"Lenggacuo lake"
อีก 1 ในสถานที่ในทริป Unlock China | King of Sichuan....บนความสูงถึง 4500 ม. จากระดับน้ำทะเล..
แนวภูเขาด้านหน้าคือ ยอดเขาก้งก่า ความสูง 7556 ม. ถือเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของหิมาลัยตะวันออก
จู่ๆเราก็หลุดมาในหุบเขาเบื้องล่าง มีบ้านพักชาวธิเบตให้เห็นอยู่ประปราย ดูจากรอบๆรวมถึงถนนหนทางที่มา รู้ได้ว่าไม่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลเท่าที่ควร ให้ชาวบ้านดูแลกันเอง....แต่ใครจะไปรู้ว่าสถานที่อันห่างไกลนี้ จะมีขุมทรัพย์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่งอยู่
ขุมทรัพย์ที่ว่าไม่ใช่ทอง เพรช เงิน แต่อย่างใด....สิ่งนั้นคือวิวที่ทำให้ทุกคนหยุดนิ่งได้ชั่วขณะ ความงามของวิวเบื้องหน้าทำให้ร่างกายหยุด หัวใจเต้นแรงขึ้นทันที
จากตีนเขาเดินขึ้นไปตามทางเรื่อยๆ ใช้เวลา 3 ชม. ก็ถึงทะเลสาบด้านบนเขา จัดแจงกางเตนท์ท่ามกลางความสงสัยของชาวจีนว่า ทำไมคนพื้นราบ เมืองร้อน ถึงได้หาญกล้ามานอนท้าลม ท้าหิมะ บนความสูง 4500ม. (จริงๆแล้วเราก็คลำทางมา กลัวลงมาไม่ทันเลยเอาเตนท์ไปกาง)
พวกเรานั่งรอแสงบนเนินเขาอยู่ 3 ชม. ลมพัดมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำในทะเลสาบเป็นคลื่นตลอดเวลา ประจวบกับยอดก้งก่าที่แสนขี้อาย ซ่อนตัวในกลุ่มเมฆ....ภาพสะท้อนน้ำที่อยากได้ คงยากแล้วในนาทีนี้ที่จะเห็นยอดก้งก่า
18.30 น. แสงเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีส้ม ฉาบก้อนเมฆและภูเขาด้านหน้า...ลมหยุดทันที เหมือนนัดกันไว้ว่าเวลานี้เราจะปล่อยของดีให้มนุษย์ผู้มาเยือนได้เห็น "สวรรค์บนดิน"
ตะวันลับขอบฟ้า ผู้คนเริ่มทยอยกันกลับ เหลือเพียงแคมป์ชาวไทย ตั้งตระหง่านท้าความหนาว บนความสูงระดับที่บอกได้ว่า เตรียมตัวมาไม่ดี AMS ถามหาแน่นอน...
กลางคืนนอนหลับๆตื่นๆ ได้ยินเสียงหิมะตกตลอดทั้งคืน...หวังว่าคืนนี้จะผ่านพ้นไปให้เร็วที่สุด คิดถึงบ้าน
ตื่นเช้ามาทุกอย่างขาวโพลน ไม่มีแสงแดด ไม่มีลม ได้ยินแต่เสียงนก และภาษาไทยที่คุ้นหู...
ถึงเวลากลับ ได้รูปกันทุกคน...
เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ผมชอบที่สุด ได้ใช้เวลากับพี่ๆบนนี้ มานอนหนาวกันบนนี้...เรียกได้ว่า ทำบุญร่วมกันมาดีจริงๆ
ในช่วงหน้าหนาวน้ำจะเป็นน้ำแข็งสามารถเดินเล่นบนน้ำแข็งได้เลย
อยากรู้จักเราเพิ่มเติม มาคุยกันได้ที่เพจ lifeplorer
Lenggacuo lake ดวงตาของราชาแห่งหิมาลัยตะวันออก (ภูเขาก้งก่า)
แนวภูเขาด้านหน้าคือ ยอดเขาก้งก่า ความสูง 7556 ม. ถือเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของหิมาลัยตะวันออก
จู่ๆเราก็หลุดมาในหุบเขาเบื้องล่าง มีบ้านพักชาวธิเบตให้เห็นอยู่ประปราย ดูจากรอบๆรวมถึงถนนหนทางที่มา รู้ได้ว่าไม่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลเท่าที่ควร ให้ชาวบ้านดูแลกันเอง....แต่ใครจะไปรู้ว่าสถานที่อันห่างไกลนี้ จะมีขุมทรัพย์ทางธรรมชาติที่น่าทึ่งอยู่
ขุมทรัพย์ที่ว่าไม่ใช่ทอง เพรช เงิน แต่อย่างใด....สิ่งนั้นคือวิวที่ทำให้ทุกคนหยุดนิ่งได้ชั่วขณะ ความงามของวิวเบื้องหน้าทำให้ร่างกายหยุด หัวใจเต้นแรงขึ้นทันที
จากตีนเขาเดินขึ้นไปตามทางเรื่อยๆ ใช้เวลา 3 ชม. ก็ถึงทะเลสาบด้านบนเขา จัดแจงกางเตนท์ท่ามกลางความสงสัยของชาวจีนว่า ทำไมคนพื้นราบ เมืองร้อน ถึงได้หาญกล้ามานอนท้าลม ท้าหิมะ บนความสูง 4500ม. (จริงๆแล้วเราก็คลำทางมา กลัวลงมาไม่ทันเลยเอาเตนท์ไปกาง)
พวกเรานั่งรอแสงบนเนินเขาอยู่ 3 ชม. ลมพัดมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำในทะเลสาบเป็นคลื่นตลอดเวลา ประจวบกับยอดก้งก่าที่แสนขี้อาย ซ่อนตัวในกลุ่มเมฆ....ภาพสะท้อนน้ำที่อยากได้ คงยากแล้วในนาทีนี้ที่จะเห็นยอดก้งก่า
18.30 น. แสงเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีส้ม ฉาบก้อนเมฆและภูเขาด้านหน้า...ลมหยุดทันที เหมือนนัดกันไว้ว่าเวลานี้เราจะปล่อยของดีให้มนุษย์ผู้มาเยือนได้เห็น "สวรรค์บนดิน"
ตะวันลับขอบฟ้า ผู้คนเริ่มทยอยกันกลับ เหลือเพียงแคมป์ชาวไทย ตั้งตระหง่านท้าความหนาว บนความสูงระดับที่บอกได้ว่า เตรียมตัวมาไม่ดี AMS ถามหาแน่นอน...
กลางคืนนอนหลับๆตื่นๆ ได้ยินเสียงหิมะตกตลอดทั้งคืน...หวังว่าคืนนี้จะผ่านพ้นไปให้เร็วที่สุด คิดถึงบ้าน
ตื่นเช้ามาทุกอย่างขาวโพลน ไม่มีแสงแดด ไม่มีลม ได้ยินแต่เสียงนก และภาษาไทยที่คุ้นหู...
ถึงเวลากลับ ได้รูปกันทุกคน...
เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ผมชอบที่สุด ได้ใช้เวลากับพี่ๆบนนี้ มานอนหนาวกันบนนี้...เรียกได้ว่า ทำบุญร่วมกันมาดีจริงๆ
ในช่วงหน้าหนาวน้ำจะเป็นน้ำแข็งสามารถเดินเล่นบนน้ำแข็งได้เลย
อยากรู้จักเราเพิ่มเติม มาคุยกันได้ที่เพจ lifeplorer