ไปเที่ยวญี่ปุ่นมาหลายครั้ง อ่านข้อมูลจากห้องนี้ก็หลายหน ปีนี้เราขอรีวิวบ้าง เพื่อตอบแทนเพื่อนๆ ในห้อง อีกอย่าง อยากให้เพื่อนๆ ที่อยากไปคนเดียวได้ออกนอกกรอบ ไม่ต้องกลัว พร้อมออกลุยเดี่ยวบ้าง (เป็นผู้หญิงก็ไม่เป็นอุปสรรคค่ะ) เพื่อสร้างประสบการณ์ รับรองว่าพอได้เที่ยวคนเดียวแล้วจะติดใจค่ะ
คราวนี้เราไปเที่ยว โดยใช้ JR pass nagano niigata area pass และเลือกไปหน้าหนาว เพราะอยากสัมผัสหิมะชิวๆ ค่ะ อีกอย่าง ทริปเนี้ยเราต้องเผชิญกับไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (แต่ตอนที่ไปยังไม่ระบาดมากนะคะ) แต่ทุกที่ทุกการเดินทางของเราที่อยู่ในเมืองก็ใส่หน้ากากตลอดเวลา เป็นครั้งแรกที่เที่ยวแบบใส่หน้ากาก เริ่มใส่ตั้งแต่ออกจากบ้าน จนเดินทางกลับ ตอนที่เขียนนี่ วันนี้เราครบ 14 วันกักกันโรคพอดี และรอดจากโรคแล้ว สบายๆ ชิวๆ ค่ะ
มาค่ะ เรามาเริ่มต้นการเดินทางกันได้เลย...
JR EAST PASS (Nagano, Niigata area)
- ขออธิบาย pass นี้ย่อๆ นะคะ
1. บัตร JR EAST PASS (Nagano, Niigata area) สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางในญี่ปุ่นในแถบนากาโน่หรือนิกาตะ สามารถนั่งรถไฟสาย JR East train ได้ทั้งหมดแบบไม่จำกัดจำนวนเที่ยว โดยเริ่มนั่งได้ตั้งแต่สนามบินนาริตะและฮาเนดะ และนอกจากนี้ยังสามารถนั่งรถไฟสายท้องถิ่นบางขบวนที่ไม่ใช่รถไฟ JR ได้อีกด้วย เช่น บริเวณ Izu และ Nikko(สำหรับ Trip นี้เราเน้นๆ ไปที่ Nagano ซะเยอะ)
เราซื้อบัตรนี้ที่ HIS ก่อนวันเดินทาง 3 วัน ราคา 4800 บาท ที่สาขาสยามสแควร์ วันค่ะ
2. pass นี้เลือกวันใช้งานได้ 5 วัน ภายใน 15 วัน (เพราะฉะนั้น จะไปไหนก็แพลนให้ดี เอาให้คุ้มค่าค่ะ)
3. บัตรนี้ใช้โดยสารรถไฟ NEX เข้าเมืองได้ด้วยทั้งจาก สนามบินนาริตะ เข้าเมือง หรือจากเมืองเดินทางกลับไปสนามบินนาริตะได้ค่ะ
โรงแรม super hotel ueno iriyaguchi
สำหรับการเป็นผู้หญิง เดินทางคนเดียว เราให้ความสำคัญกับที่พักมาที่สุดค่ะ เพราะเวลาหลับ ความปลอดภัยต้องมาก่อน 555+ เราเลือกโรงแรมนี้เพราะชอบสถานี UENO ค่ะ เหมือนผูกพันที่ตรงนี้มาตั้งแต่ชาติปางก่อน ประหนึ่งว่า เกิดและโตที่นี่เลยค่ะ ชอบบรรยายากาศ ห้างมารูอิ abab ชอบตลาดอะเมโยโกะ ชอบตึกม่วง ถึงไม่ใช่ขา shopping แต่ก็เป็นคนชอบเดินในที่ๆ คนเยอะๆ หน่อยค่ะ เดินคนเดียวมันเหงา มาคนเดียวก็เหงาแล้ว เพราะฉะนั้นต้องหาที่ ที่มีผู้คนนิดนึงค่ะ
อีกอย่าง Ueno เป็นสถานีใหญ่ เดินทางไป Nagano สะดวกดีค่ะ ทริปเราไป Nagano ซะเยอะ เลยตัดสินใจเลือกที่นี่ โรงแรมนี้เป็นโรงแรมเล็กๆ แต่ใกล้สถานี Ueno ฝั่งทางออก Iriya เดินประมาณ 500 เมตรถึงเลย แล้วห้องก็ปลอดภัย มี password เข้าห้องเรียบร้อย ทางเข้าโรงแรมก็ Security สุดๆ เพราะจะเข้า-ออก ถ้านอกเวลา Check in (เที่ยงคืน - สามโมงเย็น) แขกที่เข้าพักต้องกด password เข้าโรงแรม ยิ่งสบายใจเรื่องความปลอดภัยค่ะ (password เราก็ถ่ายรูปไว้ แล้วขยำทิ้งไปเลยค่ะ)
(อ่อ ใครจะจองโรงแรมนี้ นางมีความเคี่ยวค่ะ ต้อง check in เวลา 15.00 - เที่ยงคืนเท่านั้น มาก่อน 15.00 น. ห้ามฝากกระเป๋าแล้วเข้ามา check in หลัง 15.00 น. นะคะ และถ้ามาถึงเกินเที่ยงคืนไปแล้ว ก็ไม่ทัน check in ค่ะ เพราะฉะนั้นทางที่ดีแนะนำถ้าคิดว่ามาถึงก่อน 15.00 น. ให้ส่งกระเป๋าผ่านแมวดำมาจากสนามบินเลยค่ะ แต่ถ้าคิดว่ามาถึงหลังเที่ยงคืน โรงแรมนี้เลิกคิดจะพักได้เลย)
เราจองห้องพักมา 2 แบบค่ะ รวม 7 คืน (3 คืนแรก นอนแบบตามรูปที่ 1 ห้องนี้นอนได้ 3 คน คืนแรกแอบหลอนกลัวมีใครมานอนข้างบนแล้วห้อยหัวมาทัก แต่พอคืน 2 - 3 โอเคมากค่ะ / 4 คืนสุดท้ายนอนห้องปกติ (มุมขวาล่าง) ดีคะ เตียงเตี้ยดี ไม่ต้องปีน มีพื่นที่เหลือพอกางกระเป๋าได้ ส่วนห้องน้ำ ห้องทั้ง 2 แบบเหมือนกันเด๊ะค่ะ)
การเดินทางของเริ่มขึ้นในวันที่ 31 มค. - 7 กพ. 2563
31 มค. 2563 > ออกเดินทางสนามบินดอนเมือง ใช้บริการ Airasia X วันแรกขอผ่านไปเลยค่ะ วันเดินทางล้วนๆ
1 กพ. 2563 > เดินเล่น Shibuya กินชาเขียว organic - วันนี้ชิวๆ ค่ะ
2 กพ. 2563 > Nagano Snow Monkey (ใช้ Jr pass วันที่ 1)
3 กพ. 2563 > Nagano ศาลเจ้า Togakushi Shrine (ใช้ Jr pass วันที่ 2)
4 กพ. 2563 > Kusatsu onsen (ใช้ Jr pass วันที่ 3)
5 กพ. 2563 > Shopping Takeya (ตึกม่วง) / ตลาดอะเมะโยโกะ
6 กพ. 2563 > Matsumoto Castle (ใช้ Jr pass วันที่ 4)
7 กพ. 2563 > เช้า - เที่ยวเมือง Kawagoe หรือ ลิตเทิ้ล เอโดะ (เมืองเล็กๆ ใกล้โตเกียว)
เย็น - กลับกรุงเทพฯ (ใช้ Jr pass วันที่ 5)
วันแรก - เดินเล่น Shibuya กินชาเขียว organic
เมื่อวานเดินทางมาถึง ยังเหนื่อยอยู่ วันนี้เราก็ขอพักเดินชิวๆ หาชาเขียวอร่อยกินสักแก้ว ก่อนไปเดินเล่นแถวที่พักย่าน UENO อ่านรีวิวเจอร้านนี้ น่ากินมาก แล้วดูเป็น organic เลยตัดสินใจมาเลย เพราะหลังจากนี้จะไป nagano อาจจะไม่มีเวลามาเดินสวยๆ ในเมืองละ
The Matcha Tokyo
เราเดินตาม google Map มาหาไม่ยากเลย เดินมาถึงหน้าร้าน เจอสีเขียววินเทจของตึก ใจละลายมาก เข้ามาด้านในร้าน ฟีลลิ่งเปลี่ยนไปเป็นแบบมินิมอล รู้สึกเหมือนขาวๆ สะอาดๆ เรียบๆ มองรอบๆ มีโต๊ะไม้เก๋ๆ ให้นั่ง มีชาเขียว กาแฟ เค้ก สายชาเขียวอย่างเราอดไม่ได้จริงๆ ที่ต้องจัดชาเขียวมัทฉะอัลมอนต์มาเทส สักแก้ว พอกินไปก็รู้สึกเข้มข้น หอมมมม มาก รู้สึกว่าดีจัง นานๆ จะได้มีโอกาสกินชาเขียวที่เป็นพรีเมี่ยมแท้ๆ ที่ญี่ปุ่นแบนี้สักที ขอบอกว่ามันละมุนมาก คนเดียวเนี่ยจัดไป 2 แก้ว ขำๆ แก้วละ 660 เยน (เป็นลมแปป)
วิธีการเดินทาง
UENO > Shibuya สาย yamanote line
Location ร้าน :
https://goo.gl/maps/FU8euF8DPSiiuWfGA
Nagano Snow Monkey (เป็นการใช้ Jr pass วันที่ 1 ค่ะ) เราเดินทางแบบ one day trip นะคะ ชิวๆ สบายๆ ค่ะ
เพื่อป้องกันการฉุกละหุกตอนเช้า เมื่อคืนเราได้ไปจองตั๋ว Shinkansen UENO > NAGANO ไว้ล่วงหน้าแล้วค่ะ ที่จองตั๋วก็ อยู่ที่สถานี UENO ตรงที่ขายตั๋วของ JR นะคะ โชว์ Passport กับสมุด JR pass และแคปหน้าจอ hyperdia รอบรถไฟที่จะขึ้นไปให้เขาดูเลย เขาก็จะออกตั๋วให้ (เราสามารถจองขา กลับไว้ได้เลยนะคะ NAGANO - UENO ถ้ากลับไม่ทันเวลาที่จองก็เอาตั๋วไป Cancel และเปลี่ยนเวลาใหม่ได้ค่ะ จนท.ไม่ว่าอะไร แต่ควรไป cancel นะคะ จะได้ไม่ไปกันที่ท่านอื่นเขาน่ะคะ แต่เอาจริงๆ ไม่ต้องจองก็ได้ ถ้าไม่ใช่ช่วงเทศกาล เพราะรถไฟเยอะมากมีที่นั่งตลอด ไปจองตอนใกล้ๆ เวลาจะกลับก็ทัน)
วิธีการใช้ JR Pass
เวลาเข้าสถานี UENO เราก็ไปตรงช่องที่มีจนท.อยู่ โชว์สมุด JR pass พร้อมตั๋วแล้วเดินเข้าไปเลยค่ะ เจ้าหน้าที่เขาก็จะแสตมป์ตรงช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ให้เรา เป็นการบอกว่าวันนี้เป็นวันที่เราใช้ JR pass นะ พอวันไหนเราใช้อีก เขาก็จะแสตมป์อีกช่อง รวมทั้งหมดใช้ได้ 5 วัน 5 ช่อง เขาก็จะดูแสตมป์ ตลอดว่าเราใช้ขาดใช้เกินยังไง หรือมีวันไหนไม่ได้แสตมป์บ้าง (คือละเอียดมาก เลิกคิดว่าจะโกง เพราะยากมากอ่ะค่ะ) ส่วนการจะดูว่า Platform ไหนที่จะไปขึ้นรถไฟ ให้ดูได้จาก Hyperdia เลยค่ะ เป๊ะมากเลยด้วย
08.30 โดยประมาณ - ออกเดินทางจากสถานี UENO > NAGANO
จาก UENO เดินทางถึง NAGANO ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งค่ะ ถึง NAGANO เดินออกจากสถานี ลงไปชั้นใต้ดินเพื่อไปซื้อตั๋วรถไฟสาย Dentetsu Line เราเลือกซื้อตั๋วแบบ 2 Days pass คือนั่งฟรี 2 วัน แต่ค่าเข้าได้ 1 วัน ความจริงอันนี้เราสามารถนั่งรถบัสไปได้นะคะ โดยไปขึ้นรถบัสที่ทางออกสถานี NAGANO ฝั่ง east exit แต่พอดีไม่ได้ไปทางนี้ เลยไม่มีรายละเอียดนะคะ
เที่ยวญี่ปุ่น ตาม JR pass : nagano niigata area pass คนเดียวแต่ไม่เหงา
เมื่อวานเดินทางมาถึง ยังเหนื่อยอยู่ วันนี้เราก็ขอพักเดินชิวๆ หาชาเขียวอร่อยกินสักแก้ว ก่อนไปเดินเล่นแถวที่พักย่าน UENO อ่านรีวิวเจอร้านนี้ น่ากินมาก แล้วดูเป็น organic เลยตัดสินใจมาเลย เพราะหลังจากนี้จะไป nagano อาจจะไม่มีเวลามาเดินสวยๆ ในเมืองละ
The Matcha Tokyo
เราเดินตาม google Map มาหาไม่ยากเลย เดินมาถึงหน้าร้าน เจอสีเขียววินเทจของตึก ใจละลายมาก เข้ามาด้านในร้าน ฟีลลิ่งเปลี่ยนไปเป็นแบบมินิมอล รู้สึกเหมือนขาวๆ สะอาดๆ เรียบๆ มองรอบๆ มีโต๊ะไม้เก๋ๆ ให้นั่ง มีชาเขียว กาแฟ เค้ก สายชาเขียวอย่างเราอดไม่ได้จริงๆ ที่ต้องจัดชาเขียวมัทฉะอัลมอนต์มาเทส สักแก้ว พอกินไปก็รู้สึกเข้มข้น หอมมมม มาก รู้สึกว่าดีจัง นานๆ จะได้มีโอกาสกินชาเขียวที่เป็นพรีเมี่ยมแท้ๆ ที่ญี่ปุ่นแบนี้สักที ขอบอกว่ามันละมุนมาก คนเดียวเนี่ยจัดไป 2 แก้ว ขำๆ แก้วละ 660 เยน (เป็นลมแปป)
วิธีการเดินทาง
UENO > Shibuya สาย yamanote line
Location ร้าน : https://goo.gl/maps/FU8euF8DPSiiuWfGA
วิธีการใช้ JR Pass
เวลาเข้าสถานี UENO เราก็ไปตรงช่องที่มีจนท.อยู่ โชว์สมุด JR pass พร้อมตั๋วแล้วเดินเข้าไปเลยค่ะ เจ้าหน้าที่เขาก็จะแสตมป์ตรงช่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ให้เรา เป็นการบอกว่าวันนี้เป็นวันที่เราใช้ JR pass นะ พอวันไหนเราใช้อีก เขาก็จะแสตมป์อีกช่อง รวมทั้งหมดใช้ได้ 5 วัน 5 ช่อง เขาก็จะดูแสตมป์ ตลอดว่าเราใช้ขาดใช้เกินยังไง หรือมีวันไหนไม่ได้แสตมป์บ้าง (คือละเอียดมาก เลิกคิดว่าจะโกง เพราะยากมากอ่ะค่ะ) ส่วนการจะดูว่า Platform ไหนที่จะไปขึ้นรถไฟ ให้ดูได้จาก Hyperdia เลยค่ะ เป๊ะมากเลยด้วย
08.30 โดยประมาณ - ออกเดินทางจากสถานี UENO > NAGANO
จาก UENO เดินทางถึง NAGANO ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งค่ะ ถึง NAGANO เดินออกจากสถานี ลงไปชั้นใต้ดินเพื่อไปซื้อตั๋วรถไฟสาย Dentetsu Line เราเลือกซื้อตั๋วแบบ 2 Days pass คือนั่งฟรี 2 วัน แต่ค่าเข้าได้ 1 วัน ความจริงอันนี้เราสามารถนั่งรถบัสไปได้นะคะ โดยไปขึ้นรถบัสที่ทางออกสถานี NAGANO ฝั่ง east exit แต่พอดีไม่ได้ไปทางนี้ เลยไม่มีรายละเอียดนะคะ