สำหรับคนที่ต้องการหาข้อมูลการเรียน Ohap สาขา IC (International cuisine)
ขออนุญาติเขียนรีวิวการเรียน OHAP สาขา IC ย้ำว่าเหตุการ์ณที่เล่าเปนของสาขา IC
ค่าเรียนแบ่งเป็น 80,000 + 26,000 เท่ากับ 116,000 บาท
แบ่งเป็นค่าเทอม บวก ค่าอุปกรณ์และอื่นๆเช่น ซักรีด อาหารเป็นต้น ในหนึ่งเทอมหนึ่งสาขาจะมีนักเรียน 18 คน
การเรียนจะเรียนเป็นระยะเวลา 10 เดือน ตั้งแต่ กันยายน จนถึง กรกฎาคมในปีถัดไป โดยรูปแบบการเรียนจันทร์ถึงศุกร์ เข้าไปฝึกในครัวของทางโรงแรม 4 วัน และ เรียนทฤษฎี 1 วัน โดยการฝึกในครัวของโรงแรมนักเรียนต้อง วนทุก Outlet ของโรงแรมโดยจะได้ฝึกทุกครัว ประมานครัว 2-3 สัปดาห์ เช่น ห้องบุชเชอ ห้อง all day dinning, etc
ปัญหาที่อยากมาเล่าให้ฟังคือ
1. ตอนนี้เปนรุ่นที่มีการเปลี่ยนแปลงเยอะมาก คือ มีการเปลี่ยนเชฟผู้สอน โดยเอาเชฟที่เกษียณไปแล้วไม่ได้อยู่กับทางโรงแรมแล้วมาสอน เชฟอายุมากแล้ว คุมนักเรียนไม่อยู่ (ต้องยอมรับพอเราแก่ตัวลงสมองและอื่นๆจะแย่ลงตามลำดับ เชฟพูดไม่รู้เรื่อง) บวกกับตัวทางโรงเรียนที่เป็นเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจในการเรียนเพื่อเป็นกุ๊ก
2. การฝึกฝนครัว 2 สัปดาห์นั้น หรือประมาน 8 วัน แทบจะไม่ได้ประโยชน์อะไรในแต่ละครัวเลย เพราะ งานครัวเปนงานที่อาศัยได้ฝึกได้ทำเพื่อเพิ่มความสามารถ และยังต้องใช้เวลาปรับตัวเพื่อให้เข้าใจรูปแบบการทำงานของแต่ละครัว การฝึกแค่ 8 วัน ไม่สามารถเข้าถึงจุดประสงค์ตรงนั้น
3. การวัดผลที่ไร้ประสิทธิภาพ มีการสอบมิดเทอม แต่การสอบปฎิบัติ มีแค่การสอบสกิลการบุชเชอเป็นต้น เช่นแล่ปลา แล่ไก่ แต่เบสิคอาหารฝรั่ง เช่น สต็อค ซอส ซุป ไม่มีสอบปฎิบัติ มีแต่ทฤษฎี ซึ้งไม่มั่นใจเหมือนกันว่าทางโรงเรียนวางมาตรฐานความรู้ของนักเรียนไว้ยังไง
4. ทุกวันอังคารที่เรียนทฤษฎี เชฟผู้สอนวิชา Major (วิชาการปรุงอาหารนานาชาติ) อาจจะมีการสาธิตการทำอาหารที่เราเรียกกันติดปากว่า demonstrate ห้องครัวที่เดม่อนไม่ได้ออกแบบมาสำหรับการสาธิต นักเรียนมี 18 คน มีหัวเตาแก็ส 4 หัว ที่เหลือต้องใช้เตาแก๊สสนาม อุปกรณ์พวกเครื่องปั่นมือ ก็หมดสภาพ ที่ตลกสุดคือ เรียนอาหารนานาชาติ แต่ไม่มีเตาอบที่ไฟแรงพอสำหรับอบเนื้อสัตว์ในห้องได้ครับ
5. พี่ในครัวไม่ได้มีจิตวิญญานถ่ายทอดทุกคน ต้องเข้าใจว่าพี่ในครัวเค้าเป็นพนักงานมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ จะให้เค้ามาจับมือเราสอนอันนี้ยากหน่อย เพราะฉะนั้นใครไม่มีเบสิคมาเลย ก็อาจจะค้นพบว่ามันยากระดับนึง
สรุปใครที่มีใจรักอยากทำอาหารก็ลองอ่าน แล้วพิจารณาดูว่ามันมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ข้อดีมีไหมมันก็มี เช่น สถาบันมันมีชื่อเสียงมายาวนาน แต่ข้อเสียก็ยอมรับว่าทำให้เราและเพื่อนๆหมดไฟในการทำครัวไปเยอะเลย
ป.ล. ตอนนี้โดนวิกฤต ไวรัสโคโรน่าไปอีกไม่มีนักท่องเที่ยว ทำให้งานในครัวน้อยลง นักเรียนก็ยืนว่าง
Review โรงเรียนสอนทำอาหาร OHAP (IC)
ขออนุญาติเขียนรีวิวการเรียน OHAP สาขา IC ย้ำว่าเหตุการ์ณที่เล่าเปนของสาขา IC
ค่าเรียนแบ่งเป็น 80,000 + 26,000 เท่ากับ 116,000 บาท
แบ่งเป็นค่าเทอม บวก ค่าอุปกรณ์และอื่นๆเช่น ซักรีด อาหารเป็นต้น ในหนึ่งเทอมหนึ่งสาขาจะมีนักเรียน 18 คน
การเรียนจะเรียนเป็นระยะเวลา 10 เดือน ตั้งแต่ กันยายน จนถึง กรกฎาคมในปีถัดไป โดยรูปแบบการเรียนจันทร์ถึงศุกร์ เข้าไปฝึกในครัวของทางโรงแรม 4 วัน และ เรียนทฤษฎี 1 วัน โดยการฝึกในครัวของโรงแรมนักเรียนต้อง วนทุก Outlet ของโรงแรมโดยจะได้ฝึกทุกครัว ประมานครัว 2-3 สัปดาห์ เช่น ห้องบุชเชอ ห้อง all day dinning, etc
ปัญหาที่อยากมาเล่าให้ฟังคือ
1. ตอนนี้เปนรุ่นที่มีการเปลี่ยนแปลงเยอะมาก คือ มีการเปลี่ยนเชฟผู้สอน โดยเอาเชฟที่เกษียณไปแล้วไม่ได้อยู่กับทางโรงแรมแล้วมาสอน เชฟอายุมากแล้ว คุมนักเรียนไม่อยู่ (ต้องยอมรับพอเราแก่ตัวลงสมองและอื่นๆจะแย่ลงตามลำดับ เชฟพูดไม่รู้เรื่อง) บวกกับตัวทางโรงเรียนที่เป็นเจ้าหน้าที่ไม่ได้มีความรู้ความเข้าใจในการเรียนเพื่อเป็นกุ๊ก
2. การฝึกฝนครัว 2 สัปดาห์นั้น หรือประมาน 8 วัน แทบจะไม่ได้ประโยชน์อะไรในแต่ละครัวเลย เพราะ งานครัวเปนงานที่อาศัยได้ฝึกได้ทำเพื่อเพิ่มความสามารถ และยังต้องใช้เวลาปรับตัวเพื่อให้เข้าใจรูปแบบการทำงานของแต่ละครัว การฝึกแค่ 8 วัน ไม่สามารถเข้าถึงจุดประสงค์ตรงนั้น
3. การวัดผลที่ไร้ประสิทธิภาพ มีการสอบมิดเทอม แต่การสอบปฎิบัติ มีแค่การสอบสกิลการบุชเชอเป็นต้น เช่นแล่ปลา แล่ไก่ แต่เบสิคอาหารฝรั่ง เช่น สต็อค ซอส ซุป ไม่มีสอบปฎิบัติ มีแต่ทฤษฎี ซึ้งไม่มั่นใจเหมือนกันว่าทางโรงเรียนวางมาตรฐานความรู้ของนักเรียนไว้ยังไง
4. ทุกวันอังคารที่เรียนทฤษฎี เชฟผู้สอนวิชา Major (วิชาการปรุงอาหารนานาชาติ) อาจจะมีการสาธิตการทำอาหารที่เราเรียกกันติดปากว่า demonstrate ห้องครัวที่เดม่อนไม่ได้ออกแบบมาสำหรับการสาธิต นักเรียนมี 18 คน มีหัวเตาแก็ส 4 หัว ที่เหลือต้องใช้เตาแก๊สสนาม อุปกรณ์พวกเครื่องปั่นมือ ก็หมดสภาพ ที่ตลกสุดคือ เรียนอาหารนานาชาติ แต่ไม่มีเตาอบที่ไฟแรงพอสำหรับอบเนื้อสัตว์ในห้องได้ครับ
5. พี่ในครัวไม่ได้มีจิตวิญญานถ่ายทอดทุกคน ต้องเข้าใจว่าพี่ในครัวเค้าเป็นพนักงานมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบ จะให้เค้ามาจับมือเราสอนอันนี้ยากหน่อย เพราะฉะนั้นใครไม่มีเบสิคมาเลย ก็อาจจะค้นพบว่ามันยากระดับนึง
สรุปใครที่มีใจรักอยากทำอาหารก็ลองอ่าน แล้วพิจารณาดูว่ามันมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ข้อดีมีไหมมันก็มี เช่น สถาบันมันมีชื่อเสียงมายาวนาน แต่ข้อเสียก็ยอมรับว่าทำให้เราและเพื่อนๆหมดไฟในการทำครัวไปเยอะเลย
ป.ล. ตอนนี้โดนวิกฤต ไวรัสโคโรน่าไปอีกไม่มีนักท่องเที่ยว ทำให้งานในครัวน้อยลง นักเรียนก็ยืนว่าง