ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ อาการแบบนี้ เป็นอะไร (รายละเอียดในกระทู้)

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะ

เพื่อนเรามีอาการแบบนี้ เพื่อนๆพันทิพใครเคยเป็น หรือพอจะรู้บ้างว่าน่าจะเกิดจากอะไร รบกวนแนะนำเราด้วยค่ะ

- ชาที่ปลายนิ้วเท้า (นิ้วก้อย นิ้วนาง)
- มีอาการเหมือนรองช้ำ เมื่อเดินหรือวิ่งนานๆ
- ปวดเมื่อย ร้าว เส้นเอ็นต้นขาด้านข้างขึ้น
ไปจนถึงหลังส่วนล่าง มักเป็นหลังออกกำลังกาย
- เส้นตึงบ่อย
- ปวดหัว (เป็นไมเกรนอยู่แล้ว)
- ปวดร้าวไหล่ สะบัก
- เคยมือสั่น (นานๆที)
อาการพวกนี้เป็นๆหายค่ะ

อาการอื่นๆ
- บางทีเราว่าเค้าพูดช้า ติดขัดๆบ้าง เช่นนึกคำไม่ออก
- หลงลืมของว่าใส่ไว้ตรงไหน

ข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ
เป็น ผู้หญิง อายุ 52
ชอบออกกำลังกายในฟิตเนส เล่นคลาสเวท จักรยาน คอมแบต
ชอบกินของหวาน

ถ้ามีแนวทางรักษา ก็รบกวนช่วยบอกหน่อยนะคะ ขอบคุณค่ะ กราบบบ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ให้เพื่อนไปหาหมอด่วน ๆ เลยค่ะ

ไม่ได้มีอาชีพหรือเรียนมาด้านสุขภาพหรือโภชนาการใด ๆ ทั้งสิ้นนะคะ เอาเป็นว่ามาเล่าให้ฟังก็แล้วกันค่ะ

-ชาที่ปลายนิ้วเท้า (นิ้วก้อย นิ้วนาง)
ตอนวิ่งกับเครื่อง elliptical เคยเป็นค่ะ เฉพาะนิ้วก้อย(จึงมีข้ออ้าง เครื่องวางสงบนิ่งไม่เคลื่อนไหวมาหลายปีแล้ว ฮ่า ๆๆ)  หลังจากนั้น 2-3 เดือน ก็เริ่มชาไล่มาคือน่อง ต้นขา หลัง จนถึงคอ คือชาเฉพาะด้านหลังนะคะ แล้วก็ลิ้นชาด้วยค่ะ สรุปว่า ขาดวิตามิน บี ค่ะ เพราะไม่กินกลูเต้น และไม่กินหมูและเนื้อ ประมาณ 9 ปีเห็นจะได้ จึงเริ่มออกอาการ ที่งดอาหารเหล่านั้นเพราะ สิวบุกหนักมาก ๆ ค่ะ  

ลองผิดลองถูกหลายอย่างมาก สรุปคือ ช่วงแรกกินวิตามินค่ะ Alinamin Ex Plus ที่พี่ติ๊กเคยโฆษณา (อันนี้ชอบส่วนตัว ถึงจะแพงมากก็จะซื้อค่ะ ฮ่า ๆๆ) และกลับมากินหมู คือนานมากแล้ว จำไม่ได้ว่ากินกี่ขวดถึงหาย แต่รู้สึกได้ว่า ดีขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ กินอยู่เป็นปี พอวิตามินพี่ติ๊กหาซื้อยาก ร้านขายส่งยาบอกว่า ของขาดตลาด (คือร้านทั่วไป ขายแพงกว่ากัน ประมาณ 30% เชียวค่ะ) ก็ตัดใจเลิกกินวิตามินพี่ติ๊ก มากินตับหมูแทนค่ะ

คือ เกลียดตับมาก ๆๆๆๆ แต่ก็กินทุกวันติดต่อกันเป็นเดือน ๆ เลยค่ะ ถ้าไม่ชอบรสชาติอี๋ ๆ ของตับ ให้ซื้อมาทำเองค่ะ ที่สไลด์แล้วเป็นแพคก็ได้ แต่จะแพงกว่า เอามาหั่นเองก็ได้ แต่มีดต้องคมมาก ๆ ตอนหั่นนี่ปวดข้อเลยค่ะ เหนียวมาก

วิธีคือ ล้างกับนมโคสดแท้ 100% จากกล่อง ตราอะไรก็ได้ค่ะ ก่อนหั่นก็ล้าง หั่นเสร็จก็ล้าง แล้วแต่ว่าจะทนความอี๋ของตับได้มากน้อยแค่ไหน ส่วนตัว หั่นเสร็จ ล้างอีก 2 รอบค่ะ ปริมาณนมคือ คลุก ๆๆ กับตับ แล้วมีเหลือเททิ้งสักครึ่งถ้วยน่ะค่ะ จากนั่นก็เอาไปปรุงตามชอบเลยค่ะ ที่ทำก็ผัดใส่ซีอิ้ว น้ำตาลทรายแดง พริกไทยเยอะ ๆ ส่วนกระเทียมเจียวกับแม๊กกี้ซอสเหยาะจะใส่ตอนสุกดีแล้ว คลุก ๆๆ แล้วใส่กล่องเก็บไว้ตู้เย็น ถ้าจะเก็บไว้หลายวัน ให้ออกหวานนำ จะไม่บูดง่ายค่ะ ตอนกินคือ ช่วงนั้นฮิต(ส่วนตัว) กินเส้นหมี่ข้าวกล้อง กับสาหร่ายวากาเมะ(ช่วยเรื่องข้อต่อ) แล้วโรยหมูสับ ใส่เก๋ากี้(ช่วยเรื่องสายตา) ก็เปลี่ยนจากหมูสับที่โรย มาเป็นตับหมูนี่แทน แต่ใส่เยอะหน่อย น้ำก๋วยเตี๋ยวข้นคลั่กเลยค่ะ ฮ่า ๆๆ

กินนานจนนิ้วก้อยหายชา ก็เลิกกิน นานเท่าไหร่จำไม่ได้แล้วค่ะ แต่คือ นับรวมตั้งแต่กินวิตามินพี่ติ๊ก จนเลิกกินตับหมูทุกวันนี่เป็น ปี หรือสองปีเลยค่ะ
ตอนนี้ไม่ได้กินทั้งตับ และวิตามินแล้วค่ะ แต่พอเริ่ม ชา ๆ ก็โหมกระหน่ำกินหมูอย่างไม่ยั้งคิด ได้ข้ออ้างกินเยอะไปอีกค่ะ ฮ่า ๆๆ

- มีอาการเหมือนรองช้ำ เมื่อเดินหรือวิ่งนานๆ
ส่วนตัวคือ เปลี่ยนมาใส่ Fitflop ค่ะ เปลี่ยนมาหลายปีแล้ว ตั้งแต่ตอนที่เค้าฮิตกันใหม่ ๆ ตอนนี้ ถ้าเดินคือจะใส่รองเท้าตลอด ในหรือนอกบ้านก็ตาม รองเท้าในบ้าน คือคู่ที่หมดสภาพ ปากอ้า หูคีบขาด ก็เอามาซ่อมเอง ติดกาวยาง เอาเชือกมาผูกเสริม ล้างขัดพื้นรองเท้าให้สะอาดค่ะ ซื้อใส่ทีละคู่ เพราะถ้าวางไว้เฉย ๆ จะพังเร็วกว่า พอไม่สวย ก็เอามาแทนคู่เน่าในบ้าน แล้วซื้อใหม่ วนไปแบบนี้ค่ะ ส่วนตัวจะใส่ได้เฉพาะแบบพื้นหนาค่ะ แบบที่พื้นบาง ๆ ที่ปูด้วยหนัง ไม่ช่วยเลยค่ะ แต่มีไว้เพราะเป็นคัทชูสีดำ จำเป็นเพราะตอนต่อใบขับขี่ตอนนี้ห้ามลากแตะแล้วค่ะ ก็แบกเอาไปเปลี่ยนที่ขนส่งค่ะ ฮ่า ๆๆ

- ปวดเมื่อย ร้าว เส้นเอ็นต้นขาด้านข้างขึ้น ไปจนถึงหลังส่วนล่าง มักเป็นหลังออกกำลังกาย
อาจจะเป็นหมอนรองแตกทับเส้นนะคะ หาหมอรึยังคะ หาหมอก่อนค่ะ

อันนี้นิสัยไม่ดี ไม่ควรทำตาม คือแม่ปวดเข่า แล้วหมอจ่ายยา อาทริล ชนิดผงแบบซอง กล่องละ 30 ซอง ราคา 900 คือเข้าใจนะคะว่า รวมค่าวิชาหมอไปด้วย แต่ต้องกินต่อเนื่อง แม่เลยให้ไปสืบราคาร้านยาขายส่ง แล้วซื้อส่งไปให้ ประเด็นคือ แม่บอกว่า กินแล้วช่วงแรกยังไม่หายปวดเข่า แต่ผิวดีขึ้นมาก คงต้องกินต่อนานกว่า 6 เดือนที่หมอบอก จึงกินตามด้วยค่ะ ฮ่า ๆๆ แต่ได้ผลตรงกันข้ามกับแม่ค่ะ ที่ปวดเอวหายค่ะ แต่ผิวไม่เห็นจะดีขึ้นเลย แต่มีผลข้างเคียงคือ แปรงฟันแล้วเลือดออกง่ายมาก ๆ ตอนนี้เลิกกินแล้ว หันมากินสาหร่ายวากาเมะ และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสาหราย คือวุ้นค่ะ เพราะรู้สึกเข้ากันกับตัวเองมากกว่าคอลลาเจนที่ทำจากสัตว์ค่ะ

ตอนนี้อะไรใส่วุ้นได้ใส่หมดเลยค่ะ หุงข้าวก็ใส่วุ้นค่ะ ฮ่า ๆๆ เพราะคอลลาเจนเขาโฆษณาว่า ใส่ได้ทุกอย่าง เราก็ใส่วุ้นในทุกอย่างเหมือนกัน แต่จะยากหน่อย คือต้องต้มเดือดเป็นเวลานึง วุ้นถึงจะละลายค่ะ พวกต้มจืด หรือแกง ก็จะโรยผงวุ้น ประมาณ 1 ช้อนชา จะไม่มีผลต่อน้ำแกงมากค่ะ ใส่ช่วงที่ต้องทิ้งไว้ให้น้ำแกงเดือดค่ะ จะรู้ได้ว่า วุ้นละลายเข้ากับอาหารดีแล้วคือ กลิ่นคาวแบบน้ำทะเลจะหายไปค่ะ

- เส้นตึงบ่อย
- ปวดหัว (เป็นไมเกรนอยู่แล้ว)

สองอันนี้ไม่ทราบทางแก้ค่ะ

- ปวดร้าวไหล่ สะบัก
ที่เคยเป็นคือ กระเป๋าสะพายหนักไปค่ะ

- เคยมือสั่น (นานๆที)
ที่ทำคือ เลิกเหล้าค่ะ ฮ่า ๆๆ และไม่แตะอีกเลย จะครบยี่สิบปีปีหน้ามั้ง เกลียดมากพวกที่บอกว่า ให้เกียรติหน่อย กรึ๊บเดียว ตับชั้นพังจะช่วยออกเงินรักษามั้ย แต่เพื่อนคุณเป็นคนรักสุขภาพ คงไม่ดื่มเนอะ

- บางทีเราว่าเค้าพูดช้า ติดขัดๆบ้าง เช่นนึกคำไม่ออก
- หลงลืมของว่าใส่ไว้ตรงไหน

อันนี้เป็นแต่เด็กแล้วค่ะ ฮ่า ๆๆ แต่ถ้าเพื่อนคุณเพิ่งจะเริ่มเป็น หาหมอก่อนค่ะ

ที่เคยใช้แล้วได้ผลคือ เลซิตินค่ะ แต่ทำให้สิวบุกเหมือนกัน ก็เลิก ช่วงนึงดูซีรีส์หนักมาก ประกอบกับชอบในหลักการอาหารเป็นยา จึงคิดเอาเองว่า อาหารฮ่องเต้นี่แหละคือทางออก มาสรุป(เอาเอง ผิดถูกไม่รู้)ได้ที่ แปะก๊วยค่ะ ไม่ใช่ใบนะคะ กินลูกเหลือง ๆ นี่เลยค่ะ ปกติก็ชอบอยู่แล้ว แต่เมื่อก่อนเป็นของแพงมาก สมัยทำงานประจำ ผู้บริหารเคยพาพนักงานไปเลี้ยงที่เจ๊ง้อ ได้กินแปะก๊วยคั่วเกลือ ชอบมาก

พอเห็นแปะก๊วยมาลีกระป๋องที่โลตัสเล็กแถวบ้าน ก็ซื้อมาลองทำ โดยแยกเนื้อกับน้ำออก ใส่กระทะเทฟลอน แล้วคั่วจนสีเหลืองเข้ม ผิวจะใส ๆ เงา ๆ สวยมีสง่าราศรีขึ้นกว่าตอนแช่น้ำซีด ๆ อยู่ในกระป๋องค่ะ ฮ่า ๆๆ แล้วค่อยโรยเกลือ นิ้ดเดียวจริง ๆ นะคะ คือ เอานิ้วชี้แห้ง ๆ จุ่มในเกลือครึ่งข้อ ติดแค่ไหน เอามาปัดใส่กระทะแค่นั้นจริง ๆ เพราะถ้าเย็นแล้วจะเค็มขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ โอ๊ย! อยากกินอีกจัง แต่ตอนนี้โลตัสเล็กแถวบ้านไม่เอามาวางหลายปีแล้วค่ะ ให้พนักงานสั่งให้ก็ไม่ได้เพราะตอนนี้ ของสั่งโดย AI ค่ะ ก็เลยไม่ได้กินประจำ ถ้าชีวิตนี้ไม่เคยกินแปะก๊วยมาก่อนเลย อย่าหักโหมกินนะคะ เริ่มวันละ 5 เม็ด 10 เม็ด ให้ร่างกายปรับตัวค่ะ คิด(เอาเอง)ว่า ที่สมัยก่อนเขาขายแพง เพราะนอกจากจะทำยากแล้ว คงเพราะถ้ากินเยอะจะเป็นผลเสียมากกว่าผลดี

-ชอบกินของหวาน
ถ้างดไม่ได้ ก็จะต้องกินสิ่งที่ช่วยลดการดูดซึมของน้ำตาล มีหลายอย่าง ลองค้นดูนะคะ ที่ตอนนี้กินทุกวันคือ น้ำเห็ดหลินจือแบบกล่องของดอยคำค่ะ กินตอนเช้าวันละกล่อง ช่วยเรื่องภูมิแพ้ได้ด้วย ถ้าวันไหนไปเจอสารก่อภูมิแพ้ เช่น กินปู ฮ่า ๆๆ ก็ต้องกินเพิ่มก่อนที่จะขึ้นเม็ดคันค่ะ ส่วนตัวคือ ถ้ากินแบบเม็ดต้องกินในปริมาณมากกว่า(เสียเงินมากกว่า) จึงจะได้ผลเท่ากันกับกินแบบน้ำค่ะ เห็ดอาจจะเข้ากับน้ำผึ้งแล้วได้ผลมากขึ้นหรือยังไงอันนี้ไม่เข้าใจเหมือนกันค่ะ สมุนไพรอื่น ๆ ที่เคยกินก็เช่นกัน เช่น ลูกใต้ใบ ขมมาก แต่เด็ดใบเอามาต้มน้ำกิน จะได้ผลดีกว่ากินแบบแคปซูลมาก แต่ยอมแพ้ค่ะ ขมขื่นคออยู่เป็นชั่วโมงกว่าจะหาย

ตอนนี้รู้จักร่างกายตัวเองดีขึ้น ก็ไม่ได้กินอะไรประจำแบบหักโหมอีก เมื่อเกิดอาการเตือน ค่อยกลับมากิน พอหาย ก็ขี้เกียจทำ ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีค่ะ ฮ่า ๆๆ นอกจากน้ำเห็ดหลินจือดอยคำ ที่กินทุกวันไม่ขาด และใส่วุ้นในอาหารทุกอย่างเท่าที่จะคิดได้ค่ะ

ย้ำอีกที บอกเพื่อนให้ไปหาหมอก่อนทำทุกสิ่งอย่างเลยนะคะ ถ้าดื้อ จับใส่รถขับพาไปเองเลยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่