เลื่อนฉายมาซะยาวเลย หลังจากปล่อยตัวอย่างแรกออกมาแล้วความอัปลักษณ์ของเจ้า Sonic ทำให้แฟนๆ รับไม่ได้จนต้องมีการวาดปรับปรุงหน้าตาใหม่ให้ดูน่ารักและเหมือนในเกมมากกว่าเดิม สุดท้ายก็ได้ฉายจนได้ ซึ่งเจ้าตัวที่ออกแบบมาใหม่นี่หน้าตาน่ารักกว่าเดิมหลายเท่าตัว ทีนี้คนดูก็ต้องมาลุ้นเรื่องราวของเจ้าเม่นสีฟ้าตัวนี้แล้ว ว่าจะสนุกแค่ไหน
เรื่องราวของเจ้าเม่นสายฟ้าโซนิค ที่ต้องลี้ภัยมาจากอีกโลกหนึ่งด้วยการใช้แหวนวิเศษ มาอยู่ที่โลก และต้อง ร่วมมือกับทอม เพื่อต่อสู้กับวายร้ายอย่าง ดร.โรบ็อทนิก ที่ไล่ล่าจับโซนิค และทุ่มใช้พลัง และเทคโนโลยีอย่างมหาศาลเพื่อครองโลก
หนังเล่าตามสูตรของหนังแนว Adventure ผจญภัยเต็มที่ เดินเรื่องตรงๆ ทื่อๆ และไม่ได้มีอะไรแปลกแหวกแนว ซึ่งต้องบอกก่อนว่า อย่าไปหวังอะไรมากกับมัน เพราะเนื้อเรื่องหนังค่อนข้างสร้างมาให้ตลก น่ารัก เบาสมองมากกว่าจะเป็น Action Adventure แบบมันส์ๆ เท่ๆ แน่นอนว่าหนังต้องโฟกัสไปที่ Sonic นั่นแหละ ใช้ Sonic เป็นตัวเดินเรื่อง ซึ่งเป็นการเสิร์ฟแฟนๆ Sonic ให้หายคิดถึงได้อย่างดีเยี่ยม เพียงแต่ช่วงแรกก็จะไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ และมี ทอม ที่รับบทโดย James Marsden เป็นตัวสมทบ เรื่องราวจะเริ่มสนุกขึ้นก็ตอนที่ ดร. โรบ็อทนิก โผล่ออกมา ซึ่งบทนี้ Jim Carry เล่นได้เพี้ยนดีจริงๆ แต่เมื่อเทียบกับหนังแนวเดียวกันที่ผ่านมาล่าสุดอย่าง Detective Pikachu ส่วนตัวผมว่าเนื้อเรื่องของ Detective Pikachu ดูสนุกและน่าติดตามมากกว่าพอสมควร
ด้วยเรื่องราวที่แสนธรรมดา ผมเลยคาดหวังไปกับด้านงาน CG มากกว่า แต่พอดูจริงๆ ก็ยังไม่ได้ถือว่าโดดเด่นอะไรนัก เหมือนอนิเมชั่นธรรมดาๆ เรื่องหนึ่ง ซึ่งถ้าเทียบกับเรื่องอื่นๆ ที่ใช้ CG ทำตัวละคร หรือเทียบกับเรื่อง Detective Pikachu เหมือนเดิม ก็ยังสู้ไม่ได้ในด้าน CG อยู่ดี เพราะมันไม่ได้ Wow มาก คือตัว Sonic เปิดตัวได้โอเค มีความน่ารักและกวนๆ เกรียน แต่พอดูไปสักพัก ก็จะเริ่มหมดเสน่ห์ไปเรื่อยๆ ไม่ได้มีอะไรให้ตื่นตาตื่นใจ
เนื้อเรื่องแบบนี้เด็กๆ ชอบแน่นอน เพราะดูง่าย เพลินๆ แต่สำหรับผู้ใหญ่ ถ้าไม่ได้ชอบอะไรตัวละครจากค่าย Sega ตัวนี้เป็นพิเศษ ก็จะเฉยๆ และไม่ได้รู้สึกอะไรกับมัน เพราะเรื่องราวมันตามสูตรเป๊ะๆ ไม่ได้มีอะไรใหม่ให้น่าติดตาม ส่วนแฟนคลับ Sonic เรื่องนี้ถือว่าทำให้ฝันของเหล่าแฟนคลับที่อยากเห็นเจ้าเม่นสีฟ้าโลดแล่นบนหน้าจอภาพยนตร์ ก็คงสมใจอยากแล้วล่ะ และตอนท้ายก็ยังปลายเปิดไว้แบบว่า ต้องมีภาคต่อแน่ๆ อีกด้วย ก็หวังว่าภาคต่อ คนเขียนบทจะหาลูกเล่นมาใส่ในหนังให้น่าติดตามมากขึ้นกว่านี้นะ
ฝากเพจหนังเล็กๆ ด้วยนะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai/
[CR] [#Review] Sonic the Hedgehog - ตอบโจทย์ความคิดถึงให้แฟนๆ SEGA แต่หนังน่าจะเหมาะกับเด็กมากกว่าผู้ใหญ่
เลื่อนฉายมาซะยาวเลย หลังจากปล่อยตัวอย่างแรกออกมาแล้วความอัปลักษณ์ของเจ้า Sonic ทำให้แฟนๆ รับไม่ได้จนต้องมีการวาดปรับปรุงหน้าตาใหม่ให้ดูน่ารักและเหมือนในเกมมากกว่าเดิม สุดท้ายก็ได้ฉายจนได้ ซึ่งเจ้าตัวที่ออกแบบมาใหม่นี่หน้าตาน่ารักกว่าเดิมหลายเท่าตัว ทีนี้คนดูก็ต้องมาลุ้นเรื่องราวของเจ้าเม่นสีฟ้าตัวนี้แล้ว ว่าจะสนุกแค่ไหน
เรื่องราวของเจ้าเม่นสายฟ้าโซนิค ที่ต้องลี้ภัยมาจากอีกโลกหนึ่งด้วยการใช้แหวนวิเศษ มาอยู่ที่โลก และต้อง ร่วมมือกับทอม เพื่อต่อสู้กับวายร้ายอย่าง ดร.โรบ็อทนิก ที่ไล่ล่าจับโซนิค และทุ่มใช้พลัง และเทคโนโลยีอย่างมหาศาลเพื่อครองโลก
หนังเล่าตามสูตรของหนังแนว Adventure ผจญภัยเต็มที่ เดินเรื่องตรงๆ ทื่อๆ และไม่ได้มีอะไรแปลกแหวกแนว ซึ่งต้องบอกก่อนว่า อย่าไปหวังอะไรมากกับมัน เพราะเนื้อเรื่องหนังค่อนข้างสร้างมาให้ตลก น่ารัก เบาสมองมากกว่าจะเป็น Action Adventure แบบมันส์ๆ เท่ๆ แน่นอนว่าหนังต้องโฟกัสไปที่ Sonic นั่นแหละ ใช้ Sonic เป็นตัวเดินเรื่อง ซึ่งเป็นการเสิร์ฟแฟนๆ Sonic ให้หายคิดถึงได้อย่างดีเยี่ยม เพียงแต่ช่วงแรกก็จะไม่ค่อยมีอะไรเท่าไหร่ และมี ทอม ที่รับบทโดย James Marsden เป็นตัวสมทบ เรื่องราวจะเริ่มสนุกขึ้นก็ตอนที่ ดร. โรบ็อทนิก โผล่ออกมา ซึ่งบทนี้ Jim Carry เล่นได้เพี้ยนดีจริงๆ แต่เมื่อเทียบกับหนังแนวเดียวกันที่ผ่านมาล่าสุดอย่าง Detective Pikachu ส่วนตัวผมว่าเนื้อเรื่องของ Detective Pikachu ดูสนุกและน่าติดตามมากกว่าพอสมควร
ด้วยเรื่องราวที่แสนธรรมดา ผมเลยคาดหวังไปกับด้านงาน CG มากกว่า แต่พอดูจริงๆ ก็ยังไม่ได้ถือว่าโดดเด่นอะไรนัก เหมือนอนิเมชั่นธรรมดาๆ เรื่องหนึ่ง ซึ่งถ้าเทียบกับเรื่องอื่นๆ ที่ใช้ CG ทำตัวละคร หรือเทียบกับเรื่อง Detective Pikachu เหมือนเดิม ก็ยังสู้ไม่ได้ในด้าน CG อยู่ดี เพราะมันไม่ได้ Wow มาก คือตัว Sonic เปิดตัวได้โอเค มีความน่ารักและกวนๆ เกรียน แต่พอดูไปสักพัก ก็จะเริ่มหมดเสน่ห์ไปเรื่อยๆ ไม่ได้มีอะไรให้ตื่นตาตื่นใจ
เนื้อเรื่องแบบนี้เด็กๆ ชอบแน่นอน เพราะดูง่าย เพลินๆ แต่สำหรับผู้ใหญ่ ถ้าไม่ได้ชอบอะไรตัวละครจากค่าย Sega ตัวนี้เป็นพิเศษ ก็จะเฉยๆ และไม่ได้รู้สึกอะไรกับมัน เพราะเรื่องราวมันตามสูตรเป๊ะๆ ไม่ได้มีอะไรใหม่ให้น่าติดตาม ส่วนแฟนคลับ Sonic เรื่องนี้ถือว่าทำให้ฝันของเหล่าแฟนคลับที่อยากเห็นเจ้าเม่นสีฟ้าโลดแล่นบนหน้าจอภาพยนตร์ ก็คงสมใจอยากแล้วล่ะ และตอนท้ายก็ยังปลายเปิดไว้แบบว่า ต้องมีภาคต่อแน่ๆ อีกด้วย ก็หวังว่าภาคต่อ คนเขียนบทจะหาลูกเล่นมาใส่ในหนังให้น่าติดตามมากขึ้นกว่านี้นะ
ฝากเพจหนังเล็กๆ ด้วยนะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้