ไม่ใช่ลิเวอร์พูล ! เผยทีมได้ประโยชน์วีเออาร์มากสุดครึ่งซีซั่นแรก

นับตั้งแต่ที่มีการนำระบบเทคโนโลยีผู้ช่วยผู้ตัดสินหรือ วีเออาร์ มาใช้ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2019/2020 โดยตอนนี้ผ่านไปครึ่งฤดูกาลแรก เกิดประเด็นให้ถกเถียงกันอย่างหนักเกี่ยวกับความเที่ยงตรงของระบบนี้ รวมไปถึงการทำให้มนต์เสน่ห์ของลูกหนังหายไปเยอะ



ประเด็นที่ทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างหนักเกิดขึ้นในแมตช์ล่าสุดระหว่าง ลิเวอร์พูล ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ เกิดการใช้ "วีเออาร์" มาช่วยในการตัดสิน และผลของคำตัดสินระหว่างทั้ง 2 สโมสรสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะจังหวะยิงประตูตีเสมอของ "หมาป่า" ที่สร้างความขุ่นเคืองให้กับแฟนบอลพันธุ์แท้วูล์ฟส์ และแฟนบอลเฉพาะกิจอย่างมาก

สำหรับจังหวะนั้นคงไม่ต้องมาสาธยายกันอีกรอบเพราะมีสื่อหลายสำนักนำเรื่องนี้มาขยายกันมากมาย แต่ปัญหาเรื่องระบบวีเออาร์ไม่ได้เกิดขึ้นแค่เกมกับ ลิเวอร์พูล พบ วูล์ฟส์ เท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายเกม และหลายประตูที่เทคโนโลยีนี้ตัดสินจนส่งผลทำให้เกมเปลี่ยนไปเลย



 ในเรื่องการกลับคำตัดสินมีถึง 58 ครั้งที่เกี่ยวข้องกับประตู และเหตุการณ์อื่นๆที่เกี่ยวพันโดยตรงกับระบบวีเออาร์ (ก่อนเกมพรีเมียร์ลีกวันที่ 1 ม.ค.) โดยประเด็นที่ถกเถียงกันอย่างมากหนีไม่พ้นเรื่องจังหวะล้ำหน้าแบบปลายนิ้วก้อย หรือล้ำหน้าเพราะรักแร้ ! จึงทำให้เกิดกระแสว่าควรจะมีการแก้ไขกฎเกี่ยวกับเรื่องล้ำหน้าหรือไม่ เพราะบางครั้งมันก็ดูโหดร้ายสำหรับทีมที่ยิงประตูได้แต่โดนจับล้ำหน้าแบบนั้น 
    ช่วงที่ผ่านมามีการนำกรณีนี้มาศึกษาด้วยการระบุว่าหากไม่มีการใช้ "วีเออาร์" เข้ามาเกี่ยวข้องกับการตัดสินแล้วทีมไหนจะยึดจ่าฝูง ซึ่งผลที่ออกมาก็ยังคงเป็น ลิเวอร์พูล เช่นเดิมแต่จะชนะ 16 เกม, เสมอ 2 หน และแพ้ 1 นัด รวมถีงเก็บได้ 50 คะแนน ไม่ใช่ผลงานสวยหรูชนะ 18 เกม, เสมอ 1 นัด และไม่แพ้ใครเลย จนมีถึง 55 คะแนน อย่างที่เห็นในปัจจุบัน โดยเกมที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นแพ้ก็คือนัดล่าสุดที่ชนะ วูล์ฟส์ นั่นเอง (จังหวะที่ ลิเวอร์พูล ได้ประตูกรรมการเป่าแฮนด์บอล ส่วนจังหวะที่ วูล์ฟส์ ได้ประตูท่านเปาไม่เป่าล้ำหน้า)



 ลูคัส บรุด กรรมการบริหาร คณะกรรมการสมาคมฟุตบอลระหว่างประเทศ (FIBA) ยอมรับว่าประเด็นการวิจารณ์เกี่ยวกับการทำงานของ "วีเออาร์" มีอย่างต่อเนื่อง และเตรียมจัดประชุดเรื่องนี้ในเดือนกุมภาพันธ์เพื่อหาแนวทางแก้ไข "ในเรื่องของการใช้ระบบวีเออาร์ เราต้องเผชิญหน้ากับบางสถานการณ์ที่อาจจะต้องมีการปรับปรุงใหม่"

"ถ้าหากผู้ตัดสินในห้องวีเออาร์ใช้เวลานานเกินไปในการเช็คจากหน้าจอเพื่อตั้งใจหาตำแหน่งล้ำหน้า, หาความผิดพลาดที่ชัดเจน และไม่ชัดเจน ในกรณีนี้ให้ยึดคำตัดสินแรก (ของผู้ตัดสิน) เป็นหลัก" บรุค ระบุ



แน่นอนว่าสิ่งนี้จำเป็นอย่างมากเพราะ "อีเอสพีเอ็น" สื่อชั้นนำระดับโลก ได้มีการสรุปตัวเลขการใช้ "วีเออาร์" ในเกมพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ จนถึงวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา โดย ลิเวอร์พูล ไม่ใช่ทีมที่ได้ประโยชน์จากระบบนี้มากที่สุดอย่างที่หลายๆ คนกำลังกล่าวหา 

สรุป มีการกลับคำตัดสินรวม 58 ครั้งที่เกี่ยวข้องกับประตูและเหตุการณ์อื่นๆ 

นำไปสู่การให้ประตู : 16 
นำไปสู่การยึดประตู : 32
นำไปสู่การให้จุดโทษ : 10 (ยิงพลาด 4)
นำไปสู่การริบคืนจุดโทษ : 2
นำไปสู่การให้ยิงจุดโทษใหม่ : 4  
ไม่ได้ประตูเนื่องจากล้ำหน้า : 22
ได้ประตูหลังจังหวะล้ำหน้าผิดพลาด : 6
ไม่ได้ประตูเนื่องจากจังหวะแฮนด์บอล : 5
ได้ประตูจากเนื่องจากไม่แฮนด์บอล : 1
ใบแดง : 2
ริบใบแดง : 1

ทีมที่ได้-เสียประโยชน์จากการกลับคำตัดสินด้วย วีเออาร์ (คะแนนสุทธิหลังหักบวกลบแล้ว)

- ไบร์ทตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน +5
- เซาธ์แฮมป์ตัน +4
- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด   +3
- เอเอฟซี บอร์นมัธ  +2
- เลสเตอร์ ซิตี้   +2
- ลิเวอร์พูล   +2
- เบิร์นลี่ย์   +1
- คริสตัล พาเลซ   +1
- แมนเชสเตอร์ ซิตี้   +1
- นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด  +1
- ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ + 1
- วัตฟอร์ด   +1
- อาร์เซน่อล   -1
- แอสตัน วิลล่า -1
- เอฟเวอร์ตัน -1
- เชลซี  -2
- เวสต์แฮม ยูไนเต็ด   -3
- นอริช ซิตี้   -4
- เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด   -6
- วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ -6

cr : www.siamsport.co.th
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ฟุตบอลต่างประเทศ Premier League (League) Manchester United F.C. Liverpool F.C. Leicester City F.C.
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่