ในดินแดนสุดขอบตะวันตกของมองโกเลียนั้น มีชนเผ่านามว่า คาซัค อาศัยอยู่อย่างกระจัดกระจายตามผืนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ ในช่วงฤดูร้อน พวกเขาใช้เวลานี้เพื่อเลี้ยงสัตว์และกักตุนอาหารให้พร้อมสำหรับฤดูหนาวที่อุณหภูมิมีโอกาสติดลบถึง 40 องศา
ท่ามกลางแผ่นดินที่กว้างใหญ่มีเพียงไม่กี่คนที่เป็น Eagle hunter หรือเหล่าผู้ฝึกนกอินทรีทองซึ่งใช้ในการล่าเหยื่อ และเหยื่อที่ถูกล่าเป็นพวก หมาป่า สุนัขจิ้งจอก กระต่าย กวาง....เพื่อนำเนื้อมาปรุงอาหาร นำหนังมาทำเสื้อผ้า ทุกส่วนของร่างกายถูกนำมาใช้ได้อย่างคุ้มค่าจริงๆครับ
ทริปนี้ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นมาก จากครอบครัวชนเผ่าคาซัคที่เป็น eagle hunter ถึง 3 ครอบครัวด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนที่นอนแทบทุกคืนครับ เพื่อจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตพวกเขาจริงๆ รถแล่นผ่านทุ่งหญ้าที่ไกลสุดลูกหูลูกตา ผ่านภูเขาต่างๆ จนไปถึงที่พักอาศัยหรือเกอร์ของชนเผ่าคาซัค..
ทุกครอบครัวเมื่อเจอผู้มาเยือน จะออกมาต้อนรับ กล่าวคำทักทายพร้อมเชิญเราเข้าเกอร์ไปดื่มชานมร้อนๆทานคู่กับขนมปังและเหล่าชีสที่ทำขึ้นเองต่าง ๆ จากนั้นผู้หญิงในครอบครัวก็จะลงมือทำอาหารทันทีครับ....เป็นแบบนี้ทุกครอบครัวที่เราไปเยือน !
ส่วนอาหารที่นำมาให้ทานก็จะเป็น เนื้อแกะ แพะ ต้ม มีเครื่องปรุงแค่เกลือและหัวหอมเท่านั้นครับ คลุกกับข้าวหรือบางครั้งก็เป็นเส้นแป้งที่นวดเอง นอกจากการฝึกนกอินทรีที่เราได้เรียนรู้แล้ว อีกทักษะที่คนมองโกเลียเชี่ยวชาญและชำนาญมาก ๆ คือ การขี่ม้า ซึ่งเด็กมองโกเลียส่วนใหญ่อายุเพียง 4 ขวบ ก็ต้องเริ่มหัดขี่ม้ากันแล้วครับ สิ่งเหล่านี้ทำให้คนมองโกเลียมีความแข็งแรง บวกกับสายเลือดนักรบที่ตกทอดกันมา ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจงกิสข่านถึงเป็นผู้พิชิตโลกได้ในยุคสมัยนั้น
อุปกรณ์ที่ใช้ nikon D750 nikor24-120 F4 kit lens
Tokina 11-16 F2.8 ii Dx (ถ่ายดาว)
Samsung S10+
The last Eagle hunter | นักล่าอินทรีทองกลุ่มสุดท้ายของโลก
ท่ามกลางแผ่นดินที่กว้างใหญ่มีเพียงไม่กี่คนที่เป็น Eagle hunter หรือเหล่าผู้ฝึกนกอินทรีทองซึ่งใช้ในการล่าเหยื่อ และเหยื่อที่ถูกล่าเป็นพวก หมาป่า สุนัขจิ้งจอก กระต่าย กวาง....เพื่อนำเนื้อมาปรุงอาหาร นำหนังมาทำเสื้อผ้า ทุกส่วนของร่างกายถูกนำมาใช้ได้อย่างคุ้มค่าจริงๆครับ
ทริปนี้ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นมาก จากครอบครัวชนเผ่าคาซัคที่เป็น eagle hunter ถึง 3 ครอบครัวด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนที่นอนแทบทุกคืนครับ เพื่อจะได้เรียนรู้วิถีชีวิตพวกเขาจริงๆ รถแล่นผ่านทุ่งหญ้าที่ไกลสุดลูกหูลูกตา ผ่านภูเขาต่างๆ จนไปถึงที่พักอาศัยหรือเกอร์ของชนเผ่าคาซัค..
ทุกครอบครัวเมื่อเจอผู้มาเยือน จะออกมาต้อนรับ กล่าวคำทักทายพร้อมเชิญเราเข้าเกอร์ไปดื่มชานมร้อนๆทานคู่กับขนมปังและเหล่าชีสที่ทำขึ้นเองต่าง ๆ จากนั้นผู้หญิงในครอบครัวก็จะลงมือทำอาหารทันทีครับ....เป็นแบบนี้ทุกครอบครัวที่เราไปเยือน !
ส่วนอาหารที่นำมาให้ทานก็จะเป็น เนื้อแกะ แพะ ต้ม มีเครื่องปรุงแค่เกลือและหัวหอมเท่านั้นครับ คลุกกับข้าวหรือบางครั้งก็เป็นเส้นแป้งที่นวดเอง นอกจากการฝึกนกอินทรีที่เราได้เรียนรู้แล้ว อีกทักษะที่คนมองโกเลียเชี่ยวชาญและชำนาญมาก ๆ คือ การขี่ม้า ซึ่งเด็กมองโกเลียส่วนใหญ่อายุเพียง 4 ขวบ ก็ต้องเริ่มหัดขี่ม้ากันแล้วครับ สิ่งเหล่านี้ทำให้คนมองโกเลียมีความแข็งแรง บวกกับสายเลือดนักรบที่ตกทอดกันมา ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเจงกิสข่านถึงเป็นผู้พิชิตโลกได้ในยุคสมัยนั้น
อุปกรณ์ที่ใช้ nikon D750 nikor24-120 F4 kit lens
Tokina 11-16 F2.8 ii Dx (ถ่ายดาว)
Samsung S10+