่หน้ากากเมื่อคุณป่วย แต่ตอนนี้
ถ้ามันแพร่จากคนสู่คนกับระยะเป็นพาหะแล้ว แต่ยัง
ไม่แสดงอาการงั้นการใส่หน้ากากก็มีประโยชน์อยู่
นะคุณหมอ เผื่อไม่รู้ตัวว่าเป็นไง อย่างน้อยมันก็ป้องกัน
โรคไม่ให้แพร่ไปสู่คนอื่นได้ตามหมอบอกได้ แต่คนอื่น
ยังไม่ติดเชื้อก็วนลูปด้านบนไป ล้างมือบ่อยๆ อย่าจับหน้าตาสั่งสมองเอาไว้ รู้ตัวว่าจะป่วยติดเชื้อไหมจาก
ปัจจัยต่างๆ ก็ไปรีบหาหมอซะแล้วใส่หน้ากากออก
จากบ้านด้วยล่ะ คนอื่นจะเดือดร้อนเอา รวมถึงมาสก์
คุณต้องแน่ใจว่าสะอาดปลอดภัย รวมถึงความสะอาด
ของมือคุณด้วยก่อนสวมและหลังสวมมาสก์ก็สำคัญ
จากในบทความ ไม่งั้นจะเพิ่มโอกาสเสี่ยงติดเชื่อให้
ตัวเองตามบทความหมอได้เลย
แปลคร่าวๆ ตามรูป
ประการแรกผู้คนส่วนใหญ่ที่ซื้อมาสก์ ก็จะไม่ได้ได้
หยุดไวรัสไม่ให้มาถึงปากหรือจมูกของพวกเขาเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม coronavirus ส่งผ่านละอองสารคัดหลั่งไม่ใช่ทางอากาศ คือคุณไม่สามารถหายใจเข้าแบบ
สุ่มได้ แต่มันก็คือหน้ากากผ่าตัดมาตรฐานที่คุณเห็น
คนสวมใส่จะไม่ช่วยอะไรเลย หน้ากากเหล่านั้นทำ
ออกแบบมาเพื่อป้องกันสารคัดหลั่งในตัวและไม่ให้
หลุดออก วัตถุประสงค์คือ ทำให้ผู้สวมใส่ไม่ทำให้
บุคคลอื่นป่วยไปด้วย หมอ Perencevich กล่าวว่า
" คุณต้องการใส่หน้ากาก เมื่อคุณป่วยและต้องออก
จากบ้าน หากคุณเป็นไข้หวัดใหญ่หรือคิดว่าคุณ
มีเชื้อ COVID นั่นก็คือที่คุณต้องสวมหน้ากากเพื่อ
ปกป้องผู้อื่น เมื่ออยู่ในบ้านของคุณถ้าคุณรู้สึกว่า
ป่วยคุณควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อปกป้องสมาชิก
ในครอบครัวของคุณ " โดยคุณคือตัวแพร่เชื้อ แต่
หลักฐานบ้านเรา คนที่อยู่ในบ้านทุกคนก็ใช่ว่าจะติด
เชื้อทุกคน เพราะเคสปู่ย่ามีหลานคนเล็กที่ไม่ติด
ถ้าเราจำไม่ผิดนะ อ่านเยอะมากตีในหัวกันเองอยู่
ปกป้องตัวคุณเองจาก COVID-19 ได้ยังไง
คุณคงได้ยินบ่อยแล้ว แต่วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกัน
ตัวคุณเองจาก coronavirus จริงๆ แล้วก็คือการ
ล้างมือด้วยสบู่และน้ำเป็นประจำ Karen Fleming, PhD, ศาสตราจารย์ด้านชีวฟิสิกส์จากที่ Johns Hopkins University อธิบายบน Twitter ว่าทำไม
" Coronavirus เป็นไวรัสที่มีโครงสร้างถูกห่อหุ้มด้วย
ชั้นของเหลว (เข้าใจเองว่ามี 2 ชั้นของเหลวคือเชื้อ
ไวรัสนะ) อีกชั้นเป็นไขมันชั้นนอก " งั้นการล้างมือ
ด้วยสบู่และน้ำนั้นสามารถ " ละลาย " ไขมันที่เป็น
ชั้นไขมันนี้และฆ่าไวรัส " หมอ Karen เธอกล่าว
ต่อข้างล่างเพราะยังลงไม่หมดค่ะ แต่จะหมดตัวอักษร
ท้ายๆ กระทูเราจะมีสิ่งที่ยืนยันด่วยคลิปจาก WHO
ด้วยว่าที่คุณหมอ Perencevich พูดไม่เกินจริงเลย
เรื่องการใส่มาสก์ไม่ถูกวิธี หรือในบทความเองบอกว่า
ไม่มีอะไรป้องกันได้ทั้งหมด แม้กระทั้งหน้ากากที่ว่า
ปกป้องมิดชิดดีแล้วก็ตามที จาก 3M ผู้ผลิตรายใหญ่
รายหนึ่งในการผลิตหน้ากากอนามัยแบบต่างๆ มีต่อ
ทางป้องกันที่ดีที่สุดสำหรับ COVID-19 คือการล้างมือบ่อยๆ รวมถึงไม่สัมผัสใบหน้า ซึ่งหน้ากากอนามัยไม่ใช่...
คุณหมอ Perencevich เธอได้กล่าวว่า " สำหรับ
คนที่สุขภาพโดยทั่วไปแข็งแรงดี ไม่จำเป็นและ
ไม่ควรสวมใส่หน้ากากด้วยซ้ำ เพราะไม่มีหลักฐาน
ว่า การใส่หน้ากากในผู้ปกติที่แข็งแรงดีจะช่วย
ปกป้องพวกเขาได้ พวกเขายังใส่มันอย่างไม่ถูก
ต้องอยู่เลยและนั้นมันยังเป็นการเพิ่มความเสี่ยง
ในดารติดเชื้อขึ้นด้วย เพราะพวกเขาเหล่านั้นก็
ยังคงสัมผัสหน้าตาอยู่บ่อยครั้งนั้นเอง คงเป็นจุด
สำคัญของเธอในเรื่องนี้ เพราะในบทความมีนัก
ชีวฟิสิกส์มายืนยันโครงสร้างไวรัส และการตัด
ตอนมันด้วยสบู่น้ำโดยการล้างมือ