ไม่มีเรียนบ่าย หรือว่างๆ เสาร์อาทิตย์ อยากจะนั่งชิลล์กลางเมือง vibes ดีๆ ใกล้บ้านตัวเอง ก็ไม่ต้องไปไกลถึงทองหล่อแล้วววว! 

เพราะ The Commons คอมมูนิตี้มอลล์สุดฮิปเค้ามาเยือนศาลาแดงละจ้าาา

The Commons Saladaeng เพิ่งจะมี Soft Opening ไปไม่นานนี่เอง โดย location เค้าตั้งอยู่ที่ ศาลาแดง ซอย 1 ห่างจาก BTS ศาลาแดง / MRT สีลม ประมาณ 500 เมตร (รายละเอียดเดี๋ยวแปะไว้ข้างล่างนะ) บอกเลยว่าถ้าใครเบื่อที่นั่งทำงานเก่าๆ ร้านกาแฟเดิมๆ แบบแค่นึกก็ง่วงละ บอกเลยว่าที่นี่แอบอยากให้เก็บที่นี่ไว้ในใจ เพราะเค้ารวมทุกอย่างไว้ให้แล้ว ทั้ง working space ที่ทำงานก็ได้ นั่งกินก็ได้ นั่งชิวกลางคืนก็ได้ แถมอาหารก็พร้อม (แอลฯ ก็พร้อมอีก! oops!) บอกเลยว่าเหมือนยกทองหล่อมาไว้นี่จริงๆ จ้า

ละวันนี้ (จริงๆ ก็ไปมาพักใหญ่ๆ แล้ว แต่เพิ่งจะมีเวลามาอัพ...) ก็มากันสองพี่น้อง (ปุ๋ยกับปอนด์) ที่จะมาพาทุกคนไปทัวร์ THE COMMONS สาขานี้เบาๆ เพราะมาด้วยมู้ดที่ว่า อยากหาที่เปลี่ยนบรรยากาศมานั่งทำงานด้วยกันตามภาษาพี่น้องคิ้วๆ  เพราะปกติก็นั่งแต่ร้านกาแฟเดิมๆ อยู่แต่กับเพื่อน จนกลายเป็น comfort zone ไปแล้ว เลยอยากหา vibes ชิลล์ๆ ใหม่ๆ ให้ฟีลแนวทองหล่อ + กินอาหารอร่อยๆ ด้วย นี่คือมาเพราะว่าเห็น viral ในเฟสว่าเปิดใหม่ ละด้วยความชอบส่วนตัวกับสาขาทองหล่อ + ใกล้บ้าน + มี ROAST เลยไม่ลังเลเลยจ้ะ 

หลายเว็บก็คงรีวิวไปกันเยอะแล้วแหละว่าที่นี่เค้ามีร้านไหนบ้าง อารมณ์ที่นี่แบบ รวมทุกสายจริงๆ ทั้งสายกิน สายถ่ายรูป หรือสายนั่งชิวก็ได้หมดทั้งนั้น เพราะร้านเค้ามีหลากหลายจริงอะ 

คงไม่ลงละเอียดนะว่าชั้นไหนมีไรบ้าง เพราะวันนี้เราเน้นกิน เอ้ย เน้นมาทำงาน!! คืออยากเน้นรีวิวของกินมากกว่าสำหรับกระทู้นี้  

เอาง่ายๆ ชั้นแรกเค้าเรียกว่า The Ground ที่ได้รวมร้านอาหาร คาเฟ่เอาไว้ ละคือพี่ Roast พระเอกของเรา ก็กินพื้นที่ใหญ่สุดไปเลย สาขานี้ถือว่าใหญ่อยู่นะ แล้วถ้าเดินออกมาในโซนตัวห้างก็จะมีพวกคาเฟ่และร้านอื่นๆ อีก 3-5 ร้าน ตอนไปคือคนเข้าแถวเยอะม๊ากกกก แต่เค้าจะมีที่นั่งน้อย ก็คือถ้าซื้อ ก็ต้องเอาไปทานตรง common area ข้างบนนั่นเองง ซึ่งก็ตรงกับคอนเซปต์และความตั้งใจของเค้าแหละ ที่ว่า "Our intention is to build first a community, then a mall." 

สำหรับพวกสายถ่ายรูป พวกสร้างคอนเท้นต์เก่งแบบเรา บอกเลยว่าที่นี่คือเหมาะ ชี้เป้าว่ามีที่ถ่ายรูปหลายมุมมาก แต่แนะนำมากลางวัน แสงสวยยยย ยิ่งมุมตรงกระจกกะตรงข้างหน้าร้าน Roast นี่คือสุด (ref. ข้างล่าง) 

ขยับขึ้นมาชั้น 2 ที่เรียกว่า The Market รวมครบร้านดังแบบสาขาทองหล่อเลยอะแกร จุใจสุดๆ ไปเลยกับชั้นนี้ เพราะไม่ว่าจะ Guss Damn Good ที่มาในอีกเวอร์ชั่น ของ Sundae Bar หรือจะเป็น Hunter Poke, Lykke, The Lobster Lab บลาๆ ก็อยู่นี่ หรือ Fowlmouth (ตอนไปยังไม่เปิด) ที่เค้าลือกันว่าไก่เผ็ดม๊ากก 

นอกจากนี้ยังมีแบรนด์ใหม่ที่ไม่มีที่ทองหล่ออีกมากมาย เช่น ข้าวมันไก่ Boon Tong Kee, Bowl Journey, Bun Meat & Cheese, Paak, Pad Pad, QQ Dessert เป็นต้น หรือจะมาในรูปบาร์ต่างๆ อย่าง  Draftland, Taproom ที่เหมาะสุดถ้าจะมานั่งชิวๆ catch up กับเพื่อนๆ ยามค่ำแน่นอน 

และ ชั้นบนสุดที่ทางนั้นเค้าเรียกว่า the Platform เป็นพื้นที่ที่กว้างพอสมควรที่ไว้ทำกิจกรรมต่างๆ ที่เคลมว่าเป็น multi-functional space แต่ตอนไปก็คือยังไม่เปิดจ้าาา 

และก็มาถึงเวลาที่เรารอคอยยยย อยากรีวิวอาหารไม่ไหวแล้ววว พอถึงนี่ก็วิ่งเข้าร้านอาหารก่อนเลยจ้า หิวม๊ากกก!! ดูด้วยนะคะว่าเราให้ priority กับอะไรก่อน55555555 อ๊ะ แต่วันนี้ก็ไม่ได้มากันแค่ 2 คนนะจ๊ะ คุณน้องชาย นางเอาแฟนมาด้วยจ้าาา โอโหหหหห ชั้นเป็นใครรรร ชั้นกลายเป็น third wheel ของน้องทันที แต่น้องเค้าน่ารักเว่อร์ ยังคอยช่วยสลับถ่ายรูปให้เราไปอีกกก งุ้ย (ว่าที่)พี่สะใภ้เป็นปลื้ม

ละวันนี้ร้านที่ตั้งใจมา ก็คือพระเอกของเรา นั่นคือ ROAST นั่นเอง  คือจริงๆ เคยกินร้านนี้แค่ครั้งเดียว นานมากแล้วที่ Emquatier ตอนนั้นกินเป็น brunch กับเมนูสุดอินเทรนด์ของเค้าอย่าง Egg Benedict แต่วันนี้เรามากันสามคน ก็ขอจัดเต็มหน่อย มาดูกันว่าจะหมดกับอะไรไปบ้าง!! 

ภายในร้านเค้าก็คล้ายๆ สาขาอื่นที่ให้มู้ดแบบโคซี่ๆ กับเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นไม้เป็นหลัก กับโทนสีแดงเข้มๆ แต่เห็นแล้วสบายตา กับสีน้ำตาลที่ซัมฮาวก็เข้ากันได้เป็นอย่างดี บวกกับการที่เค้าเน้นตกแต่งด้านหน้าร้านด้วยกระจกโปร่งๆ ทำให้รู้สึกไม่อึดอัดจนเกินไป ซึ่ง overall ทำให้เราชอบบรรยากาศสุดๆ แบบทั้งดูหรู แต่ก็รู้สึก relaxed เหมือนมาทานชิวๆ รวมกันในมื้อเดียว 

เปิดมาด้วยการที่ทางร้านเอาขนมปัง sourdough กับเนย (รูปแรกซ้ายบน) มาเสิร์ฟให้เป็น starter ก่อน คือ happy มากเพราะหิวกันมากแบบไม่ไหวแล้วววว ชั้นชอบแป้งงง ชั้นจะกินแป้งงงงง (ชาติไหนจะผอม งอง) 

ตามมาด้วย Caesar Salad (280.-) ที่คุณน้องชายอยากทาน สำหรับตัวปุ๋ยคือตัวสลัดก็คล้ายๆ กับที่อื่นเลย แต่ Bacon Crumb เค้าดีย์อะ แบบดีย์ แต่มันมีเด็ดกว่านี้! สำหรับน้องชาย นางบอกว่า “ชอบความที่ผักไม่ขม ชีสรสชาติดี” แหม ก็เค้าชอบของเค้าน่ะเนอะ555555  

เมนูต่อๆ มาที่เริ่มวางก็มี (เรียงจากซ้ายไปขวา) Truffle Alfredo (340.-), Smashed Avocado (420.-) ละก็ Quesadilla (280.-) 

อะแฮ่ม ก็ขอรีวิวแต่ละเมนูเลยละกัน (อาจจะไม่โปรมากเพราะเพิ่งเริ่มรีวิวนะค้าา แล้วก็มีความ subjective สูงมาก ฉะนั้นก็แอบอยากให้ไปลองเองกันด้วยนะ อิ)

- ตัวแรกมา คือตัว Alfredo ส่วนตัวปุ๋ยเองนะ รู้สึกกลางๆ นะ ไม่ได้ติดใจอะไรเบอร์นั้น (น่าจะเพราะรสชาติตรงตามที่คาดหวัง) แต่ที่ติดใจคือชอบตัวเส้นมากกกก เพราะนางเป็นเส้น Tagliatelle ที่ให้ texture คล้ายกับตัว Fettucine แต่ร้านนี้เส้นเค้าใหญ่กว่า เลยอินตัวเส้นเป็นพิเศษ ใครเป็นสายเส้นใหญ่ๆ แบบเรา ต้องไปลอง! ส่วนมุมน้องชายเค้าบอกว่า “กินง่าย เชฟทำให้รสชาติไม่เลี่ยนเกินไป ซอสกลมกล่อมดี แต่ทีเด็ดที่เจอคือตัวเบค่อน เพราะเค้าให้มาสองแบบ ทั้งแบบกรอบและแบบนุ่ม อินแบบกรอบมากๆ แบบสุด เพราะทอดได้กรอบ กลิ่นหอม ไม่อมน้ำมัน ตัดเลี่ยนได้ดีเว่อร์” 

- เมนูต่อมา (รูปกลาง) เป็นเมนู Brunch ของเค้า ชื่อว่า Smashed Avocado คือถ้ามาเองจะไม่สั่ง เพราะปกติไม่ใช่คนที่อินอโวคาโดขนาดนั้น แต่แฟนน้องบอกว่าน่ากิน อะ เลี้ยงน้องงงง ก็สวยๆ รวยๆ อะ ละคือไหนๆ สั่งมาแล้วก็ขอลองหน่อย คำเดียวเท่านั้นแหละ อื้อหืมมมมม เด็ด!! บอกเลยว่ารอบหน้าถ้ามาอีกก็สั่งอีกแน่แม่ แบบดีมาก ให้เป็นตัวท้อปของการมารอบนี้จริงๆ เหนือความคาดหมาย มี 5 ให้ 5 คือตัวมะเขือเทศกะตัวผักข้างๆ ก็เข้ากันได้เป็นเลิศ เพราะนางราดด้วยน้ำสลัด Balsamic คือรสมันเข้ากันแบบสุดๆ + ขนมปังที่โปะหน้าด้วยอโวคาโดบด มัน balance กันได้แบบจี๊ดปาก กร๊าวใจมากเลยอะ รอบหน้าสั่งอีกแน่ๆ!

ตัวสุดท้ายคือเคซาดิญ่าไก่ของโปรดดดดด อร่อยกว่าที่คิดไว้เหมือนกัน ใหญ่ได้ใจ ไส้แน่นนนนเว่อร์ จริงๆ คือมี 4 ชิ้น แต่พอวางก็คือมีคนหิว มือไวฉกไปก่อน5555555555 side เค้าก็คือครบ มีทั้ง Guacamole, Tomato Salsa กับ Sour Cream

สรุปคือ 3 คน 4 เมนู หมดไปเบ็ดเสร็จทั้งหมด 1,612.49 (รวม น้ำเปล่า + Service Charge + VAT) 

ขนาดมาหิวๆ กันทั้งสามคน ก็อิ่มกำลังพอดีกลับไปจ้าาาา 

เราไม่ได้ออเดอร์ของหวานกัน เพราะจะไปต่อร้านอื่น ก็สรุปคะแนนได้ว่าาาา 

คะแนน Overall สำหรับที่นี่ (คหสต) : 4.5/5 

สถานที่และวิว: หักเพราะยังติดใจกับวิวสูงๆ แบบสาขาที่ Emquatier อยู่ แต่ก็ชอบโทนและการตกแต่ง

อาหาร: มี 10 ก็ให้ 10 ไม่รู้เพราะหิวหรืออะไร แต่รู้สึกอร่อยกว่าครั้งแรกที่เคยกิน

ราคา: ถือว่าให้เยอะสมราคา แต่บางอย่างก็แอบแพงไปนิส แต่กับรสชาติที่ดีเบอร์นี้ก็ยอมให้เค้าได้แหละแม่ เอ้ออออ

บริการ: พี่เค้าลืมเอาน้ำเปล่ามาให้ มาตอนจะกินหมดแล้ว555555 แต่ก็เอ็นดูความน่ารักพี่พนักงานตอนจะเช็คบิล คือนี่กำลังจะเซลฟี่ละพี่เค้าเดินผ่านข้างหลังพอดี เค้าหลบแทบไม่ทัน แล้วก็ขำกันทั้งคู่ ตลกกก น่าร้ากกกก

สรุป โดยรวมประทับใจมากๆๆ จะกลับมากินอีกบ่อยๆ แน่ แต่คิดว่าน่าจะเปลี่ยนสาขา เพราะที่นี่หาที่จอดยากเว่ออออร์ เพราะตอนมาที่จอดรถเค้ายังไม่เสร็จเลย55555 เลยต้องจอดข้างหน้าเอา 

มาต่อกันที่โซน the Market ที่เรารัก ที่เหมือนเป็น signature ของที่นี่ด้วย (แปะรูปไว้แล้วข้างบน) ให้ vibes ที่ทองหล่อสุดๆ แต่ไม่ชัวร์ว่าที่นี่เค้ามีดนตรีสดเหมือนกันมั้ย แต่ก็เหมาะกับมู้ดวันนี้การมานั่งทำงานอะ คือถ้ามีเพลงก็รู้เลยนะคะว่าจะเลือกงานหรือเลือกอะไร5555555 

พอ settle แล้วก็ต้องมีของหวานค่าาาา ต้องหาน้ำตาลเข้าเส้นจะได้ดีดๆ มีแรงอ่านหนังสือ ร้านต่อไปเราก็จะมารีวิวร้านที่ทุกคนน่าจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว มันคือ QQ Dessert ของหวานจากไต้หวัน ที่เค้ายกมาไว้ที่นี่เหมือนกัน วันนี้เราสั่ง Taiwanese Milk Tea (179.-) ที่จะเป็นการผสมของ ไข่มุก + ขนมปังแบบครัมเบิล + ชานม + วิปชีส + ทาโร่บอล + พุดดิ้ง และยังมีซอสชานมมาให้ราดอีก รู้สึกได้อัดคาร์ปแบบจุกๆ เห็นเป็นตัวที่ Reccommended ก็เลยจัดดดดด 

ร้านเค้าก็เป็น self-service เหมือนกับสาขาอื่นๆ ที่สั่งแล้วก็เดินไปหยิบเอง แล้วก็มานั่งตรงโซนที่เป็นโต๊ะ ที่เราจะสั่งอะไรมานั่งทานรวมๆ กันก็ได้ แล้วนี่เพิ่งเคยกินร้านนี้จริงจังครั้งแรก เพราะรอบที่แล้วที่เคยกินคือ กินแค่ taro ball ของเพื่อน555555 (ตอนนั้นไดเอทอะแกร)​ โดยรวมแล้วทั้งถ้วยก็ไม่แย่นะ คือจริงๆ ติดใจตรงซอสชานมอะมันทำให้กลมกล่อม นัวๆ ขึ้น เพราะถ้าไม่มีก็คงจืดไป ส่วนไข่มุกกะ taro ball ก็หนึบใช้ได้ ปกติชอบไข่มุกเหนียวๆ อยู่แล้ว ละยิ่งพอมี crumble กับ pudding มา แล้วกินไปพร้อมๆ กัน กับน้ำแข็งเกล็ดเย็นๆ ก็คือฟินจริงงงง ละก็ถือว่าให้เยอะนะเพราะมากัน 3 คนก็คือกินไม่หมดอะ น่าจะเพราะอิ่มจาก Roast ด้วย พอกินไปเรื่อยๆ ก็แอบหวานไปนิส ดื่มน้ำตามรัวๆ 

Overall คะแนน: 3.7/5  

สถานที่และวิว: ให้ vibes ดีกว่าสาขาอื่นๆ เอาใจไปเต็มๆ ค่ะ!! 

อาหาร: รู้สึกว่ายังไม่สุด มันยังมีสุดกว่านี้ แต่ไม่ใช่จืดหรือหวานจนไม่อร่อยอะ มัน not bad แต่ก็ให้ความรู้สึกที่เฉยๆ มากกว่า แต่รสชาติชานมถือว่าดีย์นะ 

ราคา:  ปริมาณกับราคาเทียบกับ 3 คน + ความแฟนซีของเมนู ถือว่าโอเคเลยนะ not too bad 

บริการ: พี่พนักงานก็น่ารักดี แต่หักตรงที่ไม่รู้ว่าออเดอร์จะเสิร์ฟเมื่อไหร่ ไม่ชัวร์ว่าเพราะพึ่งจะเปิดด้วยรึเปล่า เลยไม่มีตัวเตือน แต่คือถ้าไม่หันไปดู แล้วเดินไปถามก็ไม่รู้เลยว่านี่ของเรา

[/