ถ้า Covid-19 ระบาด Phase 3 ในไทย จะเกิดอะไรขึ้น แล้วเราจะรับมือไหวไหม ?
สถานการณ์ไวรัสโคโรน่ายังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะ 3 ประเทศ เกาหลี ใต้อิหร่าน และอิตาลี ที่เข้าสู่ Phase 3
ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อ เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยที่ไม่รู้ว่าจะตามหาต้นตอของการระบาดได้อย่างไร
การระบาดระยะที่ 3 คืออะไร คือเริ่มมีการติดเชื้อจากคนสู่คน ภายในประเทศ โดยที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงและหาที่มาที่ไปของต้นตอการติดเชื้อไม่ได้
ทำให้ไม่สามารถควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพเกิดการระบาดโดยทั่ว
ความน่ากลัวของระยะนี้คือ มีผู้ป่วยมากเกินศักยภาพที่ทางการจะสามารถรับได้ ทำให้เกิดการขาดแคลนทั้งยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ
รวมถึงทำให้มาตรฐานการดูแลรักษาแย่ลง เพราะบุคลากรไม่เพียง พอระยะเวลารอคอยนานขึ้น จนอาจทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้ป่วย
ยกตัวอย่างเช่นมีผู้ป่วยแผลติดเชื้อ 1 ล้านคนขึ้นมาทันที ทำให้ทำแผลไม่ทัน จนผู้ป่วยรายที่ 9 หมื่นเป็นต้นไป
อาจจะเสียชีวิตทั้งหมดได้เนื่องจากแผลติดเชื้อลามมากขึ้น
ทั้งที่จริงๆ โรคนี้ไม่รุนแรงอัตราการเสียชีวิตอาจจะน้อยกว่า 0.01% แต่พอรักษาไม่ทันก็ทำให้โรคมีความรุนแรงมากเกินจริง
มาดูข้อมูล ของ Covid-19 ขณะที่เริ่มเข้า Panendermic ของแต่ละประเทศ
จีน
จากตารางที่ 1 จะพบว่า
Before 1 Feb อัตราเสียชีวิตใน Wuhan สูงถึง 3 %
ในขณะที่ประเทศอื่นมีเพียง 0.2%
หลังจาก จีนทุ่มทรัพยากรทั้งหมดลงไป
ทั้งปิดเมือง หมอ และพยาบาล โรงพยาบาลใหม่
ทำให้อัตราตาย ลดลงเหลือเพียง 0.8% (Ref 1)
อะไรทำให้ อัตราตายในช่วงแรกของ Phase 3 ต่างกันในแต่ละประเทศ
1. น่าจะเป็นความสามารถในการควบคุมการระบาดให้ไม่กระจายดังรูปที่ 2
ถ้าคุมไม่ได้ ก็จะเหมือนเส้นแดงคือระบาดหนัก คุมไม่ได้ก็จะเจ็บหนัก
แต่ถ้าเส้นน้ำเงิน คือ ชะลอการระบาดPhase 3 ให้นานที่สุด ก็จะค่อยๆระบาดทำให้เรากระจายทรัพยากรมายื้อศึกได้ ความเสียหายก็จะลดลง
2.ศักยภาพทางการแพทย์แต่ละประเทศโดยเฉพาะจำนวนหมอ พยาบาลและเครื่องมือทางการแพทย์
มาดูจำนวนแพทย์ต่อประชากรพันคนในแต่ละประเทศจะพบว่า (Ref 2)
จีน หมอ/1000คน = 1.8 Mortality 3%
ญี่ปุ่น หมอ/1000คน = 2.5 Mortality 0.4%
เกาหลี หมอ/1000คน = 2.2 Mortality 1%
Italy หมอ/1000คน = 4.1 Mortality 2.6%
Iran หมอ/1000คน = 1.1 Mortality 10%
ไทย หมอ/1000คน = 0.8 Mortality ??
ขนาดประเทศที่มีความพร้อมอย่างอิตาลี แต่ถ้าจำกัดวงระบาดตามข้อ 1 ไม่ได้ก็ยังเละ
และถ้าทั้งไม่พร้อมและระบาดหนัก ก็จะเหมือนอิหร่าน คือ เละตุ้มเป๊ะ
ของไทยถ้าระบาดอย่างหนักและรวดเร็ว แล้วเราจะรับมือไหวไหม ?
เรามาดูขุมกำลังของ วงการสาธารณสุข ของเรากัน
**(ข้ามได้ ถ้าขี้เกียจอ่าน)
จากฐานข้อมูลของแพทยสภาปัจจุบัน
เรามีแพทย์ทั้งหมด 58,555 คน
โดยมีจำนวนแพทย์ที่อายุ 20 ถึง 50 ปี = 43539 คน
(ref4)
และ อยู่ในภาครัฐ 2 ใน 3 ตามรูปที่ 3
ดังนั้นแล้วแพทย์ที่ยังปฏิบัติงานอยู่ในราชการ
ที่มีอายุ 20 ถึง 50 ปีมีจำนวน= 28736 คน
โดยจากฐานข้อมูลของแพทยสภาพบว่า
จากจำนวนแพทย์ทั้งหมดมีแพทย์อายุรกรรมเท่ากับ 22%
ดังนั้นอายุรแพทย์ 20-50ปี ในภาคราชการน่าจะมีจำนวนเท่ากับ 0.22*28736 = 6336 คน (Ref 5)
มาดูที่เตียง ICU เรามีเตียง ICU ของ สธ. ทั้งประเทศ อยู่ที่ 4500 เตียง (Ref 6)
แต่ในข้อมูลไม่ได้บอกว่าเป็น ของ อายุรกรรม เท่าไร
สมมุติว่า 60 %
เรามี เตียง + Ventilator ของสธ. น่าจะประมาณ 2700 เตียง
**
สรุป
เราน่าจะมีอายุรแพทย์ภาครัฐ 6336 คน ICU 2700 เตียง
โดย จาก data ปัจจุบัน (ref1,3 )
พบว่า 100 เคส จะมี serious 14 % critical 5%
ดังนั้น
ถ้าเคสที่ serious + critical condition ทุกเคส ต้องมีอายุรแพทย์ดู โดยแพทย์ 1 คนดูคนไข้ 2 คน
เราสามารถ รับเคส corona ทั้งหมด ได้ไม่เกิน 6336/0.19 *2 = 66700 คน
ถ้าเคสที่ critical ต้องadmitใน ICU ทุกราย เราจะรับได้ = 2700/0.05 = 54000 คน
ศักยภาพประเทศไทย น่าจะรับผู้ป่วยได้ประมาณ 34000-54000 คน
ถ้าอัตราป่วยต่อประชากร อยู่ที่ 0.6% (ประชากร wuhan 10 ล้าน ป่วย 6 หมื่น)
ดังนั้น
อายุรแพทย์ 6336 คน ICU 2700 เตียง
จะรองรับวงระบาดในประชากรได้ไม่เกิน 11 ล้านคน (มาจาก667000/0.006)
จะเห็นว่า แค่ กทม.+ปริมณฑล ก็เกินแล้วว
ถ้าเกิดการระบาดแล้วคุมไม่ได้เหมือนเกาหลี Italy Wuhan
จะพังกันทั้งประเทศ ทั้งภาคการผลิต ท่องเที่ยว อุตสาหกรรม
และในความจริง ประเทศไทย เป็นประเทศ Medical Overload จาก 30 บาทอยู่แล้ว
แล้วเราก็มีทั้ง STEMI COPD Stroke อีกเพียบ ไม่ได้มีแต่ COvid-19
อายุรแพทย์ทั้ง 6336 คน งานก็ ล้นมือ Overload มากอยู่แล้ว ไม่มีใครว่าง Co-Vid19 เป็นโรคที่ Add-on
และ ICU med 2700 เตียง ก็มีคนไข้เต็ม เกือบทุกที่อัตรการครองเตียง เกือบ 100% ทุกที่อยู่แล้ว
เป็นที่มาของเป้าหมาย ของสธ. ที่ต้องการยืดPhase 3 ออกไปให้นานที่สุด เพื่อรอ
- ยาฆ่าเชื้อไวรัสตัวใหม่ที่ดีขึ้น
- วัคซีนป้องกันการแพร่กระจาย
- กักตุนทรัพยากรทางการแพทย์มากขึ้น
- แดด+ UV หน้าร้อนน ที่อาจจะลดการกระจายเชื้อได้
ทำให้เป็นที่มาของ การประกาศโรคร้ายแรง เพื่อทำให้คุมสถานการณ์ ป้องกันการเกิด Super Spreader อาจุมม่า หมายเลข 36 ในประเทศไทย
มีคนเคยดูดวงเมืองประเทศไทยปี2563 บอกว่าคล้ายกับปี 2310 ที่กรุงศรีแตก ตอนนี่สถานการณ์คล้ายกันมาก
กรุงศรี รอน้ำหลาก
กรุงเทพ รอแดดจัด UV แรง
กรุงศรี ยันได้ถึงเมษา
กรุงเทพจะยันได้ถึงเมื่อไร
Ref :
1.
https://raw.githubusercontent.com/…/ncov/master/COVID-19.pdf
2.
https://data.worldbank.org/indicator/SH.MED.PHYS.ZS
3.
https://www.worldometers.info/coronavirus/
4.
https://www.tmc.or.th/pdf/st-tmc-08-01-20-001.pdf
5.
https://fliphtml5.com/elbls/hlrs/basic
6.
http://www.amnathos.moph.go.th/…/amnathosTox4L2408256150416…
ถ้า Covid-19 ระบาด Phase 3 ในไทย จะเกิดอะไรขึ้น แล้วเราจะรับมือไหวไหม ?
สถานการณ์ไวรัสโคโรน่ายังน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะ 3 ประเทศ เกาหลี ใต้อิหร่าน และอิตาลี ที่เข้าสู่ Phase 3
ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อ เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด โดยที่ไม่รู้ว่าจะตามหาต้นตอของการระบาดได้อย่างไร
การระบาดระยะที่ 3 คืออะไร คือเริ่มมีการติดเชื้อจากคนสู่คน ภายในประเทศ โดยที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงและหาที่มาที่ไปของต้นตอการติดเชื้อไม่ได้
ทำให้ไม่สามารถควบคุมโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพเกิดการระบาดโดยทั่ว
ความน่ากลัวของระยะนี้คือ มีผู้ป่วยมากเกินศักยภาพที่ทางการจะสามารถรับได้ ทำให้เกิดการขาดแคลนทั้งยาและเวชภัณฑ์ต่างๆ
รวมถึงทำให้มาตรฐานการดูแลรักษาแย่ลง เพราะบุคลากรไม่เพียง พอระยะเวลารอคอยนานขึ้น จนอาจทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้ป่วย
ยกตัวอย่างเช่นมีผู้ป่วยแผลติดเชื้อ 1 ล้านคนขึ้นมาทันที ทำให้ทำแผลไม่ทัน จนผู้ป่วยรายที่ 9 หมื่นเป็นต้นไป
อาจจะเสียชีวิตทั้งหมดได้เนื่องจากแผลติดเชื้อลามมากขึ้น
ทั้งที่จริงๆ โรคนี้ไม่รุนแรงอัตราการเสียชีวิตอาจจะน้อยกว่า 0.01% แต่พอรักษาไม่ทันก็ทำให้โรคมีความรุนแรงมากเกินจริง
มาดูข้อมูล ของ Covid-19 ขณะที่เริ่มเข้า Panendermic ของแต่ละประเทศ
จีน
จากตารางที่ 1 จะพบว่า
Before 1 Feb อัตราเสียชีวิตใน Wuhan สูงถึง 3 %
ในขณะที่ประเทศอื่นมีเพียง 0.2%
หลังจาก จีนทุ่มทรัพยากรทั้งหมดลงไป
ทั้งปิดเมือง หมอ และพยาบาล โรงพยาบาลใหม่
ทำให้อัตราตาย ลดลงเหลือเพียง 0.8% (Ref 1)
อะไรทำให้ อัตราตายในช่วงแรกของ Phase 3 ต่างกันในแต่ละประเทศ
1. น่าจะเป็นความสามารถในการควบคุมการระบาดให้ไม่กระจายดังรูปที่ 2
ถ้าคุมไม่ได้ ก็จะเหมือนเส้นแดงคือระบาดหนัก คุมไม่ได้ก็จะเจ็บหนัก
แต่ถ้าเส้นน้ำเงิน คือ ชะลอการระบาดPhase 3 ให้นานที่สุด ก็จะค่อยๆระบาดทำให้เรากระจายทรัพยากรมายื้อศึกได้ ความเสียหายก็จะลดลง
2.ศักยภาพทางการแพทย์แต่ละประเทศโดยเฉพาะจำนวนหมอ พยาบาลและเครื่องมือทางการแพทย์
มาดูจำนวนแพทย์ต่อประชากรพันคนในแต่ละประเทศจะพบว่า (Ref 2)
จีน หมอ/1000คน = 1.8 Mortality 3%
ญี่ปุ่น หมอ/1000คน = 2.5 Mortality 0.4%
เกาหลี หมอ/1000คน = 2.2 Mortality 1%
Italy หมอ/1000คน = 4.1 Mortality 2.6%
Iran หมอ/1000คน = 1.1 Mortality 10%
ไทย หมอ/1000คน = 0.8 Mortality ??
ขนาดประเทศที่มีความพร้อมอย่างอิตาลี แต่ถ้าจำกัดวงระบาดตามข้อ 1 ไม่ได้ก็ยังเละ
และถ้าทั้งไม่พร้อมและระบาดหนัก ก็จะเหมือนอิหร่าน คือ เละตุ้มเป๊ะ
ของไทยถ้าระบาดอย่างหนักและรวดเร็ว แล้วเราจะรับมือไหวไหม ?
เรามาดูขุมกำลังของ วงการสาธารณสุข ของเรากัน
**(ข้ามได้ ถ้าขี้เกียจอ่าน)
จากฐานข้อมูลของแพทยสภาปัจจุบัน
เรามีแพทย์ทั้งหมด 58,555 คน
โดยมีจำนวนแพทย์ที่อายุ 20 ถึง 50 ปี = 43539 คน
(ref4)
และ อยู่ในภาครัฐ 2 ใน 3 ตามรูปที่ 3
ดังนั้นแล้วแพทย์ที่ยังปฏิบัติงานอยู่ในราชการ
ที่มีอายุ 20 ถึง 50 ปีมีจำนวน= 28736 คน
โดยจากฐานข้อมูลของแพทยสภาพบว่า
จากจำนวนแพทย์ทั้งหมดมีแพทย์อายุรกรรมเท่ากับ 22%
ดังนั้นอายุรแพทย์ 20-50ปี ในภาคราชการน่าจะมีจำนวนเท่ากับ 0.22*28736 = 6336 คน (Ref 5)
มาดูที่เตียง ICU เรามีเตียง ICU ของ สธ. ทั้งประเทศ อยู่ที่ 4500 เตียง (Ref 6)
แต่ในข้อมูลไม่ได้บอกว่าเป็น ของ อายุรกรรม เท่าไร
สมมุติว่า 60 %
เรามี เตียง + Ventilator ของสธ. น่าจะประมาณ 2700 เตียง
**
สรุป
เราน่าจะมีอายุรแพทย์ภาครัฐ 6336 คน ICU 2700 เตียง
โดย จาก data ปัจจุบัน (ref1,3 )
พบว่า 100 เคส จะมี serious 14 % critical 5%
ดังนั้น
ถ้าเคสที่ serious + critical condition ทุกเคส ต้องมีอายุรแพทย์ดู โดยแพทย์ 1 คนดูคนไข้ 2 คน
เราสามารถ รับเคส corona ทั้งหมด ได้ไม่เกิน 6336/0.19 *2 = 66700 คน
ถ้าเคสที่ critical ต้องadmitใน ICU ทุกราย เราจะรับได้ = 2700/0.05 = 54000 คน
ศักยภาพประเทศไทย น่าจะรับผู้ป่วยได้ประมาณ 34000-54000 คน
ถ้าอัตราป่วยต่อประชากร อยู่ที่ 0.6% (ประชากร wuhan 10 ล้าน ป่วย 6 หมื่น)
ดังนั้น
อายุรแพทย์ 6336 คน ICU 2700 เตียง
จะรองรับวงระบาดในประชากรได้ไม่เกิน 11 ล้านคน (มาจาก667000/0.006)
จะเห็นว่า แค่ กทม.+ปริมณฑล ก็เกินแล้วว
ถ้าเกิดการระบาดแล้วคุมไม่ได้เหมือนเกาหลี Italy Wuhan
จะพังกันทั้งประเทศ ทั้งภาคการผลิต ท่องเที่ยว อุตสาหกรรม
และในความจริง ประเทศไทย เป็นประเทศ Medical Overload จาก 30 บาทอยู่แล้ว
แล้วเราก็มีทั้ง STEMI COPD Stroke อีกเพียบ ไม่ได้มีแต่ COvid-19
อายุรแพทย์ทั้ง 6336 คน งานก็ ล้นมือ Overload มากอยู่แล้ว ไม่มีใครว่าง Co-Vid19 เป็นโรคที่ Add-on
และ ICU med 2700 เตียง ก็มีคนไข้เต็ม เกือบทุกที่อัตรการครองเตียง เกือบ 100% ทุกที่อยู่แล้ว
เป็นที่มาของเป้าหมาย ของสธ. ที่ต้องการยืดPhase 3 ออกไปให้นานที่สุด เพื่อรอ
- ยาฆ่าเชื้อไวรัสตัวใหม่ที่ดีขึ้น
- วัคซีนป้องกันการแพร่กระจาย
- กักตุนทรัพยากรทางการแพทย์มากขึ้น
- แดด+ UV หน้าร้อนน ที่อาจจะลดการกระจายเชื้อได้
ทำให้เป็นที่มาของ การประกาศโรคร้ายแรง เพื่อทำให้คุมสถานการณ์ ป้องกันการเกิด Super Spreader อาจุมม่า หมายเลข 36 ในประเทศไทย
มีคนเคยดูดวงเมืองประเทศไทยปี2563 บอกว่าคล้ายกับปี 2310 ที่กรุงศรีแตก ตอนนี่สถานการณ์คล้ายกันมาก
กรุงศรี รอน้ำหลาก
กรุงเทพ รอแดดจัด UV แรง
กรุงศรี ยันได้ถึงเมษา
กรุงเทพจะยันได้ถึงเมื่อไร
Ref :
1. https://raw.githubusercontent.com/…/ncov/master/COVID-19.pdf
2. https://data.worldbank.org/indicator/SH.MED.PHYS.ZS
3. https://www.worldometers.info/coronavirus/
4. https://www.tmc.or.th/pdf/st-tmc-08-01-20-001.pdf
5. https://fliphtml5.com/elbls/hlrs/basic
6. http://www.amnathos.moph.go.th/…/amnathosTox4L2408256150416…