‘ทรานส์ไซบีเรีย’ เป็นหนึ่งในรูทท่องเที่ยวในฝันของนักเดินทางสายแบคแพคหลาย ๆ คน รวมไปถึงอปป้าแก๊งนี้ด้วย! ‘คิมนัมกิล’ อาสานำทีมนักแสดงหนุ่มทั้ง 5 ออกตะลุยทัวร์ 12 วันบนเส้นทางรถไฟที่ยาวที่สุดในโลกในรายการ
Trans-Siberian Pathfinders ซีรีส์นี้เขาเคลมว่าเหมาะสำหรับนักเดินทางมือใหม่ เพราะพาไปทัวร์แบบละเอียดยิบ ทางนี้เลยขอรีแคป ปักหมุด 3 ที่ห้ามพลาดประจำทริป ที่ไหนต้องปักหมุด ถ้าพร้อมแล้วเตรียมไปดูด้วยกันเลย !
ตั้งสติ พร้อมสตาร์ทที่ ‘วลาดิวอสตอค’
ปกติแล้วรูทยอดฮิตของเพื่อน ๆ ชาวไทยจะเป็นการเริ่มต้นเดินทางจากปักกิ่ง แต่ในรายการนี้จะพาเราลัดเลาะดินแดนรัสเซียจากเมือง ‘วลาดีวอสตอค’ ย้อนขึ้นไปยังต้นสายรถไฟอย่าง ‘มอสโค’ (ในรายการเลือกใช้เส้นทางนี้เพราะวลาดีวอสตอคใช้เวลาเดินทางจากสนามบินอินชอนประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้นเองค่ะ)
ที่แรกก่อนตะลุย!
วลาดิวอสตอคเป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ในภูมิภาคตะวันออกไกล ใกล้ชิดกับพรมแดนจีนและเกาหลีเหนือ บรรยากาศรอบเมืองคล้าย ๆ ชวนตื่นตาตื่นใจ และถือเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางกว่าเก้าพันกิโลเมตร ข้ามผ่านสภาพอากาศ และเชื้อชาติหลากหลาย พร้อมด้วยไทม์โซนที่กระจายกันไปกว่า 8 ไทม์โซน!
หลาย ๆ คนเรียกที่นี่ว่า ‘ซานฟรานซิสโกตะวันออก’ เพราะลักษณะทางกายภาพ และสะพานโซโลตอยที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางเมืองคล้าย ๆ กับโกลเดนเกทนั่นเอง ด้วยเวลาที่มีไม่มาก ทำให้หนุ่ม ๆ ได้ชมวิวผ่านรถเท่านั้น เพราะเป้าหมายสำคัญคือการ ต่อรถไฟไปยังมอสโคนั่นเองค่ะ
สะพานโซโลตอย
ลง ‘อีร์คุตสค์’ ชมวิวไบคาลที่เกาะโอลคอน
อีกหนึ่งสถานีที่ห้ามพลาดต้องยกให้ ‘อีร์คุสตค์’ อีกหนึ่งเมืองสำคัญที่เป็นจุดเชื่อมต่อสถานที่ท่องเที่ยวอันหลากหลาย ในตัวเมืองเองก็ถูกขนานนามว่าเป็น ‘ปารีสแห่งไซบีเรีย’ (เมื่อกี้เพิ่งผ่านซานฟรานฯ มา ตอนนี้โผล่ปารีสแล้ว คุ้มเว่อร์!) เพราะมีสถาปัตยกรรม และศิลปะหลากหลาย
ปารีสแห่งรัสเซีย~
จากวลาดิวอสตอคถึงอีร์คุตสค์ใช้เวลาเดินทางบนรถไฟ 4 วัน 3 คืน พอถึงที่หมายแก๊งอปป้าเลยขอแวะยืดเส้นยืดสายในเมืองสักหน่อย เดินทางมาหลายวันก็ต้องคิดถึงอาหารบ้านเกิดเป็นธรรมดา เหล่าอปป้าเลยขอฝากท้องไว้ที่ร้าน CHIN-CHIN หนึ่งในร้านอาหารเกาหลีประจำเมือง (จากที่ส่องใน TripAdvisor ร้านนี้ที่เป็นร้านดังเลยล่ะ) เติมพลังจนอิ่ม แถมหายคิดถึงอาหารที่คุ้นเคยแล้ว ก็พร้อมลุยกันต่อ!
คิดถึงอาหารบ้านเกิด
อีกหนึ่งแลนด์มาร์คหลักห้ามพลาดของทริปนี้ก็คือการได้ไปเยือนจุดชมวิวของทะเลสาบไบคาล ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ถึงแม้จะเห็นวิวผ่านตาระหว่างเดินทางแล้ว แต่ก็อยากไปสัมผัสไบคทาลอย่างเต็มอิ่มกว่าเดิม ซึ่งที่ ๆ แก๊งอปป้าจะพาไปก็คือ ‘เกาะโอลคอน’
ทะเลสาบไบคาล
การเดินทางจากตัวเมืองอีร์คุตสค์ไปเกาะโอลคอนใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง (รวมระยะเวลาที่รอเอารถขึ้นเรือเฟอร์รี่ ที่แก๊งอปป้าเจอไปถึง 3 ชั่วโมง!) เมื่อข้ามฝั่งเรียบร้อยก็เอ็นจอยกับวิวแนวราบที่สวยสุดลูกหูลูกตา ก่อนจะพากันเดินไปยัง ‘แหลมโฮบอย’ จุดชมวิวที่สูงที่สุดของเกาะ ตอนเดินไปก็หอบแฮ่ก แต่พอได้เห็นกับตา ก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง!
มาถึงจุดชมวิวที่ดีที่สุดแล้ว
ปิดทริปที่ ‘มอสโก’
แล้วก็มาถึงเมืองสุดท้ายของทริปอย่าง ‘มอสโก’ หลักกิโลเมตรที่ศูนย์ของเส้นทางรถไฟ อันเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางของใครหลาย ๆ คน เมื่อมาถึงที่นี่เหล่าอปป้าก็ใจหายกันเล็กน้อย แต่ด้วยความหิว และตื่นเต้นมีมากกว่า เลยเริ่มออกตะลุยกันต่อเลย!
ถึงมอสโกแล้ว
งานนี้ ‘คยูพิล’ อาสาพาทัวร์โดยเริ่มจากแวะเที่ยว ‘ตลาดอิซไมโลโว’ แหล่งรวมอาหาร พิพิธภัณฑ์ และของฝากที่ถูกและดีที่สุดในมอสโก เข้ามาก็จะเจอของฝากเรียงราย ตุ๊กตาแม่ลูกดกอันเป็นซิกเนเจอร์ก็มี ของที่ระลึกแบบวินเทจยุคโซเวียตก็มา
ที่เด็ดห้ามพลาดประจำมอสโก
แต่ที่คยูพิลอปป้าเราเล็งไว้ไม่ใช่ของฝาก แต่เป็น ‘ชาชชลิก’ หนึ่งในอาหารรัสเซียที่ต้องลิ้มลองเมื่อมาเยือน เป็นเนื้อย่างเสียบไม้ พร้อมซอส และเครื่องเคียงสไตล์รัสเซีย ท่ีตลาดแห่งนี้มีให้ชิมหลายร้านเลยล่ะ
ใครไปรัสเซียอยาลืมชิม
และนี่ก็คือ 3 เมืองที่
Trans-Siberian Pathfinders ขอปักหมุดแนะนำให้เพื่อน ๆ ไปเยือน อย่าลืมไปติดตามความสนุก และมิตรภาพระหว่างทางได้เต็ม ๆ ใน viu.com หรือ แอปพลิเคชั่น Viu นะคะ รับประกันว่าทรานส์ไซบีเรียต้องเป็นอีกหนึ่งใน Check List ที่เที่ยวที่ไปต้องเยือนสักครั้งให้ได้แน่นอน !
[อปป้าพาเที่ยว] 12 วันผจญภัยด้วยรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย ฉบับมือใหม่!
ตั้งสติ พร้อมสตาร์ทที่ ‘วลาดิวอสตอค’
ปกติแล้วรูทยอดฮิตของเพื่อน ๆ ชาวไทยจะเป็นการเริ่มต้นเดินทางจากปักกิ่ง แต่ในรายการนี้จะพาเราลัดเลาะดินแดนรัสเซียจากเมือง ‘วลาดีวอสตอค’ ย้อนขึ้นไปยังต้นสายรถไฟอย่าง ‘มอสโค’ (ในรายการเลือกใช้เส้นทางนี้เพราะวลาดีวอสตอคใช้เวลาเดินทางจากสนามบินอินชอนประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้นเองค่ะ)
วลาดิวอสตอคเป็นเมืองท่าขนาดใหญ่ในภูมิภาคตะวันออกไกล ใกล้ชิดกับพรมแดนจีนและเกาหลีเหนือ บรรยากาศรอบเมืองคล้าย ๆ ชวนตื่นตาตื่นใจ และถือเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางกว่าเก้าพันกิโลเมตร ข้ามผ่านสภาพอากาศ และเชื้อชาติหลากหลาย พร้อมด้วยไทม์โซนที่กระจายกันไปกว่า 8 ไทม์โซน!
ลง ‘อีร์คุตสค์’ ชมวิวไบคาลที่เกาะโอลคอน
อีกหนึ่งสถานีที่ห้ามพลาดต้องยกให้ ‘อีร์คุสตค์’ อีกหนึ่งเมืองสำคัญที่เป็นจุดเชื่อมต่อสถานที่ท่องเที่ยวอันหลากหลาย ในตัวเมืองเองก็ถูกขนานนามว่าเป็น ‘ปารีสแห่งไซบีเรีย’ (เมื่อกี้เพิ่งผ่านซานฟรานฯ มา ตอนนี้โผล่ปารีสแล้ว คุ้มเว่อร์!) เพราะมีสถาปัตยกรรม และศิลปะหลากหลาย
จากวลาดิวอสตอคถึงอีร์คุตสค์ใช้เวลาเดินทางบนรถไฟ 4 วัน 3 คืน พอถึงที่หมายแก๊งอปป้าเลยขอแวะยืดเส้นยืดสายในเมืองสักหน่อย เดินทางมาหลายวันก็ต้องคิดถึงอาหารบ้านเกิดเป็นธรรมดา เหล่าอปป้าเลยขอฝากท้องไว้ที่ร้าน CHIN-CHIN หนึ่งในร้านอาหารเกาหลีประจำเมือง (จากที่ส่องใน TripAdvisor ร้านนี้ที่เป็นร้านดังเลยล่ะ) เติมพลังจนอิ่ม แถมหายคิดถึงอาหารที่คุ้นเคยแล้ว ก็พร้อมลุยกันต่อ!
อีกหนึ่งแลนด์มาร์คหลักห้ามพลาดของทริปนี้ก็คือการได้ไปเยือนจุดชมวิวของทะเลสาบไบคาล ทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ถึงแม้จะเห็นวิวผ่านตาระหว่างเดินทางแล้ว แต่ก็อยากไปสัมผัสไบคทาลอย่างเต็มอิ่มกว่าเดิม ซึ่งที่ ๆ แก๊งอปป้าจะพาไปก็คือ ‘เกาะโอลคอน’
การเดินทางจากตัวเมืองอีร์คุตสค์ไปเกาะโอลคอนใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง (รวมระยะเวลาที่รอเอารถขึ้นเรือเฟอร์รี่ ที่แก๊งอปป้าเจอไปถึง 3 ชั่วโมง!) เมื่อข้ามฝั่งเรียบร้อยก็เอ็นจอยกับวิวแนวราบที่สวยสุดลูกหูลูกตา ก่อนจะพากันเดินไปยัง ‘แหลมโฮบอย’ จุดชมวิวที่สูงที่สุดของเกาะ ตอนเดินไปก็หอบแฮ่ก แต่พอได้เห็นกับตา ก็หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง!
ปิดทริปที่ ‘มอสโก’
แล้วก็มาถึงเมืองสุดท้ายของทริปอย่าง ‘มอสโก’ หลักกิโลเมตรที่ศูนย์ของเส้นทางรถไฟ อันเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางของใครหลาย ๆ คน เมื่อมาถึงที่นี่เหล่าอปป้าก็ใจหายกันเล็กน้อย แต่ด้วยความหิว และตื่นเต้นมีมากกว่า เลยเริ่มออกตะลุยกันต่อเลย!
งานนี้ ‘คยูพิล’ อาสาพาทัวร์โดยเริ่มจากแวะเที่ยว ‘ตลาดอิซไมโลโว’ แหล่งรวมอาหาร พิพิธภัณฑ์ และของฝากที่ถูกและดีที่สุดในมอสโก เข้ามาก็จะเจอของฝากเรียงราย ตุ๊กตาแม่ลูกดกอันเป็นซิกเนเจอร์ก็มี ของที่ระลึกแบบวินเทจยุคโซเวียตก็มา
แต่ที่คยูพิลอปป้าเราเล็งไว้ไม่ใช่ของฝาก แต่เป็น ‘ชาชชลิก’ หนึ่งในอาหารรัสเซียที่ต้องลิ้มลองเมื่อมาเยือน เป็นเนื้อย่างเสียบไม้ พร้อมซอส และเครื่องเคียงสไตล์รัสเซีย ท่ีตลาดแห่งนี้มีให้ชิมหลายร้านเลยล่ะ
และนี่ก็คือ 3 เมืองที่ Trans-Siberian Pathfinders ขอปักหมุดแนะนำให้เพื่อน ๆ ไปเยือน อย่าลืมไปติดตามความสนุก และมิตรภาพระหว่างทางได้เต็ม ๆ ใน viu.com หรือ แอปพลิเคชั่น Viu นะคะ รับประกันว่าทรานส์ไซบีเรียต้องเป็นอีกหนึ่งใน Check List ที่เที่ยวที่ไปต้องเยือนสักครั้งให้ได้แน่นอน !