สวัสดีครับ พอดีเหงา ๆ ไม่มีอะไรทำเลยว่าจะมาเขียนเล่าประสบการณ์ที่ไปฟัง Open House สถาบันเรือสำราญครับ
ตัวผมเองตอนนี้เป็น IT support ซึ่งพึ่งทำได้ 2 เดือนจะ 3 เดือน ที่เขารับผมเพราะเคยทำมาตอนเด็ก ๆ (ตอนนี้จะเลข 3 แล้ว)
และรู้เลยว่ายังไม่ใช่งานที่ตัวเองชอบ และมันไม่ถนัดอย่างแรง เลยอยากหางานอะไรก็ที่มันรู้สึกว่าได้ใช้ชีวิต โสดสาด ๆ นี้ให้มันคุ้ม
วันหนึ่งไปคุยกะเพื่อนมันมันบอกว่า มีเพื่อนมันอีกทีทำงานเรือสำราญลองดูดิเงินดีมากกกก !
ผมก็สนใจครับเลยหาข้อมูลทั้งทางเน็ตและไปฟังที่ ๆ เขาเปิด Open House เสมอ
เข้าเรื่อง..........
ที่ ๆ ผมไปนี้อยู่ใน กทม. นี้เองเป็นสถาบันจะว่าเล็กหรือป่าว หรือเขาเล็กแต่มั่นคงและดูเก๋าเกมส์พอสมควร
พี่เขาบอกว่าเขาเปิดเป็นที่แรก ๆ และได้เป็นตัวแทนตรงจาก Owner เรือเลยครับ
วันที่ไปผมไปฟังกับน้องสาว เขานัดเวลา 13.00 น.
ผมไปถึงก่อนครึ่งชั่วโมงเดิน โต๋เต๋ๆๆ แถวนั้นแล้วก็เข้าไป เจอเด็กนักเรียนรุ่นก่อนเรียนอยู่ก่อนแล้วประมาณ 10 คน
แต่พอถึงแล้ว ก็ค่อนข้างประหม่า ๆ หน่อย เพราะมีผมกะน้องมา 2 คน!! 5555 ก็ขำ ๆ กันนี่มันอะไรกันนี่ (เออแต่บ่าย 2 มีเพิ่มมาอีก 3 คนนะ !)
ถึงเวลาเขาก็เชิญเข้าไปในห้องครับ ไอ้เราก็คิดว่าเหมือนงานสัมมนาที่ไหนได้ ไปคุยกับเจ้าของสถาบันเลยครับ
นั่งจ้องหน้ากะเจ้าของเลย 5555 ก็ดีครับมีอะไรซักถามพี่เขาได้เลย พี่เขาเป็นกันเองมาก
คราวนี้พอฟังก็ดับฝันลมแล้ง ๆ ผมหลายอย่างคือ
1.ตำแหน่งที่คนไทยจะได้ทำและขายออกนั้นมีอยู่ตำแหน่งเดียวคือ Food&Beverage หรือพนักงานเสริฟนั่นเอง
2.ที่บอกตามเน็ตว่าเงินเดือนรวม ๆ กันเป็น แสนๆ!! บวก บวก นั่นมันก็ฝันครับ จริงประมาณ 25,000 ถึง 30,000 กว่า ไม่เกินนี้มากเท่าไหร่
แล้วที่บอกว่า ทิปงามนั้นเดี๋ยวนี้ฝรั่งเขาฉลาดเขาไม่ค่อยจ่ายกันแล้ว อ้าว !
โอ้ววถึงตรงนี้ผมใจสลาย..... 5555
3.ผมเหมือนอายุเกินและบุคคลิกภาพน่าจะไม่ได้ พี่เจ้าของบอกอย่างผมน่าจะได้คือ Ship Security หรือ ยามบนเรือนั่นเองแต่ภาษาต้องดีมากถึงขั้นน้อง ๆ Native speaker ปะ แล้วผมจะได้เหรอ ? (ลืมบอกผมอยากเป็นเด็กเสริฟ)
แต่.......
การไปฟังครั้งนี้มันเหมือนได้คนดึงสติพวกโลกสวยแบบผม ที่อยากได้งานเหนื่อยแต่คุ้ม ว่าจริง ๆ แล้วอันนี้ก็เหนื่อยแต่ก็ไม่ได้คุ้มเว่อร์ขนาดนั้น
ไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ โว้ย แต่มันก็ไม่ได้แย่ !
โดยการได้ขึ้นเรือสำราญเนั้นขาบอกเป็นการชุบตัวได้อย่างดีมาก กลับมาจะทำงานโรงแรมต่อก็ได้หรือสายงานขายอื่น ๆ
ที่ต้องเจรจาขายห้องโรงแรมเงินดีมากจ้า และก็อื่น ๆ อีกมากมาย
และก่อนที่จะได้ขึ้นเรือต้องฝึกงานในโรงแรม 4 ถึง 5 ดาวขึ้นไป อย่างน้อย 4 เดือน เอ๊ะ!! งงไหมบางท่านอาจเคยฟังว่า 6 เดือนนี่ ใช่ครับ ผมก็พึ่งรู้ว่าจริง ๆ
แค่ 4 เดือนนะจ้ะหนู ๆ พอฝึกเสร็จพี่เขาจะเรียกให้มาสัมภาษณ์เรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ขึ้นเรือ
มีติวเข้มให้ด้วยนะ แต่งโปรไฟล์ให้ดูดีหน่อย และสอนสิ่งที่ผู้ว่าจ้างอยากได้ยินเวลาสัมภาษณ์เรา
นอกจากนี้สิ่งที่ได้มาก ๆ ที่ผมมองเลยเห็นคือ ประสบการณ์ชีวิตจะ X10 !!
เพราะมันได้เปิดโลกทัศน์เยอะอะ ทั้งได้เจอคนร้อยพ่อพันแม่จากทั่วโลก
ที่สำคัญกินนอนบนเรือ ค่าใช้จ่ายแทบไม่มี ถ้าไม่ได้เป็นสายช็อป กลับมาจาก 1 คอนแท็กนี่เก็บตังค์ได้เป็นแสน ๆ อะ
สรุปแล้ว ผมอยากไปวะ แต่คงหมดโอกาสตอนนี้ก็เลยช่วยดันน้องสาวที่เขายังมีโอกาสอยู่ให้ทำตามความฝันเผื่อเราด้วย โชคดีนะไอ้น้องรัก...
สุดท้ายนี้ก็ ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนมองงานด้านนี้อยู่ อยากแชร์ประสบการณ์หรือแนะนำอะไรก็เมนต์มาเลยนะครับ อยากฟัง
บายครับ
ประสบการณ์ Open house สถาบันเรียนเพื่อทำงานเรือสำราญ
ตัวผมเองตอนนี้เป็น IT support ซึ่งพึ่งทำได้ 2 เดือนจะ 3 เดือน ที่เขารับผมเพราะเคยทำมาตอนเด็ก ๆ (ตอนนี้จะเลข 3 แล้ว)
และรู้เลยว่ายังไม่ใช่งานที่ตัวเองชอบ และมันไม่ถนัดอย่างแรง เลยอยากหางานอะไรก็ที่มันรู้สึกว่าได้ใช้ชีวิต โสดสาด ๆ นี้ให้มันคุ้ม
วันหนึ่งไปคุยกะเพื่อนมันมันบอกว่า มีเพื่อนมันอีกทีทำงานเรือสำราญลองดูดิเงินดีมากกกก !
ผมก็สนใจครับเลยหาข้อมูลทั้งทางเน็ตและไปฟังที่ ๆ เขาเปิด Open House เสมอ
เข้าเรื่อง..........
ที่ ๆ ผมไปนี้อยู่ใน กทม. นี้เองเป็นสถาบันจะว่าเล็กหรือป่าว หรือเขาเล็กแต่มั่นคงและดูเก๋าเกมส์พอสมควร
พี่เขาบอกว่าเขาเปิดเป็นที่แรก ๆ และได้เป็นตัวแทนตรงจาก Owner เรือเลยครับ
วันที่ไปผมไปฟังกับน้องสาว เขานัดเวลา 13.00 น.
ผมไปถึงก่อนครึ่งชั่วโมงเดิน โต๋เต๋ๆๆ แถวนั้นแล้วก็เข้าไป เจอเด็กนักเรียนรุ่นก่อนเรียนอยู่ก่อนแล้วประมาณ 10 คน
แต่พอถึงแล้ว ก็ค่อนข้างประหม่า ๆ หน่อย เพราะมีผมกะน้องมา 2 คน!! 5555 ก็ขำ ๆ กันนี่มันอะไรกันนี่ (เออแต่บ่าย 2 มีเพิ่มมาอีก 3 คนนะ !)
ถึงเวลาเขาก็เชิญเข้าไปในห้องครับ ไอ้เราก็คิดว่าเหมือนงานสัมมนาที่ไหนได้ ไปคุยกับเจ้าของสถาบันเลยครับ
นั่งจ้องหน้ากะเจ้าของเลย 5555 ก็ดีครับมีอะไรซักถามพี่เขาได้เลย พี่เขาเป็นกันเองมาก
คราวนี้พอฟังก็ดับฝันลมแล้ง ๆ ผมหลายอย่างคือ
1.ตำแหน่งที่คนไทยจะได้ทำและขายออกนั้นมีอยู่ตำแหน่งเดียวคือ Food&Beverage หรือพนักงานเสริฟนั่นเอง
2.ที่บอกตามเน็ตว่าเงินเดือนรวม ๆ กันเป็น แสนๆ!! บวก บวก นั่นมันก็ฝันครับ จริงประมาณ 25,000 ถึง 30,000 กว่า ไม่เกินนี้มากเท่าไหร่
แล้วที่บอกว่า ทิปงามนั้นเดี๋ยวนี้ฝรั่งเขาฉลาดเขาไม่ค่อยจ่ายกันแล้ว อ้าว !
โอ้ววถึงตรงนี้ผมใจสลาย..... 5555
3.ผมเหมือนอายุเกินและบุคคลิกภาพน่าจะไม่ได้ พี่เจ้าของบอกอย่างผมน่าจะได้คือ Ship Security หรือ ยามบนเรือนั่นเองแต่ภาษาต้องดีมากถึงขั้นน้อง ๆ Native speaker ปะ แล้วผมจะได้เหรอ ? (ลืมบอกผมอยากเป็นเด็กเสริฟ)
แต่.......
การไปฟังครั้งนี้มันเหมือนได้คนดึงสติพวกโลกสวยแบบผม ที่อยากได้งานเหนื่อยแต่คุ้ม ว่าจริง ๆ แล้วอันนี้ก็เหนื่อยแต่ก็ไม่ได้คุ้มเว่อร์ขนาดนั้น
ไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ โว้ย แต่มันก็ไม่ได้แย่ !
โดยการได้ขึ้นเรือสำราญเนั้นขาบอกเป็นการชุบตัวได้อย่างดีมาก กลับมาจะทำงานโรงแรมต่อก็ได้หรือสายงานขายอื่น ๆ
ที่ต้องเจรจาขายห้องโรงแรมเงินดีมากจ้า และก็อื่น ๆ อีกมากมาย
และก่อนที่จะได้ขึ้นเรือต้องฝึกงานในโรงแรม 4 ถึง 5 ดาวขึ้นไป อย่างน้อย 4 เดือน เอ๊ะ!! งงไหมบางท่านอาจเคยฟังว่า 6 เดือนนี่ ใช่ครับ ผมก็พึ่งรู้ว่าจริง ๆ
แค่ 4 เดือนนะจ้ะหนู ๆ พอฝึกเสร็จพี่เขาจะเรียกให้มาสัมภาษณ์เรื่อย ๆ จนกว่าจะได้ขึ้นเรือ
มีติวเข้มให้ด้วยนะ แต่งโปรไฟล์ให้ดูดีหน่อย และสอนสิ่งที่ผู้ว่าจ้างอยากได้ยินเวลาสัมภาษณ์เรา
นอกจากนี้สิ่งที่ได้มาก ๆ ที่ผมมองเลยเห็นคือ ประสบการณ์ชีวิตจะ X10 !!
เพราะมันได้เปิดโลกทัศน์เยอะอะ ทั้งได้เจอคนร้อยพ่อพันแม่จากทั่วโลก
ที่สำคัญกินนอนบนเรือ ค่าใช้จ่ายแทบไม่มี ถ้าไม่ได้เป็นสายช็อป กลับมาจาก 1 คอนแท็กนี่เก็บตังค์ได้เป็นแสน ๆ อะ
สรุปแล้ว ผมอยากไปวะ แต่คงหมดโอกาสตอนนี้ก็เลยช่วยดันน้องสาวที่เขายังมีโอกาสอยู่ให้ทำตามความฝันเผื่อเราด้วย โชคดีนะไอ้น้องรัก...
สุดท้ายนี้ก็ ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนมองงานด้านนี้อยู่ อยากแชร์ประสบการณ์หรือแนะนำอะไรก็เมนต์มาเลยนะครับ อยากฟัง
บายครับ