บิ๊กเปาชี้เป้าหมายสุดท้ายคือมีVARแต่ไม่ต้องใช้ & น้าคอนไม่เห็นด้วยIdeaชาเล้นจ์VAR & โลกออนไลน์เดือดชี้เชิ๊ตดำ+VARช่วยผี

"บิ๊กผู้ตัดสิน" ชี้เป้าหมายสุดท้ายคือมี VAR แต่ไม่ต้องใช้

ปิแอร์ลุยจิ คอลลิน่า หัวหน้าทีมผู้ตัดสินของฟีฟ่าแนะแนวการทำหน้าที่ของกรรมการว่าต้องตัดสินเหมือนไม่มี VAR และเป้าหมายก็คือไม่จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย

คอลลิน่า เพิ่งอายุครบ 60 ปีมาแบบสดๆ ร้อนๆ และเขาก็ได้เปิดเผยถึงเป้าหมายของการนำ VAR มาใช้ในเกมลูกหนัง

"ผู้ตัดสินต้องตัดสินใจราวกับว่าไม่มีเทคโนโลยีอยู่" คอลลิน่า กล่าว

"เป้าหมายก็คือไม่เป็นจำเป็นต้องใช้ VAR เพราะการตัดสินใจต้องทำให้ถูกต้อง และนั่นก็เป็นเหตุผลว่าทำไมเราถึงต้องเตรียมตัวกันให้ดี"

"ผู้ตัดสินอาจรู้ว่ามันมีตัวช่วยเขาหากตัดสินผิดพลาดไป แต่หากมันยังคงมีข้อผิดพลาดอยู่ ต้องไม่ลืมว่าคนที่ตัดสินการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินไม่ได้ลืมความผิดพลาดเหล่านั้น"

"ผู้ตัดสินต้องรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเกม วิเคราะห์วีดีโอเพื่อเรียนรู้เรื่องแท็คติคและคาแร็คเตอร์ของนักเตะ"

"ตอนผมทำหน้าที่อยู่ เราทำกันแบบนั้น ในวันนี้มันเป็นส่วนหนึ่งในการเตรียมตัวไปแล้ว"


cr : www.soccersuck.com

"น้าคอน" ไม่เห็นด้วยไอเดีย 'ชาเล้นจ์' VAR

อันโตนิโอ คอนเต้ เทรนเนอร์จอมแท็คติคของ "งูใหญ่" อินเตอร์ มิลาน ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอเรื่องการชาเล้นจ์ VAR

ก่อนหน้านี้สมาพันธ์ฟุตบอลอิตาเลี่ยนออกมาเปรยว่ากำลังมีแนวความคิดที่จะนำระบบการชาเล้นจ์ มาใช้กับ VAR เหมือนในกีฬาเทนนิส

อย่างไรก็ตาม คอนเต้ กลับไม่เห็นด้วยกับแนวความคิดดังกล่าวข้างต้น เพราะมองว่าจะไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อันใด

"ผมไม่ชอบไอเดียเรื่องการชาเล้นจ์นะ เพราะผมไม่ควรต้องเรียกใครมาตามดูเหตุการณ์ซ้ำอีก" คอนเต้ กล่าว

"หากสถานการณ์มันชัดเจน พวกเขาก็ควรจะพิจารณาได้อยู่แล้ว"

"เรามีประเด็นมากมายให้ต้องจัดการระหว่างเกม"

"หากผมดูเกมทางทีวีและภาพช้ามันชัดเจน ผู้ตัดสินก็ควรตัดสินได้อย่างเหมาะสมและนำมาพิจารณา ดังนั้นแล้วการชาเล้นจ์จะไม่มีประโยชน์"



cr : www.soccersuck.com

โลกออนไลน์เดือดชี้เชิ๊ตดำ+วีเออาร์ช่วยแมนยู ขุด2เปาพบเกิดแมนเชสเตอร์!

แฟนบอลในโลกออนไลน์เดือด ตั้งข้อสงสัยผลพรีเมียร์ลีกนัดมันเดย์ไนต์ มีการล็อคผลให้ แมนฯ ยูไนเต็ด บุกไปเอาชนะ เชลซี พร้อมชี้ 2 ผู้ตัดสินประจำ
เกมที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ทำหน้าที่ได้น่าเคลือบแคลงใจ แถมขุดประวัติทั้งคู่ ล้วนเกิดที่เมือง แมนเชสเตอร์ จากการรายงานของ เดอะ ซัน สื่อดังเมืองผู้ดีเมื่อวันอังคารที่ 18 ก.พ. 63



  หลังจาก "ปีศาจแดง" บุกไปคว้าชัยที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในกรุงลอนดอน 2-0  จนบีบช่องว่างห่างจากพื้นที่ไป แชมเปี้ยนส์ ลีก เหลือเพียง 3 คะแนน ได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างร้อนแรงในโลกออนไลน์ โดยชี้ว่า ลูกทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ไม่สมควรเป็นผู้ชนะ เพราะได้รับความช่วยเหลือจากทีมงานผู้ตัดสินอย่างชัดเจนในจังหวะสำคัญๆ ที่ส่งผลต่อเกมโดยตรง



แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ปราการหลังกัปตันทีม แมนฯ ยูไนเต็ด รอดพ้นจากการโดนใบแดงหลังจากที่สะบัดขาถีบเข้าใส่จุดสำคัญของ มิชี่ บัตชูอายี่ หน้าซุ้มม้านั่งสำรองเจ้าถิ่น จากนั้นในครึ่งหลัง ควร์ต ซูม่า ก็ถูกรีบประตูตีเสมอโดยวีเออาร์ที่มองว่า เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า ผลัก แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ ทั้งที่ เฟร็ด จะถูกพบว่าผลักกัปตันทีม เชลซี ก่อน
 


นอกจากนี้ ยังมีจังหวะที่ บัตชูอายี่ ถูกตัดสินว่าทำแฮนด์บอลในจังหวะที่ เมสัน เม้าท์ สับไกเน้นๆ รวมไปถึงช็อตที่ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ กองหน้าสำรอง เชลซี ถูกริบประตูตีไข่แตกช่วงท้ายเกม เพราะวีเออาร์ชี้ว่าเฟร้นช์แมนล้ำหน้าแค่ปลายสตั๊ด สร้างความไม่พอใจให้กองเชียร์เจ้าถิ่นอย่างมาก กระทั่งมีการแสดงความเห็นดุเดือดในโลกออนไลน์จากสาวก "สิงห์บลูส์" และแฟนบอลที่เข้ามาผสมโรง

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีการขุดประวัติ แอนโธนี่ เทย์เลอร์ สิงห์เชิ๊ตดำประจำเกม และ คริส คาวานาฟ ที่ดูแลวีเออาร์ว่า เกิดที่เมือง แมนเชสเตอร์ ซึ่งตามปกติ มักจะไม่มีการปล่อยให้ผู้ตัดสินที่มีส่วนเกี่ยวพันกับทีมฟุตบอลจากเมืองเกิด ลงทำหน้าที่



แฟนบอลที่ใช้ชื่อบัญชีทวิตเตอร์ @babuyagu ระบุว่า: "แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ที่เกิดใน แมนเชสเตอร์ กลับมองว่าจังหวะของ แม็กไกวร์ ไม่ใช่ใบแดง เช่นเดียวกับ คริส คาวานาฟ ที่เกิดใน แมนเชสเตอร์ และทำหน้าที่ดูวีเออาร์"



ด้าน @ashsales22 เผยว่า: "ผู้ตัดสิน และเจ้าหน้าที่วีเออาร์เกิดที่ แมนเชสเตอร์ ทั้งคู่ แค่นี้ก็จบแล้ว" ส่วน @omeralvi_ เสริมว่า: "ในนาที 21': วีเออาร์ไม่ให้ใบแดงกับ แม็กไกวร์, น.56': วีเออาร์ไม่ให้ประตู ซูม่า, น.77': วีเออาร์ไม่ให้ประตู ชิรูด์ ให้เดาว่า แอนโธนี่ เทย์เลอร์ มาจากไหน? ถูกต้อง เขามาจาก แมนเชสเตอร์" 



ขณะที่ @alanfrancis09 เผยว่า: "มีใครสามารถอธิบายได้บ้างว่า แอนโธนี่ เทย์เลอร์ จาก วีเธนชอว์, แมนเชสเตอร์ และ คริส คาวานาฟ ที่เกิดใน แมนเชสเตอร์ มาตัดสินเกมของ แมนชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้อย่างไร?"



cr : www.siamsport.co.th

ยูฟ่านำ'วีเออาร์'ใช้งานรอบน็อคเอาท์ยูโรปาลีก

สหพันธ์ฟุตยอลยุโรป เผยว่าจะมีการนำเทคโนโลยีวิดีโอช่วยผู้ตัดสิน หรือ วีเออาร์ มาใช้งานในศึก ยูโรปา ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย

ก่อนหน้านี้ในรอบแบ่งกลุ่ม ยูโรปา ลีก ไม่ได้มีการนำ วีเออาร์ มาใช้งานเนื่องจากที่ประชุมกังวลเรื่องปัญหาด้านความพร้อมของบางสโมสรและบาง
ประเทศ ส่งผลให้ ยูฟ่า ตัดสินใจงดใช้งาน วีเออาร์ ในรอบดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการหารือ รวมไปถึงการอบรมและพิจารณา ซึ่งเกิดขึ้นที่ มายอร์ก้า เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทางคณะกรรมการผู้ตัดสินมองว่าทุกฝ่ายมีการพัฒนาที่ดี และเห็นชอบให้นำ วีเออาร์ มาใช้งานในรอบ 32 ทีมสุดท้ายไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศ

"เราเชื่อว่า วีเออาร์ เป็นส่วนสำคัญสำหรับฟุตบอล" โรแบร์โต้ โรเซ็ตติ ประธานคณะกรรมการผู้ตัดสินของยุโรประบุ

"และผมยินดีอย่างมากที่ตอนนี้เราจะใช้งาน วีเออาร์ ในศึก ยูโรปา ลีก ซึ่งมันจะช่วยให้การตัดสินของผู้ตัดสินถูกต้องมากขึ้นในเกมสำคัญๆ "



cr : https://www.thsport.com/news-79795.html
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่