สธ.อวดรักษาผู้ป่วยโควิท-19ชาวจีนหายแล้วกลับบ้านได้เพิ่ม2คน
วันที่ 21 ก.พ. 2563 เวลา 14:52 น.
กระทรวงสาธารณสุข เผยข่าวดีผู้ป่วยยืนยันกลับบ้านได้ 2 ราย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นำตัวอย่างเชื้อจากผู้ป่วยยืนยัน 2 รายแรกของไทย ไปพัฒนาวัคซีนป้องกันโรค พร้อมแบ่งปันเชื้อให้ WHO นำไปต่อยอดเป็นประโยชน์ต่อคนทั้งโลก
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวระหว่างการแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิท-19 ณ วันที่ 21 ก.พ. 2563 ว่า ล่าสุดมีผู้ป่วยยืนยันกลับบ้านได้เพิ่มอีก 2 ราย เป็นชายชาวจีน อายุ 56 ปี และอายุ 34 ปี จากสถาบันบำราศนราดูร เหลือนอนในโรงพยาบาล 16 คน รวมมีผู้ป่วยยืนยันรักษาหายกลับบ้านได้แล้ว 19 ราย ในส่วนผู้ป่วยใช้เครื่องเอคโม (ECMO) หรือเครื่องช่วยพยุงการทำงานของปอด อาการคงที่ ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อแล้ว ส่วนรายที่เป็นวัณโรคร่วมด้วย ยังตรวจพบเชื้ออยู่ อาการคงที่ยังคงใช้เครื่องช่วยหายใจทั้ง 2 ราย ต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์ไทย จากหลายหน่วยงานได้ร่วมกันทำการทดลองทางห้องปฏิบัติการ ค้นพบว่าสารสกัดจากฟ้าทะลายโจรของประเทศไทย สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัสได้ในหลอดทดลอง ซึ่งจะได้นำมาพัฒนาต่อยอดกับเชื้อไวรัสโควิท-19 หากได้ผลเป็นที่น่าพอใจก็จะทำการขยายผลต่อไป
สำหรับกรณีผู้ป่วย Super Spreader ที่พบจากการรายงานข่าวในต่างประเทศนั้น จะเป็นผู้ที่มีเชื้อในร่างกายจำนวนมากสามารถแพร่ให้ผู้อื่นได้อย่างรวดเร็วจนไม่สามารถควบคุมได้ ลักษณะดังกล่าวนี้ ยังไม่เกิดขึ้นในประเทศไทย เนื่องจากไทยมีระบบเฝ้าระวังควบคุมโรคที่เข้มแข็ง ทำให้สามารถตรวจจับผู้อาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังและนำมาแยกเก็บตัวไว้ในห้องแยกได้อย่างรวดเร็วจึงไม่ไปแพร่สู่ผู้อื่นได้
นอกจากนี้ประเทศไทยยังมี พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 ที่ให้อำนาจเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อสามารถบังคับผู้ที่สงสัยว่าป่วยนำเข้ามาสู่ระบบการรักษาได้ ขอให้ประชาชนมั่นใจและให้ความร่วมมือกับทางราชการ เพื่อความปลอดภัยของคนในประเทศ
ส่วนการติดตามผู้โดยสารและลูกเรือชาวไทยบนเรือสำราญไดมอนด์ ปริ้นเซส 3 ราย ทั้งหมดตรวจไม่พบเชื้อไวรัสโควิท-19 และออกจากเรือเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ขอย้ำว่า ประเทศไทยยังไม่มีนโยบายห้ามการเดินทางไปยังพื้นที่ระบาดของโรคหากจำเป็นต้องไป ขอให้ระมัดระวัง ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสะอาดกับสบู่ หรือเจลล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย เมื่อไปอยู่ในที่คนจำนวนมาก เมื่อกลับประเทศไทย ทุกคนจะผ่านการคัดกรองที่สนามบิน ในส่วนผู้ที่ไม่มีไข้ อาการไม่เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรค สามารถกลับบ้านไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
แต่ขอแนะนำให้เฝ้าระวังสังเกตอาการตนเอง หากป่วย มีไข้ไอ มีน้ำมูก ภายใน 14 วันให้รีบพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง หากพบมีไข้ ไอ มีน้ำมูก หรือมีอาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรค จะถูกนำไปตรวจเพิ่มที่โรงพยาบาล
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่ากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้นำตัวอย่างเชื้อจากผู้ป่วยไวรัสโควิด19 รายแรกและรายที่สองของประเทศไทย ไปถอดรหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโควิท-19 นำมาพัฒนาชุดตรวจหาเชื้อไวรัสโควิท-19 ด้วยเทคนิค Real time RT –PCR พัฒนาวัคซีนป้องกันโรค รวมทั้งแบ่งปันเชื้อให้องค์การอนามัยโลกนำไปต่อยอดเป็นประโยชน์ต่อคนทั้งโลก
นอกจากนี้ ยังได้เร่งรัดพัฒนาเครือข่ายห้องปฏิบัติการให้พร้อมรับมือสถานการณ์ระบาดฉุกเฉินใน 14 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเริ่มที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ทั้ง 13 แห่ง คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โรงพยาบาลรามาธิบดี และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลราชวิถีสถาบันบำราศนราดูร และโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ในขยายไปยังโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศ อย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง ทั้งนี้ ตั้งแต่ 5 มกราคม – 20 กุมภาพันธ์2563 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ตรวจหาเชื้อไวรัสโควิท-19 จากตัวอย่างสิ่งส่งตรวจรวม 1,489 ตัวอย่าง
นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกล่าวว่า กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกได้ร่วมมือกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และองค์การเภสัชกรรม โดยในวันอังคารที่ 25 ก.พ. 2563 จะมีการลงนามความร่วมมือเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของสารสกัดฟ้าทะลายโจร รวมถึงสมุนไพรอื่น เพื่อดูกลไก ประสิทธิภาพของสมุนไพรไทยต่อเชื้อไวรัสโควิท-19 ซึ่งเดิมได้มีการศึกษาเรื่องสารสกัดฟ้าทะลายโจรอยู่แล้วว่ามีฤทธิ์ในเชิง Antiviral broad spectrum เช่น ฤทธิ์การต้านไม่ให้ไวรัสเข้าเซลล์ การเพิ่มภูมิคุ้มกัน หรือการต้านการอักเสบ ทำให้มีการใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประจำวันที่ 21 ก.พ. 2563 ดังนี้
1. ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาล 16 ราย กลับบ้านแล้ว 19 ราย รวมสะสม 35 ราย
2. ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม – 20 กุมภาพันธ์ 2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 1,151 ราย คัดกรองจากสนามบิน 58 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 1,093 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 941 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 210 ราย
3. สถานการณ์ทั่วโลกใน 28 ประเทศ และ 2 เขตบริหารพิเศษ ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม – 21 กุมภาพันธ์ 2563 (07.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 76,202 ราย เสียชีวิต 2,247 รายส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 75,000 ราย เสียชีวิต 2,236 ราย
https://www.posttoday.com/social/general/615488
นี่คือเรื่องสำคัญของบ้านเมือง ที่คนไทยต้องใส่ใจยิ่งกว่ายุบพรรคการเมือง
รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขต้องทันต่อเหตุการณ์ทุกขณะค่ะ
ขอให้กำลังใจนะคะ..💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕
💝💝💝มาลาริน/ประเทศต้องเดินต่อติดตามโควิด19 กันค่ะ..ไทยรักษาหายเพิ่มอีก 2 รายสะสมเท่าเดิม วิจัยฟ้าทะลายโจรมาช่วยยับยั้ง
วันที่ 21 ก.พ. 2563 เวลา 14:52 น.
กระทรวงสาธารณสุข เผยข่าวดีผู้ป่วยยืนยันกลับบ้านได้ 2 ราย กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ นำตัวอย่างเชื้อจากผู้ป่วยยืนยัน 2 รายแรกของไทย ไปพัฒนาวัคซีนป้องกันโรค พร้อมแบ่งปันเชื้อให้ WHO นำไปต่อยอดเป็นประโยชน์ต่อคนทั้งโลก
นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวระหว่างการแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโควิท-19 ณ วันที่ 21 ก.พ. 2563 ว่า ล่าสุดมีผู้ป่วยยืนยันกลับบ้านได้เพิ่มอีก 2 ราย เป็นชายชาวจีน อายุ 56 ปี และอายุ 34 ปี จากสถาบันบำราศนราดูร เหลือนอนในโรงพยาบาล 16 คน รวมมีผู้ป่วยยืนยันรักษาหายกลับบ้านได้แล้ว 19 ราย ในส่วนผู้ป่วยใช้เครื่องเอคโม (ECMO) หรือเครื่องช่วยพยุงการทำงานของปอด อาการคงที่ ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการไม่พบเชื้อแล้ว ส่วนรายที่เป็นวัณโรคร่วมด้วย ยังตรวจพบเชื้ออยู่ อาการคงที่ยังคงใช้เครื่องช่วยหายใจทั้ง 2 ราย ต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์ไทย จากหลายหน่วยงานได้ร่วมกันทำการทดลองทางห้องปฏิบัติการ ค้นพบว่าสารสกัดจากฟ้าทะลายโจรของประเทศไทย สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของไวรัสได้ในหลอดทดลอง ซึ่งจะได้นำมาพัฒนาต่อยอดกับเชื้อไวรัสโควิท-19 หากได้ผลเป็นที่น่าพอใจก็จะทำการขยายผลต่อไป
สำหรับกรณีผู้ป่วย Super Spreader ที่พบจากการรายงานข่าวในต่างประเทศนั้น จะเป็นผู้ที่มีเชื้อในร่างกายจำนวนมากสามารถแพร่ให้ผู้อื่นได้อย่างรวดเร็วจนไม่สามารถควบคุมได้ ลักษณะดังกล่าวนี้ ยังไม่เกิดขึ้นในประเทศไทย เนื่องจากไทยมีระบบเฝ้าระวังควบคุมโรคที่เข้มแข็ง ทำให้สามารถตรวจจับผู้อาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังและนำมาแยกเก็บตัวไว้ในห้องแยกได้อย่างรวดเร็วจึงไม่ไปแพร่สู่ผู้อื่นได้
นอกจากนี้ประเทศไทยยังมี พ.ร.บ.โรคติดต่อ 2558 ที่ให้อำนาจเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อสามารถบังคับผู้ที่สงสัยว่าป่วยนำเข้ามาสู่ระบบการรักษาได้ ขอให้ประชาชนมั่นใจและให้ความร่วมมือกับทางราชการ เพื่อความปลอดภัยของคนในประเทศ
ส่วนการติดตามผู้โดยสารและลูกเรือชาวไทยบนเรือสำราญไดมอนด์ ปริ้นเซส 3 ราย ทั้งหมดตรวจไม่พบเชื้อไวรัสโควิท-19 และออกจากเรือเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ขอย้ำว่า ประเทศไทยยังไม่มีนโยบายห้ามการเดินทางไปยังพื้นที่ระบาดของโรคหากจำเป็นต้องไป ขอให้ระมัดระวัง ล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำสะอาดกับสบู่ หรือเจลล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย เมื่อไปอยู่ในที่คนจำนวนมาก เมื่อกลับประเทศไทย ทุกคนจะผ่านการคัดกรองที่สนามบิน ในส่วนผู้ที่ไม่มีไข้ อาการไม่เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรค สามารถกลับบ้านไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ
แต่ขอแนะนำให้เฝ้าระวังสังเกตอาการตนเอง หากป่วย มีไข้ไอ มีน้ำมูก ภายใน 14 วันให้รีบพบแพทย์ทันที พร้อมแจ้งประวัติการเดินทาง หากพบมีไข้ ไอ มีน้ำมูก หรือมีอาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรค จะถูกนำไปตรวจเพิ่มที่โรงพยาบาล
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่ากรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้นำตัวอย่างเชื้อจากผู้ป่วยไวรัสโควิด19 รายแรกและรายที่สองของประเทศไทย ไปถอดรหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโควิท-19 นำมาพัฒนาชุดตรวจหาเชื้อไวรัสโควิท-19 ด้วยเทคนิค Real time RT –PCR พัฒนาวัคซีนป้องกันโรค รวมทั้งแบ่งปันเชื้อให้องค์การอนามัยโลกนำไปต่อยอดเป็นประโยชน์ต่อคนทั้งโลก
นอกจากนี้ ยังได้เร่งรัดพัฒนาเครือข่ายห้องปฏิบัติการให้พร้อมรับมือสถานการณ์ระบาดฉุกเฉินใน 14 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเริ่มที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ทั้ง 13 แห่ง คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โรงพยาบาลรามาธิบดี และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงพยาบาลราชวิถีสถาบันบำราศนราดูร และโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ในขยายไปยังโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไปทั่วประเทศ อย่างน้อยจังหวัดละ 1 แห่ง ทั้งนี้ ตั้งแต่ 5 มกราคม – 20 กุมภาพันธ์2563 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ตรวจหาเชื้อไวรัสโควิท-19 จากตัวอย่างสิ่งส่งตรวจรวม 1,489 ตัวอย่าง
นพ.ปราโมทย์ เสถียรรัตน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกล่าวว่า กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกได้ร่วมมือกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และองค์การเภสัชกรรม โดยในวันอังคารที่ 25 ก.พ. 2563 จะมีการลงนามความร่วมมือเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของสารสกัดฟ้าทะลายโจร รวมถึงสมุนไพรอื่น เพื่อดูกลไก ประสิทธิภาพของสมุนไพรไทยต่อเชื้อไวรัสโควิท-19 ซึ่งเดิมได้มีการศึกษาเรื่องสารสกัดฟ้าทะลายโจรอยู่แล้วว่ามีฤทธิ์ในเชิง Antiviral broad spectrum เช่น ฤทธิ์การต้านไม่ให้ไวรัสเข้าเซลล์ การเพิ่มภูมิคุ้มกัน หรือการต้านการอักเสบ ทำให้มีการใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประจำวันที่ 21 ก.พ. 2563 ดังนี้
1. ผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรักษาในโรงพยาบาล 16 ราย กลับบ้านแล้ว 19 ราย รวมสะสม 35 ราย
2. ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม – 20 กุมภาพันธ์ 2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 1,151 ราย คัดกรองจากสนามบิน 58 ราย มารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอง 1,093 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วและอยู่ระหว่างติดตามอาการ 941 ราย ส่วนใหญ่เป็นไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรักษาในโรงพยาบาล 210 ราย
3. สถานการณ์ทั่วโลกใน 28 ประเทศ และ 2 เขตบริหารพิเศษ ข้อมูลตั้งแต่ 5 มกราคม – 21 กุมภาพันธ์ 2563 (07.00 น.) พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจำนวน 76,202 ราย เสียชีวิต 2,247 รายส่วนประเทศจีนพบผู้ป่วย 75,000 ราย เสียชีวิต 2,236 ราย
https://www.posttoday.com/social/general/615488
นี่คือเรื่องสำคัญของบ้านเมือง ที่คนไทยต้องใส่ใจยิ่งกว่ายุบพรรคการเมือง
รัฐบาลมีความห่วงใยประชาชน เจ้าหน้าที่สาธารณสุขต้องทันต่อเหตุการณ์ทุกขณะค่ะ
ขอให้กำลังใจนะคะ..💕💕💕💕💕💕💕💕💕💕