อาจจะยาวหน่อยนะคะ แต่จะขอขอบพระคุณผู้รู้ทั้งหลายช่วยตอบคำถามทีค่ะ ตอนนี้ที่บ้านทุกข์ใจมาก
พ่อกับแม่ตกลงซื้อบ้านตั้งแต่ปี 2548 จากธอส. ซึ่งในสัญญานั้นเป็นการกู้ร่วมกันของพ่อกับแม่ค่ะ
ต่อมามีปัญหา ได้มีการจดทะเบียนหย่ากันไปเมื่อปี 2554 แต่ยังอยู่ร่วมกันที่บ้านอยู่
แม่เล่าให้ฟังว่า ตอนหย่าได้มีการตกลงไว้ว่า ถ้าผ่อนบ้านหมดเมื่อไหร่ จะโอนเป็นของลูก 2 คน คือเรากับน้อง
จนกระทั่งเมื่อประมาณ ปี 2560 พ่อได้ย้ายออกไปอยู่กับเมียใหม่ โดยที่แอบเอาเอกสารตัวจริงทุกอย่างติดตัวไปด้วย
ไม่ว่าจะเป็นทะเบียนบ้าน ใบหย่า สัญญาอื่นๆ ส่วนเรากับน้อง อาศัยอยู่ที่บ้านหลังเดิมกับแม่
จนกระทั่งเมื่อปลายปี 2562 ที่ผ่านมา บ้านผ่อนหมด เราได้โทรบอกพ่อว่าจะส่งบ้านงวดสุดท้ายแล้วนะ
เขาเลยบอกว่าจะไปส่งเอง เราเลยให้เงินพ่อไปเพื่อส่งบ้านงวดสุดท้าย เพราะเราเห็นว่าผู้กู้เป็นชื่อของพ่ออยู่แล้ว
(ปกติช่วงหลายปีหลังมานี่ แม่เราไม่ได้ช่วยส่งแล้วค่ะ เนื่องจากรายได้เขาน้อย ขายของไม่ดี
หลักๆจะมีเรากับพ่อที่ช่วยออกเงินกันส่ง โดยที่ส่วนใหญ่เราจะโอนผ่านแอปเอา เพราะสะดวกดี)
หลังจากนั้นช่วงเดือน ม.ค. พ่อได้ไปเอาโฉนดโดยที่ไม่บอกใคร (ที่เรารู้เพราะโทรถาม เพราะเห็นเขาเอารถมาจอดแถวบ้าน)
เราพยายามเกลี้ยกล่อมให้พ่อเอาโฉนดมาไว้ที่บ้าน แต่พ่อไม่ยอม เขาบอกว่าจะเก็บไว้เอง
เขาถ่ายโฉนดมาให้ดูว่าได้มาแล้วจริง แต่ถ่ายมาเฉพาะด้านหน้า เราเลยบอกให้ถ่ายด้านหลังมาให้ดูเพราะอยากดูสลักหลัง
เขาก้โมโห แล้วพูดไปเรื่องอื่น บอกว่า รอพ่อตายก่อนค่อยเอาไป ตอนนี้ไม่โอนให้ใครทั้งนั้น
มีการอ้างอีกว่าโอนแพง ทั้งๆที่เรารู้มาว่าการโอนให้ลูกก็เหมือนให้มรดก ไม่ได้โอนแบบซื้อขาย เรตย่อมต่างกัน
...เป็นแบบนี้เราควรทำอย่างไรดีคะ? ดูแล้วเรากลัวจะมีปัญหามากๆ
ตอนนี้พ่อมีหนี้ของไทยเครดิตอยู่ประมาณ 50,000 เพราะเราเห็นใบเสร็จส่งมาที่บ้านเลยรู้
เบื้องต้นเราได้โทรสอบถามทางแบงค์มา เพราะสงสัยว่าการกู้ร่วมไม่จำเป็นต้องไปเอาโฉนดที่สนญ.ทั้งคู่เหรอ
ทางแบงค์แจ้งว่า ตอนไปเอาโฉนดที่สนญ. ให้คนใดคนหนึ่งไปเอาได้ ไม่จำเป็นต้องไปเอาทั้งคู่
สรุป แล้ว เรามีคำถามดังนี้ค่ะ
1. หลังจากที่ได้โฉนดมาจากแบงค์แล้ว ต้องไปดำเนินเรื่องที่สนง.ที่ดินต่อใช่ไหม? จำเป็นต้องไปทั้งคู่หรือเปล่า?
ถ้าจำเป็นต้องไปทั้งคู่ การที่แม่เราไม่ได้ไปด้วย จะยังทำให้โฉนดฉบับนี้ยังไม่ปลดจำนองจากทางแบงค์ใช่ไหมคะ?
2. ถ้าเกิดว่าพ่อไปทำเรื่องที่สนง.ที่ดินแล้ว เราอยากรู้ว่าตอนนี้ในโฉนดสลักหลังเป็นชื่อใคร เราสามารถให้แม่ไป
ติดต่อสอบถามที่สนง.ที่ดิน ได้เลยไหมคะ? แม่เราเป็นกังวลมาก เพราะกลัวจะเป็นชื่อพ่อคนเดียว
3. พ่อเราสามารถเอาโฉนดที่มีอยู่ ไปจำนำ จำนอง กู้เพิ่ม ขั้นเลวร้ายสุดคือไปกู้นอกระบบ ได้ไหมคะ?
4. เราควรทำอย่างไรดี แม่เราพยายามยุให้เราฟ้องพ่อ แต่บอกตรงๆว่าเราไม่อยากทำเลยค่ะ
คนนึงก็พ่อ อีกคนก็แม่ ปัญหาโลกแตกมาก T-T
หมายเหตุ (ขออนุญาตแจ้งไว้ก่อน เผื่อมีคนเข้าใจผิด คิดว่าเราจะเอาสมบัติ)
เราไม่ได้คิดจะเอาทรัพย์สินค่ะ เราไม่ได้ไม่ว่า แต่เรากลัวตกเป็นของคนอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัว เช่นเมียใหม่พ่อ
เราบอกพ่อว่า ไม่ต้องโอนก็ได้ แต่เสนอให้เค้าเอาโฉนดไปไว้ที่ป้าเรา (พี่สาวพ่อ) เขาก็ไม่ยอม ยืนยันที่จะเก็บไว้เอง
สิ่งที่เรากลัวที่สุดคือ เรากลัวเมียใหม่พ่อยั่วยุให้เค้าไปทำหนี้เพิ่ม เอาโฉนดไปจำนำ จำนอง หรือไปกู้นอกระบบ
ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา เขามายึดบ้านก็จะไม่มีที่อยู่ รวมทั้งพ่อเราด้วย
พ่อแม่กู้ร่วมซื้อบ้าน สุดท้ายเลิกกัน พอส่งหมดพ่อแอบไปเอาโฉนดที่แบงค์คนเดียว จะทำอย่างไรดีคะ?
พ่อกับแม่ตกลงซื้อบ้านตั้งแต่ปี 2548 จากธอส. ซึ่งในสัญญานั้นเป็นการกู้ร่วมกันของพ่อกับแม่ค่ะ
ต่อมามีปัญหา ได้มีการจดทะเบียนหย่ากันไปเมื่อปี 2554 แต่ยังอยู่ร่วมกันที่บ้านอยู่
แม่เล่าให้ฟังว่า ตอนหย่าได้มีการตกลงไว้ว่า ถ้าผ่อนบ้านหมดเมื่อไหร่ จะโอนเป็นของลูก 2 คน คือเรากับน้อง
จนกระทั่งเมื่อประมาณ ปี 2560 พ่อได้ย้ายออกไปอยู่กับเมียใหม่ โดยที่แอบเอาเอกสารตัวจริงทุกอย่างติดตัวไปด้วย
ไม่ว่าจะเป็นทะเบียนบ้าน ใบหย่า สัญญาอื่นๆ ส่วนเรากับน้อง อาศัยอยู่ที่บ้านหลังเดิมกับแม่
จนกระทั่งเมื่อปลายปี 2562 ที่ผ่านมา บ้านผ่อนหมด เราได้โทรบอกพ่อว่าจะส่งบ้านงวดสุดท้ายแล้วนะ
เขาเลยบอกว่าจะไปส่งเอง เราเลยให้เงินพ่อไปเพื่อส่งบ้านงวดสุดท้าย เพราะเราเห็นว่าผู้กู้เป็นชื่อของพ่ออยู่แล้ว
(ปกติช่วงหลายปีหลังมานี่ แม่เราไม่ได้ช่วยส่งแล้วค่ะ เนื่องจากรายได้เขาน้อย ขายของไม่ดี
หลักๆจะมีเรากับพ่อที่ช่วยออกเงินกันส่ง โดยที่ส่วนใหญ่เราจะโอนผ่านแอปเอา เพราะสะดวกดี)
หลังจากนั้นช่วงเดือน ม.ค. พ่อได้ไปเอาโฉนดโดยที่ไม่บอกใคร (ที่เรารู้เพราะโทรถาม เพราะเห็นเขาเอารถมาจอดแถวบ้าน)
เราพยายามเกลี้ยกล่อมให้พ่อเอาโฉนดมาไว้ที่บ้าน แต่พ่อไม่ยอม เขาบอกว่าจะเก็บไว้เอง
เขาถ่ายโฉนดมาให้ดูว่าได้มาแล้วจริง แต่ถ่ายมาเฉพาะด้านหน้า เราเลยบอกให้ถ่ายด้านหลังมาให้ดูเพราะอยากดูสลักหลัง
เขาก้โมโห แล้วพูดไปเรื่องอื่น บอกว่า รอพ่อตายก่อนค่อยเอาไป ตอนนี้ไม่โอนให้ใครทั้งนั้น
มีการอ้างอีกว่าโอนแพง ทั้งๆที่เรารู้มาว่าการโอนให้ลูกก็เหมือนให้มรดก ไม่ได้โอนแบบซื้อขาย เรตย่อมต่างกัน
...เป็นแบบนี้เราควรทำอย่างไรดีคะ? ดูแล้วเรากลัวจะมีปัญหามากๆ
ตอนนี้พ่อมีหนี้ของไทยเครดิตอยู่ประมาณ 50,000 เพราะเราเห็นใบเสร็จส่งมาที่บ้านเลยรู้
เบื้องต้นเราได้โทรสอบถามทางแบงค์มา เพราะสงสัยว่าการกู้ร่วมไม่จำเป็นต้องไปเอาโฉนดที่สนญ.ทั้งคู่เหรอ
ทางแบงค์แจ้งว่า ตอนไปเอาโฉนดที่สนญ. ให้คนใดคนหนึ่งไปเอาได้ ไม่จำเป็นต้องไปเอาทั้งคู่
สรุป แล้ว เรามีคำถามดังนี้ค่ะ
1. หลังจากที่ได้โฉนดมาจากแบงค์แล้ว ต้องไปดำเนินเรื่องที่สนง.ที่ดินต่อใช่ไหม? จำเป็นต้องไปทั้งคู่หรือเปล่า?
ถ้าจำเป็นต้องไปทั้งคู่ การที่แม่เราไม่ได้ไปด้วย จะยังทำให้โฉนดฉบับนี้ยังไม่ปลดจำนองจากทางแบงค์ใช่ไหมคะ?
2. ถ้าเกิดว่าพ่อไปทำเรื่องที่สนง.ที่ดินแล้ว เราอยากรู้ว่าตอนนี้ในโฉนดสลักหลังเป็นชื่อใคร เราสามารถให้แม่ไป
ติดต่อสอบถามที่สนง.ที่ดิน ได้เลยไหมคะ? แม่เราเป็นกังวลมาก เพราะกลัวจะเป็นชื่อพ่อคนเดียว
3. พ่อเราสามารถเอาโฉนดที่มีอยู่ ไปจำนำ จำนอง กู้เพิ่ม ขั้นเลวร้ายสุดคือไปกู้นอกระบบ ได้ไหมคะ?
4. เราควรทำอย่างไรดี แม่เราพยายามยุให้เราฟ้องพ่อ แต่บอกตรงๆว่าเราไม่อยากทำเลยค่ะ
คนนึงก็พ่อ อีกคนก็แม่ ปัญหาโลกแตกมาก T-T
หมายเหตุ (ขออนุญาตแจ้งไว้ก่อน เผื่อมีคนเข้าใจผิด คิดว่าเราจะเอาสมบัติ)
เราไม่ได้คิดจะเอาทรัพย์สินค่ะ เราไม่ได้ไม่ว่า แต่เรากลัวตกเป็นของคนอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัว เช่นเมียใหม่พ่อ
เราบอกพ่อว่า ไม่ต้องโอนก็ได้ แต่เสนอให้เค้าเอาโฉนดไปไว้ที่ป้าเรา (พี่สาวพ่อ) เขาก็ไม่ยอม ยืนยันที่จะเก็บไว้เอง
สิ่งที่เรากลัวที่สุดคือ เรากลัวเมียใหม่พ่อยั่วยุให้เค้าไปทำหนี้เพิ่ม เอาโฉนดไปจำนำ จำนอง หรือไปกู้นอกระบบ
ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา เขามายึดบ้านก็จะไม่มีที่อยู่ รวมทั้งพ่อเราด้วย