สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคนนนนนนน
วันนี้เราอยากมาแชร์ประสบการณ์ให้ทุกคนได้อ่านกัน แบบไม่ซีเรียสน๊าาา เป็นกระทู้แรกของเราเองถ้าผิดพลาด หรือไม่ชอบยังไงเราขอโทษล่วงหน้านะคะ
กระทู้นี้เราเขียนขึ้นสำหรับคนที่สนใจเรื่องของรูปร่าง ขอเกริ่นก่อนเลยว่าเราเป็นคนนึงที่มีปัญหาเรื่องต้นแขน บวกกับที่เราเป็นคนตัวเตี้ย(153cm) ก็เลยดูตันๆ ไปใหญ่เลย เศร้ามากกกก เคยลดน้ำหนักไปถึง40ต้นๆ ออกกำลังกาย และควบคุมอาหารก็แล้ว สัดส่วนเล็กลงทั้งตัวแต่แขนเราก็ยังเหมือนโดเรม่อน(ขำแบบมีน้ำตาซึมมม) เวลาไปเที่ยว เข้าร้านเหล้า(เราสายตี้นิดนึงงง) อยากใส่เสื้อแขนกุด สายเดี่ยว แบบคนอื่นก็ไม่กล้า ต้องใส่แขนยาวปิดไว้ตล๊อดดดด พอกำลังจะเรียนจบเราเลยตัดสินใจแบบเอาวะ สักทีเหอะแขนอะ ขอใส่สักครั้งเถอะสายเดี่ยวแขนกุด เราเลยตัดสินใจไปดูดไขมันแขนบางคนอาจจะคิดว่าเฮ้ยยย ทำไมไม่เวท ทำไมไม่หาวิธีอื่น คือเราลองแล้วจริงๆ แต่ท้อแท้ บางคนอาจจะคิดว่าเราพยายามไม่มากพอรึป่าว เรายอมรับว่าอาจจะใช่แต่เราก็อยากลองวิธีนี้เหมือนกันเลยตัดสินใจที่จะทำ เข้าขั้นตอนกันดีกว่าเนอะ
Step 1 : เราหาข้อมูลเกี่ยวกับการดูดไขมันก่อนเลย ว่าผลข้างเคียงมีอะไรบ้าง แล้วเรายอมรับได้มั้ย บลาๆๆ พยายามดูคลิปในยูทูปจากหลายๆช่อง (ต้องขอบคุณคนที่ทำคลิปในยูทูปมากก ช่วยเราได้เยอะแยะเลย)
Step 2 : หาคลินิกที่น่าเชื่อถือและเรทราคาไม่แพงมาก คือเราก็ยังเป็นนักศึกษาอยู่เรื่องราคาก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการตัดสินใจที่สำคัญรองลงมาจากความปลอดภัยเลยอะ เพราะเงินที่ใช้ครั้งนี้เป็นเงินเก็บส่วนหนึ่ง แต่เอาวะเพื่อความสวยน้องจะยอมมมม ตอนที่เราหาคลินิกเราlistไว้เยอะมากกละเอามาดีเบตกับตัวเอง 5555 หาคลินิกที่สะอาดปลอดภัย รีวิวเยอะ และราคาไม่เป็นภัย แล้วเราก็ตัดสินใจเลือกต้นหลิว
เพราะว่าราคานี้เราพอใจมากก(ตอนนั้นเราทันช่วงโปรโมชั่นพอดี ขอบคุณแต้มบุญที่ลูกเคยทำมา) แต่เอาจริงๆก็แอบหวั่นใจว่าจะดีจริงหรอ ราคาเรทนี้ จะได้จริงดิ หมอกักป่ะวะ555 คิดไปเรื่อย555 {(ราคาที่เราทำ 10,999 (ค่าดูดไขมัน+นวดกระชับ 2 ครั้ง)+2800 (ค่ายา+ค่าตรวจเลือด) }
Step 3 : พอเลือกคลินิกได้ก็ไลน์ไปสอบถามข้อมูลหมอเลยจร้า ไม่รีรอ เราปรึกษาหมอผ่านทางแชทอย่างเดียวเลย หมอก็ให้คำแนะนำเราดีไม่มีบ่นว่าเราถามนู่นนี่นั่นเยอะแยะ อยากจะขอโทษคุณหมอมากที่ชอบทักไปตอนดึกๆ555
Step 4 : เลือกชุดกระชับมาไว้รอเลยยยย อย่างที่เคยบอกไปตอนต้นว่าเคสนี้แอบเน้นประหยัดนิ้สนุงงงงง เราสั่งชุดจากร้านในShopee ราคาไม่แรงเนื้อผ้าดีด้วยยยย
Step 5 : ถึงวันที่เราต้องขึ้นเขียงแล้วบอกเลยว่าตอนนั้นอยากจะเดินออกจากคลินิกมากไม่อยากทำแล้วเพราะกลัวมากแม่ แต่ก็แบบเสียดายเงินค่ามันจำ 2000 ที่จ่ายไป
>>>>เราเดินเข้าไปพี่พนักงานก็ให้กรอกประวัติ ภายในคลินิกสะอาดมีคุณป้าแม่บ้านคอยมาเสริมน้ำให้ตลอดเลย น่ารักกกกก พอกรอกข้อมูลเสร็จพี่พนักงานก็พาขึ้นไปเปลี่ยนเกาะอกที่คลินิกเตรียมไว้ให้แล้วก็ถ่ายรูปBeforeเพื่อเก็บไว้เปรียบเทียบ (จุดนั้นคืออายมากเพราะเกาะอกบางมากแม่ที่อายนี่ไม่ใช่ไรนะนมไม่มี หยอกๆ)
>>>> คุณหมอเจาะเลือดเพื่อตรวจหาเชื้อ HIV โชคดีไปเราร๊อดดดดด
>>>>ต่อไปของจริงจร๊า ขึ้นเตียงหมอก็ชวนเราคุยไม่ให้เรากลัว อยากจะบอกหมอว่าที่ตอบหมอไปเยอะๆแต่ในใจหนูก็ยังแอบกลัวอยู่ดี5555 (ปล.เราชอบบรรยากาศในห้องดูดไขมันมากๆ ในห้องสว่างไม่มืด ประทับใจสุดคือคุณหมอเปิดเพลงยุคแบบรุ่นเราอะ พี่ดาเอ็นโดฟิน พี่เบิร์ดธงไชย แอมไฟน์ และอีกมากมาย ที่หมอและเราร้องได้ทุกเพลง ย้ำเราร้องได้ทุกเพลงจริงๆน๊า 5555) ละหมอก็จิ้มเข็มยาชาไซส์ปกติลงบนแขนเราจากนั้นก็แทงเข็มยาชาอันใหญ่ๆเข้าไป ความรู้สึกตอนนั้นคือ งง ไม่เจ็บนะแต่แอบจึกๆแบบมีอะไรมาขูดๆจิ้มๆในแขน ลงยาชาประมาณ 10 นาทีได้ จากนั้นก็เริ่มดูดแล้ววววว ความรู้สึกตอนดูดคือเหมือนเรากำลังนอนทำสปาแขนอะ5555 เหมือนมานวดๆ คือถามว่ามีช่วงเจ็บมั้ยมันก็มีแต่ไม่ได้เจ็บมาก เจ็บทนได้ (ความรู้สึกคงจะคล้ายๆเหมือนตอนเราดูดเยลลี่อะ555) ใช้เวลาดูดประมาณ 20 นาที จากนั้นพี่พนักงานก็มานวดแขนรีดน้ำออกแล้วก็พันแขนให้ เสร็จแล้วเราสามารถลุกเดินได้ปกติ ไม่มีมึนอะไรเลย ก่อนกลับก็ไปรับยา+ชุดทำแผล พร้อมฟังวิธีการดูแลตัวเองหลังดูด พอออกจากคลินิกเราสามารถไปเดินห้าง ต่อด้วยจตุจักรกับเพื่อนถึง5ทุ่มอะ 5555 แต่ว่าวันแรกกับวันที่2จะมีน้ำที่ปนกับเลือดไหลออกมาจากแผลเรื่อยๆ เพราะว่าดูดไขมันคุณหมอจะไม่เย็บแผลให้ เพื่อให้น้ำข้างในไหลออกมา(ทั้งนี้เราก็ต้องคอยขยับแขนเบาๆ บริหารแขนกำมือขึ้นแล้วหมุนๆ 5555)
>>>>วิธีการดูแลง่ายมากแต่จะลำบากหน่อยถ้าไม่มีคนช่วย ล้างแผลแล้วก็พันผ้าที่แขนแต่ถ้าน้ำที่แผลหยุดไหลแล้วก็ให้เปลี่ยนไปใส่ชุดกระชับได้เลย(ของเราทำมา2วันก็หยุดไหลแล้ว) แต่ช่วงแรกต้องใส่ให้ครบ 24 ชม.ก่อนนะ พยายามแกว่งแขนบ่อยๆ นวดบ่อยๆ
>>>> ว่าด้วยเรื่องของแผลจะมีขนาดเล็กมากประมาณหัวปากกาอะ ส่วนรอยช้ำก็มีบ้างแต่ไม่ใช่ทั้งแขนนะแค่บางจุดเท่านั้น
---------เราดูดไขมันวันที่ 2020/02/15 --------------
รูป Before&After ของเราในวันแรกที่ทำเลยยย จะเห็นได้ชัดว่ามันต่างกันมาก แต่นี่ยังถือว่าบวมอยู่ต่อไปแขนก็จะค่อยๆเล็กลงและเข้ารูป(จากที่ศึกษาจากเน็ตมา)
อันนี้เป็นรอยช้ำหลังจากเพิ่งทำเสร็จ
และนี้ก็คือ!!!!!!!!!! ไขมันต้นแขนของเราเองซึ้งมันเยอะมาก 800CC หมอถึงกับบอกว่าเห็นตัวแค่นี้แต่ซ่อนรูปแขน5555
สรุปเลยนะคะเราว่าจริงๆแล้วการดูดไขมันแขนครั้งนี้ของเรามันเป็นการซื้อความสบายใจของเราส่วนหนึ่ง ซึ่งแต่ละคนก็มีวิธีที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความพอใจของเราเองว่าจะเลือกวิธีไหน ถ้าเพื่อนๆคนไหนสนใจหรืออยากทราบรายละเอียดสามารถถามเราได้ เราเต็มใจที่จะตอบจากประสบการณ์ของเราเอง หลังจากนี้เราก็ยังคงเลือกวิธีการออกกำลังกายควบคู่ไปกับการคุมอาหารต่อไป เพื่อรักษาแขนไว้ไม่ให้กลับไปใหญ่อีก ขอบคุณสำหรับคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้มากๆนะคะ ยังไงเราจะคอยอัพเดทอาการลงในกระทู้นี้เรื่อยๆ เพื่อให้เห็นถึงความแตกต่างมากขึ้น
[CR] Review พลีชีพมากกับครั้งแรกของการดูดไขมัน
วันนี้เราอยากมาแชร์ประสบการณ์ให้ทุกคนได้อ่านกัน แบบไม่ซีเรียสน๊าาา เป็นกระทู้แรกของเราเองถ้าผิดพลาด หรือไม่ชอบยังไงเราขอโทษล่วงหน้านะคะ
กระทู้นี้เราเขียนขึ้นสำหรับคนที่สนใจเรื่องของรูปร่าง ขอเกริ่นก่อนเลยว่าเราเป็นคนนึงที่มีปัญหาเรื่องต้นแขน บวกกับที่เราเป็นคนตัวเตี้ย(153cm) ก็เลยดูตันๆ ไปใหญ่เลย เศร้ามากกกก เคยลดน้ำหนักไปถึง40ต้นๆ ออกกำลังกาย และควบคุมอาหารก็แล้ว สัดส่วนเล็กลงทั้งตัวแต่แขนเราก็ยังเหมือนโดเรม่อน(ขำแบบมีน้ำตาซึมมม) เวลาไปเที่ยว เข้าร้านเหล้า(เราสายตี้นิดนึงงง) อยากใส่เสื้อแขนกุด สายเดี่ยว แบบคนอื่นก็ไม่กล้า ต้องใส่แขนยาวปิดไว้ตล๊อดดดด พอกำลังจะเรียนจบเราเลยตัดสินใจแบบเอาวะ สักทีเหอะแขนอะ ขอใส่สักครั้งเถอะสายเดี่ยวแขนกุด เราเลยตัดสินใจไปดูดไขมันแขนบางคนอาจจะคิดว่าเฮ้ยยย ทำไมไม่เวท ทำไมไม่หาวิธีอื่น คือเราลองแล้วจริงๆ แต่ท้อแท้ บางคนอาจจะคิดว่าเราพยายามไม่มากพอรึป่าว เรายอมรับว่าอาจจะใช่แต่เราก็อยากลองวิธีนี้เหมือนกันเลยตัดสินใจที่จะทำ เข้าขั้นตอนกันดีกว่าเนอะ
Step 1 : เราหาข้อมูลเกี่ยวกับการดูดไขมันก่อนเลย ว่าผลข้างเคียงมีอะไรบ้าง แล้วเรายอมรับได้มั้ย บลาๆๆ พยายามดูคลิปในยูทูปจากหลายๆช่อง (ต้องขอบคุณคนที่ทำคลิปในยูทูปมากก ช่วยเราได้เยอะแยะเลย)
Step 2 : หาคลินิกที่น่าเชื่อถือและเรทราคาไม่แพงมาก คือเราก็ยังเป็นนักศึกษาอยู่เรื่องราคาก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการตัดสินใจที่สำคัญรองลงมาจากความปลอดภัยเลยอะ เพราะเงินที่ใช้ครั้งนี้เป็นเงินเก็บส่วนหนึ่ง แต่เอาวะเพื่อความสวยน้องจะยอมมมม ตอนที่เราหาคลินิกเราlistไว้เยอะมากกละเอามาดีเบตกับตัวเอง 5555 หาคลินิกที่สะอาดปลอดภัย รีวิวเยอะ และราคาไม่เป็นภัย แล้วเราก็ตัดสินใจเลือกต้นหลิว เพราะว่าราคานี้เราพอใจมากก(ตอนนั้นเราทันช่วงโปรโมชั่นพอดี ขอบคุณแต้มบุญที่ลูกเคยทำมา) แต่เอาจริงๆก็แอบหวั่นใจว่าจะดีจริงหรอ ราคาเรทนี้ จะได้จริงดิ หมอกักป่ะวะ555 คิดไปเรื่อย555 {(ราคาที่เราทำ 10,999 (ค่าดูดไขมัน+นวดกระชับ 2 ครั้ง)+2800 (ค่ายา+ค่าตรวจเลือด) }
Step 3 : พอเลือกคลินิกได้ก็ไลน์ไปสอบถามข้อมูลหมอเลยจร้า ไม่รีรอ เราปรึกษาหมอผ่านทางแชทอย่างเดียวเลย หมอก็ให้คำแนะนำเราดีไม่มีบ่นว่าเราถามนู่นนี่นั่นเยอะแยะ อยากจะขอโทษคุณหมอมากที่ชอบทักไปตอนดึกๆ555
Step 4 : เลือกชุดกระชับมาไว้รอเลยยยย อย่างที่เคยบอกไปตอนต้นว่าเคสนี้แอบเน้นประหยัดนิ้สนุงงงงง เราสั่งชุดจากร้านในShopee ราคาไม่แรงเนื้อผ้าดีด้วยยยย
Step 5 : ถึงวันที่เราต้องขึ้นเขียงแล้วบอกเลยว่าตอนนั้นอยากจะเดินออกจากคลินิกมากไม่อยากทำแล้วเพราะกลัวมากแม่ แต่ก็แบบเสียดายเงินค่ามันจำ 2000 ที่จ่ายไป
>>>>เราเดินเข้าไปพี่พนักงานก็ให้กรอกประวัติ ภายในคลินิกสะอาดมีคุณป้าแม่บ้านคอยมาเสริมน้ำให้ตลอดเลย น่ารักกกกก พอกรอกข้อมูลเสร็จพี่พนักงานก็พาขึ้นไปเปลี่ยนเกาะอกที่คลินิกเตรียมไว้ให้แล้วก็ถ่ายรูปBeforeเพื่อเก็บไว้เปรียบเทียบ (จุดนั้นคืออายมากเพราะเกาะอกบางมากแม่ที่อายนี่ไม่ใช่ไรนะนมไม่มี หยอกๆ)
>>>> คุณหมอเจาะเลือดเพื่อตรวจหาเชื้อ HIV โชคดีไปเราร๊อดดดดด
>>>>ต่อไปของจริงจร๊า ขึ้นเตียงหมอก็ชวนเราคุยไม่ให้เรากลัว อยากจะบอกหมอว่าที่ตอบหมอไปเยอะๆแต่ในใจหนูก็ยังแอบกลัวอยู่ดี5555 (ปล.เราชอบบรรยากาศในห้องดูดไขมันมากๆ ในห้องสว่างไม่มืด ประทับใจสุดคือคุณหมอเปิดเพลงยุคแบบรุ่นเราอะ พี่ดาเอ็นโดฟิน พี่เบิร์ดธงไชย แอมไฟน์ และอีกมากมาย ที่หมอและเราร้องได้ทุกเพลง ย้ำเราร้องได้ทุกเพลงจริงๆน๊า 5555) ละหมอก็จิ้มเข็มยาชาไซส์ปกติลงบนแขนเราจากนั้นก็แทงเข็มยาชาอันใหญ่ๆเข้าไป ความรู้สึกตอนนั้นคือ งง ไม่เจ็บนะแต่แอบจึกๆแบบมีอะไรมาขูดๆจิ้มๆในแขน ลงยาชาประมาณ 10 นาทีได้ จากนั้นก็เริ่มดูดแล้ววววว ความรู้สึกตอนดูดคือเหมือนเรากำลังนอนทำสปาแขนอะ5555 เหมือนมานวดๆ คือถามว่ามีช่วงเจ็บมั้ยมันก็มีแต่ไม่ได้เจ็บมาก เจ็บทนได้ (ความรู้สึกคงจะคล้ายๆเหมือนตอนเราดูดเยลลี่อะ555) ใช้เวลาดูดประมาณ 20 นาที จากนั้นพี่พนักงานก็มานวดแขนรีดน้ำออกแล้วก็พันแขนให้ เสร็จแล้วเราสามารถลุกเดินได้ปกติ ไม่มีมึนอะไรเลย ก่อนกลับก็ไปรับยา+ชุดทำแผล พร้อมฟังวิธีการดูแลตัวเองหลังดูด พอออกจากคลินิกเราสามารถไปเดินห้าง ต่อด้วยจตุจักรกับเพื่อนถึง5ทุ่มอะ 5555 แต่ว่าวันแรกกับวันที่2จะมีน้ำที่ปนกับเลือดไหลออกมาจากแผลเรื่อยๆ เพราะว่าดูดไขมันคุณหมอจะไม่เย็บแผลให้ เพื่อให้น้ำข้างในไหลออกมา(ทั้งนี้เราก็ต้องคอยขยับแขนเบาๆ บริหารแขนกำมือขึ้นแล้วหมุนๆ 5555)
>>>>วิธีการดูแลง่ายมากแต่จะลำบากหน่อยถ้าไม่มีคนช่วย ล้างแผลแล้วก็พันผ้าที่แขนแต่ถ้าน้ำที่แผลหยุดไหลแล้วก็ให้เปลี่ยนไปใส่ชุดกระชับได้เลย(ของเราทำมา2วันก็หยุดไหลแล้ว) แต่ช่วงแรกต้องใส่ให้ครบ 24 ชม.ก่อนนะ พยายามแกว่งแขนบ่อยๆ นวดบ่อยๆ
>>>> ว่าด้วยเรื่องของแผลจะมีขนาดเล็กมากประมาณหัวปากกาอะ ส่วนรอยช้ำก็มีบ้างแต่ไม่ใช่ทั้งแขนนะแค่บางจุดเท่านั้น
---------เราดูดไขมันวันที่ 2020/02/15 --------------
รูป Before&After ของเราในวันแรกที่ทำเลยยย จะเห็นได้ชัดว่ามันต่างกันมาก แต่นี่ยังถือว่าบวมอยู่ต่อไปแขนก็จะค่อยๆเล็กลงและเข้ารูป(จากที่ศึกษาจากเน็ตมา)
อันนี้เป็นรอยช้ำหลังจากเพิ่งทำเสร็จ
และนี้ก็คือ!!!!!!!!!! ไขมันต้นแขนของเราเองซึ้งมันเยอะมาก 800CC หมอถึงกับบอกว่าเห็นตัวแค่นี้แต่ซ่อนรูปแขน5555
สรุปเลยนะคะเราว่าจริงๆแล้วการดูดไขมันแขนครั้งนี้ของเรามันเป็นการซื้อความสบายใจของเราส่วนหนึ่ง ซึ่งแต่ละคนก็มีวิธีที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความพอใจของเราเองว่าจะเลือกวิธีไหน ถ้าเพื่อนๆคนไหนสนใจหรืออยากทราบรายละเอียดสามารถถามเราได้ เราเต็มใจที่จะตอบจากประสบการณ์ของเราเอง หลังจากนี้เราก็ยังคงเลือกวิธีการออกกำลังกายควบคู่ไปกับการคุมอาหารต่อไป เพื่อรักษาแขนไว้ไม่ให้กลับไปใหญ่อีก ขอบคุณสำหรับคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้มากๆนะคะ ยังไงเราจะคอยอัพเดทอาการลงในกระทู้นี้เรื่อยๆ เพื่อให้เห็นถึงความแตกต่างมากขึ้น
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น