สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์ที่ผมเคยตั้งกระทู้ไว้ https://ppantip.com/topic/39561471
แต่จะเล่าให้ฟังใหม่อีกครั้งนะครับ เผื่อใครไม่อยากกดเข้าไปดู

เริ่มต้นด้วยตัวผมถูกมิจฉาชีพหลอกให้กรอกข้อมูลส่วนตัวทางอีเมล 
โดยวันที่ 30/11/62 คนร้ายส่งอีเมลมาในนาม Apple ID (อีเมลปลอม) "รายงานว่า Apple ID ถูกล็อกเนื่องจากมีคนพยายาม Login apple id จากประเทศอิสราเอล" ซึ่งในตอนแรกผมก็ไม่ได้สนใจอีเมลฉบับนี้แต่อย่างใด แทบไม่สังเกตเลยด้วยซ้ำ
*ภาพอีเมลที่เห็นผมแคปไว้หลังจากเกิดเหตุแล้ว เวลาจึงไม่ตรงกับที่เล่ามา

 
หลังจากนั้นในวันที่ 17/12/62 อีเมลอีกฉบับก็ถูกส่งเข้ามาจาก Apple ID อีกครั้ง (อีเมลปลอม) ใจความว่า Apple ID ถูกล็อกให้ยืนยันตัวตน โดยให้กรอกข้อมูลส่วนตัวเพื่อปลดล็อกบัญชีผู้ใช้ ซึ่งก็มีการกรอกข้อมูลบัตรเครดิตด้วย ในวันนั้นผมกรอกข้อมูลไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ด้วยความที่วุ่นวายกับงานที่ทำอยู่เพราะเป็นช่วงเวลาเช้าและอยากแก้ปัญหาที่มีการแจ้งเข้ามาให้เร็วที่สุด เพื่อการใช้งาน Apple ID ได้ต่อไป จึงกรอกข้อมูลให้ไปโดยไม่ได้คิดอะไร
*ถึงตรงนี้ผมขออธิบายก่อนนะครับว่า ปกติผมผูกบัตรเครดิตเข้ากับ Apple ID เพื่อซื้อสินค้าต่างๆ ใน Itune และสินค้าออนไลน์ต่างๆ
*ภาพอีเมลที่เห็นผมแคปไว้หลังจากเกิดเหตุแล้ว เวลาจึงไม่ตรงกับที่เล่ามา

 
หลังจากนั้นเป็นเวลา 10 วัน วันที่ 27/12/62 ช่วงเวลา บ่าย 2 ถึงบ่าย 3 โมง มีการแจ้งเตือนผ่าน App ของธนาคารว่ามียอดใช้จ่ายเกิดขึ้น 24,000 บาท สั่งซื้อของออนไลน์จาก LAZADA ผมตกใจมากและพยายามติดต่อธนาคารเจ้าของบัตรทันทีในตอนนั้น แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารโทรหาผมเสียก่อน และสอบถามว่าผมได้ทำธุรกรรมดังกล่าวหรือไม่ ผมตอบกลับว่าไม่ได้ใช้ ทางเจ้าหน้าที่จึงถามว่ามีการกรอกข้อมูลส่วนตัวให้อีเมลแปลกๆหรือเปล่า ผมนึกๆดูจึงตอบว่ามี เจ้าหน้าที่บอกว่ามีลูกค้าหลายท่านที่เจอเรื่องแบบนี้ "โดยอธิบายว่าปกติเวลาซื้อของออนไลน์จะมีการส่งรหัส OTP เพื่อยืนยันการสั่งซื้อสินค้า แต่คนร้ายได้ทำการแฮ็กอีเมลของผมเพื่อให้รหัส OTP ส่งเข้าไปทางอีเมลพร้อมกับการส่งเข้า SMS ผ่านเบอร์โทรศัพท์" เคสนี้มีหลายคนโดนมาแล้ว
*ภาพที่เห็นผมแคปไว้หลังจากเกิดเหตุแล้ว เวลาจึงไม่ตรงกับที่เล่ามา

 
*ฟังถึงตรงนี้ผมก็ใจชื้นขึ้นมากเพราะคิดว่ามีหลายคนที่เจอปัญหานี้และทางธนาคารต้องมีวิธีการดึงเงินคืนจากทาง LAZADA และยกเลิกคำสั่งซื้อที่เกิดขึ้นได้ทันทีแน่นอนเพราะเวลาที่เจ้าหน้าที่โทรเข้ามานั้นไม่เกิน 15 นาที หลังจากมีการแจ้งยอดใช้จ่าย ผมเลยถามต่อว่าผมต้องทำยังไงบ้าง? ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า ให้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจ และทางธนาคารจะทำการอายัติปิดบัตรในทันที และจะติดต่อกลับมาอีกครั้งหลังปีใหม่ ให้เตรียมเอกสารและหลักฐานไว้ อีกทั้งจะส่งบัตรใหม่ให้หลังปีใหม่เช่นกัน 
*นี่คือบัตรเครดิตเจ้าปัญหา

 
ในวันที่ 30/12/62 เวลาประมาณบ่าย 2 โมง ผมไปแจ้งความที่สถานนีตำรวจในเขตรับผิดชอบและได้ทำการลงบันทึกประจำวันพร้อมตราครุฑ โดยมีเนื้อหาเพื่อปฏิเสธการชำระหนี้ในส่วนดังกล่าวที่มียอด 24,000 บาท โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่ากรณีนี้ตามจับตัวคนร้ายได้ยากมากๆ แต่ผมคิดว่าทางธนาคารคงจัดการเรื่องการดึงเงินคืนไว้ตั้งแต่วันแรกที่เกิดการซื้อขายแล้วแล้ว เพียงแต่ให้เรามาแจ้งความเพื่อทำตามขั้นตอนและนำเอกสารไปยืนยันเพียงเท่านั้น
*ภาพเอกสารการลงบันทึกประจำวัน

 
หลังจากนั้นผ่านไป 10 วัน ไม่มีการติดต่อมาจากเจ้าหน้าที่ธนาคาร ผมเลยติดต่อไปในวันที่ 12/1/63 เนื่องด้วยแอบกลัวว่า ธนาคารจะมีการตัดยอดค่าใช้จ่ายในวันนี้และจะนำเอายอด 24,000 บาทนี้ ไปรวมด้วย จึงโทรไปสอบถามว่าเรื่องถึงไหนและจะให้ส่งเอกสารไปทางไหนได้ เจ้าหน้าที่บอกว่าจะติดต่อกลับในวันอื่นเนื่องจาก ต้องคุยกับฝ่ายตรวจสอบการทุจริตของธนาคารโดยตรง ผมก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะอยากแก้ปัญหานี้ให้เสร็จๆ จะได้ดำเนินชีวิตต่อไป
 
ในวันที่ 13/1/63 ทางเจ้าหน้าที่โทรมาบอกว่า "ไม่สามารถลดหย่อนในส่วนยอดตรงนี้ได้" ผมถึงกับหน้าชา เจ้าหน้าที่บอกว่าจะดำเนินการประสานงานกับ LAZADA นำข้อมูลของผู้ซื้อมาให้กับผม ผมถามว่าผมจะเอาไปทำอะไร? ป่านนี้คนร้ายไม่หนีไปแล้วหรอ? ผมงงว่าในวันเกิดเหตุทางธนาคารปล่อยให้เกิดการซื้อขายจนจบกระบวนการเลยหรอ? ไม่มีการดึงเงินคืนใดๆในวันนั้นเลยหรอ ผมรู้สึกเหมือนถูกปัดความรับผิดชอบ ไม่มีเงินจะจ่ายยอดตรงนี้ ผมถามเจ้าหน้าที่ว่ามีวิธีช่วยเหลือมั้ย? "เจ้าหน้าที่บอกแค่ว่าไม่มีนโยบายในส่วนนี้" ลูกค้ามีสิทธิที่จะไม่จ่ายอยู่แล้ว ผมเลยถามต่อว่า ถ้าไม่จ่ายยอดนี้จะเกิดอะไรขึ้น? เจ้าหน้าที่ให้คำตอบว่า "ก็ในทุกเดือนจะมีการติดตามหนี้ในส่วนนี้จนสุดท้ายอาจต้องให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน" ผมเลยเข้าใจในทันทีว่าเท่ากับว่าบัญชีผมจะติดแบล็กลิส ทั้งๆที่ปกติผมจ่ายเงินตามจำนวนตลอด ไม่เคยมียอดค้างชำระ เป็นลูกค้าที่ดีมาตลอด เวลารูดก็ดูกำลังตัวเองเพราะผมจ่ายเต็มจำนวนทุกเดือนยกเว้นว่าซื้อสินค้าที่มีการผ่อน ตลอดมาบัญชีผมสะอาดมากแต่ต้องมาติดแบล็กลิสเพราะเรื่องแบบนี้ ผมบอกกับเจ้าหน้าที่ให้ช่วยเหลือกันหน่อยเพราะนี่ปีใหม่ 2563 แล้ว ไม่อยากเจออะไรแบบนี้ตั้งแต่ต้นปี เจ้าหน้าที่บอกว่าให้ส่งหลักฐานมาทางอีเมลก่อนและจะส่งเรื่องขึ้นไปเพื่อพิจารณาอีกครั้งแต่ไม่ยืนยันว่าจะช่วยได้ ผมได้ส่งข้อมูลและหลักฐานทั้งหมดให้ทางธนาคารแล้ว

ต่อมาวันที่ 12/2/2563 
ผมวุ่นวายกับการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับเอกสารที่จะต้องส่งให้กับทางลาซาด้าเรื่องจึงเงียบหายไปเป็นเวลาเกือบเดือน ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบของธนาคารได้โทรเข้ามาพร้อมบอกว่า "ทางธนาคารไม่มีนโยบายพักยอด"
"ลูกค้าต้องเป็นคนจ่ายหนี้ตรงนี้ เพราะการซื้อขายมีการทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง เนื่องจากเป็นการซื้อขายแบบออนไลน์เงินในบัตรจะถูกตัดออกทันทีในตอนที่การสั่งซื้อเสร็จสิ้น" 
"ทางธนาคารไม่มีหน้าที่ติดต่อกับร้านค้าเพื่อยกเลิกคำสั่งซื้อ ทำได้เพียงแค่ขอข้อมูลผู้ซื้อจากร้านค้าซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้มั้ย?" (กรณีนี้ไม่ได้แน่นอนเพราะทางลาซาด้ามีนโยบายไม่เปิดเผยข้อมูลผู้ซื้อให้เว้นแต่จะมีหมายเรียกพยานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งผมได้ไปติดต่อออกหมายเรียกพยานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว) 
เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่า "ทุกเคสที่เกิดขึ้นลูกค้าทุกคนต้องชำระหนี้หมด ไม่มีคนไหนที่ไม่ต้องจ่าย"
พอคุยจบในวันเดียวกันนั้นผมเริ่มที่จะถอดใจ เพราะหมดหวังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้ เนื่องจาก "เจ้าหน้าที่ตำรวจค่อนข้างจะยุ่ง" สังเกตุได้จากทุกครั้งที่ไปแจ้งความมา และค่อนข้างที่จะไม่ให้ความร่วมมือเท่าไหร่ จึงมองหาทางออกอีกทางคือ ในเมื่อเราต้องจ่ายก็ขอแบบผ่อนชำระแบบ 0% แล้วกัน เพราะเราก็เป็นลูกค้าที่ดีอยู่ แค่ทำเรื่องผ่อนชำระคิดว่าคงไม่ยาก คุยกันได้แหละ ไหนๆก็จะยอมจ่ายแล้ว จึงโทรไปหาทางศูนย์บัตรกรุงศรีฯ เล่าเรื่องทุกอย่างให้เจ้าหน้าที่ฟัง ขอความเห็นใจว่า ถ้าจะจ่ายมีแบบ 0% มั้ย? เจ้าหน้าที่ขอเวลาส่งเรื่องแล้วบอกเป็นนัยๆว่า ไม่สามารถผ่อน 0% ได้  แต่เรายังมีความหวังจึงบอกให้ลองช่วยเดินเรื่องหน่อย 

ล่าสุดวันที่ 18/2/2563 
เจ้าหน้าที่ฝ่ายศูนย์บัตรของธนาคารกรุงศรีฯ โทรเข้ามาอีกครั้ง เพื่อแจ้งว่า "ไม่มีรายการ 0% ใดๆทั้งสิ้น ลูกค้า ต้องเป็นจ่ายหนี้ทั้งหมด เพราะยอดนี้ฝ่ายตรวจสอบแจ้งว่าเป็นความรับผิดชอบของลูกค้า" ซึ่งทำให้ผมรู้สึกหน้าชาแบบสุดๆ จะเอาเงินที่ไหนมาจ่าย แถมต้องจ่ายให้ใครไม่รู้อีก แถมธนาคารยังไม่ช่วยเหลืออะไรหรือแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในวันนี้ยอดของผมจำนวนเงิน 24,000 บาท ผมต้องเป็นคนชำระเองทั้งหมด+ดอกเบี้ยหากชำระขั้นต่ำ ถ้าสมมติมีคนเกิดกรณีเดียวกันกับผมแต่ยอดไม่ใช่ยอดนี้เป็นยอดซักแสนสองแสน คนเหล่านั้นไม่ต้องขายรถขายที่มาใช้หนี้ธนาคารหรอ?
ถึงแม้ว่าธนาคารจะไม่ใช่คนร้ายก็ตาม แต่เงินตรงนี้มันอยู่ในความรับผิดชอบของธนาคาร ตอนสมัครก็พูดซะสวยหรู แต่พอมีปัญหาให้ลูกค้ารับผิดชอบตัวเอง ถามคำเดียวครับว่า "ในวันที่บัตรถูกตัดยอดแล้วมีเจ้าหน้าที่โทรมาถามว่า ได้ใช้บัตรรึเปล่า นั้น เค้าโทรมาทำไมในเมื่อไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาใดๆได้เลย ไม่ต้องโทรมาก็ได้ แกล้งบ้าแล้วมาเรียกเก็บยอดเลยยังได้" "เพราะยังไงธนาคารก็ไม่ได้ช่วยอะไรอยู่แล้ว" (ขออภัยหากพูดจาไม่เหมาะสม)

ผมรู้สึกขอบคุณเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงศรีฯจากใจจริง ที่ช่วย.............ช่วยอะไรไม่รู้ ขอบคุณความรับผิดชอบของธนาคารกรุงศรีฯที่มีต่อลูกค้า
สุดท้ายถ้าโชคดีหวังว่าจะจับคนร้ายได้ ขอบคุณสำหรับการบริการดีๆจากทางธนาคารกรุงศรีฯ ต่อไปนี้เราคงไม่ใช่ลูกค้ากันอีก ชำระหนี้หมด คือจบกัน ไม่ขอรับบริการใดจากธนาคารกรุงศรีฯอีก คนรู้จักทุกคนจะแนะนำให้เลิกใช้ไปเลย เสียความรู้สึกจริงๆ

*กรณีจับคนร้ายได้ (ซึ่งขอให้เป็นแบบนั้น) ทางธนาคารก็ไม่ต้องทำอะไร ผมแค่ต้องไปแจ้งความจับคนร้ายเอง เรียกค่าเสียหายเอง เอาเงินไปคืนธนาคารเอง ทำทุกอย่างด้วยตนเองตั้งแต่ต้นจนจบ
*กรณีผมพูดอะไรที่ไม่เหมาะสมต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย