มีคำกล่าวคำหนึ่งว่า
"ที่ใดมีคนจีน ที่นั่นจะมีเสียงเพลงของ เติ้ง ลี่จวิน"
เสียงเพลงของ เติ้ง ลี่จวิน อยู่คู่กับคนจีนและคนเชื้อสายจีนทั่วโลก มานานแล้วกว่า 50 ปี และจนปัจจุบัน เพลงของเธอยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ไม่มีวันตาย แม้ว่า เติ้ง ลี่ จวิน จะเสียชีวิตไปแล้วกว่า 25 ปี
ส่วนตัวผมเอง ซึ่งชื่นชอบและหลงไหลในน้ำเสียงของ เติ้ง ลี่จวิน มีความตั้งใจมานานแล้วว่าถ้าวันไหนได้มีโอกาสมาจังหวัดเชียงใหม่ จะหาเวลาไปเยือนโรงแรมอิมพีเรียลแม่ปิง เพื่อขอชมสถานที่ประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักร้องเพลงจีนที่โด่งดังระดับโลกขวัญใจของคนจีน ญี่ปุ่น และคนเชื้อสายจีนจำนวนมากทั่วโลก ได้มาเสียชีวิตที่นี่
วันนี้ได้มีโอกาสมาเยือนจังหวัดเชียงใหม่ จึงสานฝันให้เป็นจริง ด้วยการมายังสถานที่แห่งนี้
มาถึงแล้ว ผมก็เพิ่งทราบเหมือนกันว่า ปัจจุบันโรงแรมอิมพีเรียลแม่ปิง อยู่ระหว่างปิดกิจการเพื่อรีโนเวทใหม่ (พนักงานบอกว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี ) แต่ก็ถือว่าโชคดี เพราะถึงแม้โรงแรมจะปิด แต่ยังคงเปิดให้แฟนๆเพลงของ เติ้ง ลี่จวิน ได้เข้าเยี่ยมชมห้องพักของเธอได้ตั้งแต่เวลา 14.00 - 17.30 น. ของทุกวัน
การเข้าชมห้องพักของ เติ้ง ลี่จวิน ไม่ได้เปิดให้เข้าชมฟรีๆนะครับ ต้องซื้อบัตรเข้าชม (เป็นโปสการ์ด) ท่านละ 600 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ ถ้าไม่ใช่แฟนพันธ์แท้จริงๆแล้วคงคิดหนักพอสมควร เพราะไม่ใช่เงินน้อยๆ แต่สำหรับคนที่เป็นแฟนเพลงของเติ้ง ลี่จวิน และอยากรำลึกถึงเธอคงเต็มใจที่จะจ่ายโดยไม่เสียดาย ( ช่วงที่โรงแรมยังเปิดบริการ จะมีตั๋วอีกราคานึงคือ 900 บาท จะมีห้องอาหาร น้ำชากับของว่างพร้อมนักร้องที่จะขับกล่อมเสียงเพลงของ เติ้ง ลี่จวิน ให้แขกได้ร่วมร้องเพลงของเธอด้วยกัน)
ก่อนจะมาที่นี่ ผมแอบคิดว่า เติ้ง ลี่จวิน ได้เสียชีวิตไปนานแล้ว 20 กว่าปี แฟนเพลงเธอส่วนใหญ่น่าจะเป็นผู้สูงอายุซึ่งคงจะเริ่มร่วงโรยไปตามวันเวลา ห้องพักของเธอซึ่งเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์คงไม่ค่อยมีคนสนใจเข้ามาเยี่ยมชมสักเท่าไหร่
แต่ปรากฏว่าผิดคาดครับ คุณเจี๊ยบ ซึ่งเป็นพนักงานต้อนรับที่พาผมพาทัวร์ห้องพัก ได้บอกกับผมว่า ผมโชคดีที่มาในช่วงนี้ที่กำลังเกิดโรคระบาดโคโรน่า ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหายไปเกือบหมด ปรกติแล้ว ทุกๆวันจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาเยี่ยมชมห้องพักที่นี่วันละไม่ต่ำว่า 300 คนทุกวัน !!!
คุณเจี๊ยบเล่าให้ผมฟังว่า บางวันที่พีคสุดๆ เคยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมวันเดียวพันกว่าคน เรียกว่าแน่นแทบไม่มีที่ยืนกันเลย
ก่อนเข้าไปยังห้องพักของ เติ้ง ลี่จวิน จะมีห้องนั่งฟังวิดิโอบรรยายประวัติความเป็นมาของเติ้ง ลี่จวินกับโรงแรมอิมพีเรียล ประมาณ 15 นาที
ห้องที่เติ้ง ลี่จวิน มาเช่าพักอยู่ประจำ คือชั้น 15 ห้อง 1502 ซึ่งเป็นห้องสวีทที่หรูที่สุด แพงที่สุด ของโรงแรม
แต่ละครั้งที่ เติ้ง ลี่จวิน มาพักที่นี่ จะใช้เวลาอยู่ประมาณ 1 เดือน ราคาในสมัยนั้น ( เกือบ 30 ปีก่อน ) ห้องสวีทห้องนี้ราคาคืนละ 10,000 บาท
หลังจากที่ เติ้ง ลี่จวิน ได้เสียชีวิตลง เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2538 ด้วยโรคหอบหืด ทางโรงแรมได้ปิดห้องนี้ เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก โดยยังคงข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างให้มีสภาพเหมือนเดิมทั้งหมด แต่คุณเจี๊ยบได้เล่าให้ผมฟังว่า ทางโรงแรมเคยเปิดให้แฟนเพลงชาวญี่ปุ่นคู่หนึ่งเข้าพักตามคำขอร้องโดยทางโรงแรมได้คิดราคาห้องคืนละ 35,000 บาท จากนั้นก็ไม่เคยเปิดให้ใครเข้าพักอีกเลยจวบจนถึงทุกวันนี้
สิ่งที่ผมรู้สึกทึ่งกับคำบอกเล่าของคุณเจี๊ยบ คือนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่กว่า 70 % ที่มาเยี่ยมชม ไม่ใช่ชาวไต้หวันที่เป็นประเทศบ้านเกิดของ เติ้ง ลี่จวิน แต่เป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งผมเดาเอาว่า อาจเป็นเพราะ ช่วงที่ เติ้ง ลี่จวินโด่งดังสุดขีดในเวลานั้น คนจีนแผ่นดินใหญ่ต่างเรียกร้องให้เธอมาเปิดการแสดงที่ประเทศจีน แต่ด้วยความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างจีนกับไต้หวันตอนนั้น และท่าที่ของเติ้ง ลี่จวินเอง ที่แสดงออกถึงความรักชาติอย่างมาก ทำให้เพลงของเธอถูกแบนในประเทศจีน ชาวจีนต้องหาซื้อแผ่นเพลงของเธอฟังในตลาดมืด และแอบเปิดฟังตอนกลางคืน จนมีคำกล่าวว่า เติ้ง เสี่ยวผิง ครองเมืองตอนกลางวัน แต่ เติ้ง ลี่จวิน ครองเมืองตอนกลางคืน
อาจจะเป็นเหตุนี้ก็เป็นได้ เมื่อยังมีชีวิตอยู่ คนจีนเหล่านั้นไม่มีโอกาสได้พบกับ เติ้ง ลี่จวิน ตัวเป็นๆ เมื่อมีโอกาสจึงอยากมาเยือนสถานที่สุดท้ายที่เธอมาใช้ชีวิตอยู่คือ โรงแรมอิมพีเรียลแม่ปิง จังหวัดเชียงใหม่ นี่เอง
คุณเจี๊ยบเล่าให้ฟังว่า อาทิตย์ก่อน มีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น สามีภรรยาคู่นึงมาเยี่ยมชม ระหว่างที่ฟังเธอเล่าให่ฟังถึงเรื่องราวของ เติ้ง ลี่จวิน ระหว่างที่พักอยู่ที่โรงแรม จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต ที่เธอร้องของความช่วยเหลือ ก่อนจะมาล้มฟุบที่หน้าลิฟต์ ทั้งคู่น้ำตาไหลพราก ด้วยความอาลัย จนเธอเองก็แทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ไปด้วย
ภาพส่วนใหญ่ในห้อง จะเป็นภาพช่วงที่ เติ้ง ลี่จวินมาพักที่โรงแรม ส่วนบางภาพสมัยสาวๆ เป็นภาพที่ทางโรงแรมได้ซื้อลิขสิทธิจากทางครอบครัวของเธอเพื่อมาจัดแสดงในห้องแห่งนี้ดวย
คุณเจี๊ยบเล่าให้ฟังว่า ตอนแรกที่ เติ้ง ลี่จวินมาเช็คอินที่โรงแรมแห่งนี้ ไม่มีใครรู้เลยว่า เธอคือราชินีเพลงจีนผู้โด่งดัง เพราะตอนเช็คอิน จะเป็นมิสเตอร์พอล แฟนหนุ่มชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ลงทะเบียน สมัยนั้น เทคโนโลยี่ การสื่อสารมันก็ไม่ได้ทันสมัยเหมือนสมัยนี้ อีกอย่างนึง เวลานั้น เติ้ง ลี่จวิน อายุก็ล่วงเข้า 42 ปีแล้ว ถ้าแฟนเพลงตอนนั้นจะนึกถึงหน้าของ เติ้ง ลี่จวิน ก็คงจะคิดถึงใบหน้าบนปกเทปสมัยสาวๆมากกว่า
จนกระทั่งวันหนึ่ง เติ้ง ลี่จวิน นั่งอยู่ในคอฟฟี่ชอปของโรงแรม เธอนึกสนุก อยากร้องเพลง เลยขอขึ้นไปร้องเพลงบนเวที เสียงของเธอสร้างความตกตะลึงไปทั่ว แขกทุกคนเหมือนตกอยู่ในมนต์สะกด แล้วก็มีแขกชาวญี่ปุ่นคนนึงจำได้ว่า เธอคือ เติ้ง ลี่จวิน สร้างความฮือฮาเป็นอันมาก ทุกคนในนั้นจึงได้รับรู้ในนาทีนั้นว่า นี่คือนักร้องซุปเปอร์สตาร์ตัวเป็นๆมาร้องเพลงให้ฟังตรงหน้า ( น่าอิจฉาจริงๆ)
ภาพที่เธอขึ้นไปร้องเพลงบนเวที
เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่าง ยังคงออริจินอล ยกเว้นโทรทัศน์ซึ่งเปลี่ยนเป็น จอแบน LED เพื่อเปิดเพลง เติ้ง ลี่จวิน คลอไประหว่างชมห้อง ( ความเห็นผม ถ้าเอาเครื่องเล่นแผ่นเสียงมาเปิดแทน น่าจะคลาสสิคกว่านี้ ยุคนี้กำลังกลับมานิยมด้วย )
ส่วนนี้คือห้องน้ำในห้องพัก จุดแรกที่เติ้ง ลี่จวิน หน้ามืดและหมดสติล้มลง ก่อนจะใส่เสื้อคลุมวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือจากพนักงานหน้าห้อง และเสียชีวิตในที่สุด
ผมถามคุณเจี๊ยบว่า โรงแรมปิดตัวเพื่อใช้เวลารีโนเวทถึง 2 ปี พนักงานหลายร้อยชีวิตคงจะลำบากแย่ แต่คำตอบที่ได้ฟังเล่นเอาผมถึงกับทึ่ง เพราะเธอบอกว่าเฮียเจ้าของโรงแรม ยังคงจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานทุกคน 250 กว่าชีวิตทุกๆเดือน จนกว่าโรงแรมจะเปิดบริการใหม่ ( แบบนี้ก็มีเหรอ ? ) ผมเลยถามว่า เจ้าของโรงแรมคือใครอะ ทำไมใจดีแบบนี้ คำตอบของเธอเล่นเอาผมถึงกับเงิบ เหมือนโง่ยังไงไม่รู้ที่ไม่ทราบว่า เจ้าของโรงแรมคือ คุณเจริญ เจ้าของเบียร์ช้าง มหาเศรษฐีระดับโลกนี่เอง
ผมจบทัวร์นี้ด้วยความอิ่มใจ ในฐานะแฟนเพลงของเติ้ง ลี่จวิน ( เปิดฟังทุกวันเวลาที่ขับรถ) ขอบคุณพนักงานคือคุณเจี๊ยบที่ได้ให้สาระและความรู้เกี่ยวกับ เรื่องราวของเติ้ง ลี่จวินกับโรงแรมแห่งนี้ ขอบคุณโรงแรมอิมพีเรียลแม่ปิง ที่ยังอนุรักษ์ห้องแห่งความทรงจำเอาไว้เหมือนเดิมทุกอย่าง ( มองมุมนึงอาจจะทำเพื่อการพาณิชย์ แต่มองอีกมุม ระดับเจ้าสัวไม่ต้องทำก็ได้ แต่เมื่อจะทำแล้ว ผมก็เข้าใจว่าทุกอย่างมันต้องมีต้นทุนในการดูแล บำรุงรักษา )
สุดท้าย ขอบคุณ เจ โชว์ ที่เนรมิต เติ้ง ลี่จวิน ให้กลับมามีชีวิตบนเวทีคอนเสริตน์ ด้วยเทคนิคพิเศษ เมื่อปี 2013 ดูแล้วน้ำตาจะไหล
แด่ เติ้ง ลี่จวิน นักร้องที่เสียงเพลงเป็นอมตะ ไม่มีวันตาย ตลอดกาล
เพลง เหอรื่อจวินไจ้ไหล ที่มีนักจัดรายการเพลงจีนท่านหนึ่งบอกว่า เป็นเพลงที่เธอรักที่สุด
# พาชมห้องแห่งความทรงจำ สถานที่แห่งลมหายใจสุดท้ายของราชินีเพลงจีน เติ้ง ลี่จวิน
"ที่ใดมีคนจีน ที่นั่นจะมีเสียงเพลงของ เติ้ง ลี่จวิน"
เสียงเพลงของ เติ้ง ลี่จวิน อยู่คู่กับคนจีนและคนเชื้อสายจีนทั่วโลก มานานแล้วกว่า 50 ปี และจนปัจจุบัน เพลงของเธอยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ไม่มีวันตาย แม้ว่า เติ้ง ลี่ จวิน จะเสียชีวิตไปแล้วกว่า 25 ปี
ส่วนตัวผมเอง ซึ่งชื่นชอบและหลงไหลในน้ำเสียงของ เติ้ง ลี่จวิน มีความตั้งใจมานานแล้วว่าถ้าวันไหนได้มีโอกาสมาจังหวัดเชียงใหม่ จะหาเวลาไปเยือนโรงแรมอิมพีเรียลแม่ปิง เพื่อขอชมสถานที่ประวัติศาสตร์ ซึ่งเป็นสถานที่ที่นักร้องเพลงจีนที่โด่งดังระดับโลกขวัญใจของคนจีน ญี่ปุ่น และคนเชื้อสายจีนจำนวนมากทั่วโลก ได้มาเสียชีวิตที่นี่
วันนี้ได้มีโอกาสมาเยือนจังหวัดเชียงใหม่ จึงสานฝันให้เป็นจริง ด้วยการมายังสถานที่แห่งนี้
มาถึงแล้ว ผมก็เพิ่งทราบเหมือนกันว่า ปัจจุบันโรงแรมอิมพีเรียลแม่ปิง อยู่ระหว่างปิดกิจการเพื่อรีโนเวทใหม่ (พนักงานบอกว่าน่าจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี ) แต่ก็ถือว่าโชคดี เพราะถึงแม้โรงแรมจะปิด แต่ยังคงเปิดให้แฟนๆเพลงของ เติ้ง ลี่จวิน ได้เข้าเยี่ยมชมห้องพักของเธอได้ตั้งแต่เวลา 14.00 - 17.30 น. ของทุกวัน
การเข้าชมห้องพักของ เติ้ง ลี่จวิน ไม่ได้เปิดให้เข้าชมฟรีๆนะครับ ต้องซื้อบัตรเข้าชม (เป็นโปสการ์ด) ท่านละ 600 บาท ซึ่งเงินจำนวนนี้ ถ้าไม่ใช่แฟนพันธ์แท้จริงๆแล้วคงคิดหนักพอสมควร เพราะไม่ใช่เงินน้อยๆ แต่สำหรับคนที่เป็นแฟนเพลงของเติ้ง ลี่จวิน และอยากรำลึกถึงเธอคงเต็มใจที่จะจ่ายโดยไม่เสียดาย ( ช่วงที่โรงแรมยังเปิดบริการ จะมีตั๋วอีกราคานึงคือ 900 บาท จะมีห้องอาหาร น้ำชากับของว่างพร้อมนักร้องที่จะขับกล่อมเสียงเพลงของ เติ้ง ลี่จวิน ให้แขกได้ร่วมร้องเพลงของเธอด้วยกัน)
ก่อนจะมาที่นี่ ผมแอบคิดว่า เติ้ง ลี่จวิน ได้เสียชีวิตไปนานแล้ว 20 กว่าปี แฟนเพลงเธอส่วนใหญ่น่าจะเป็นผู้สูงอายุซึ่งคงจะเริ่มร่วงโรยไปตามวันเวลา ห้องพักของเธอซึ่งเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์คงไม่ค่อยมีคนสนใจเข้ามาเยี่ยมชมสักเท่าไหร่
แต่ปรากฏว่าผิดคาดครับ คุณเจี๊ยบ ซึ่งเป็นพนักงานต้อนรับที่พาผมพาทัวร์ห้องพัก ได้บอกกับผมว่า ผมโชคดีที่มาในช่วงนี้ที่กำลังเกิดโรคระบาดโคโรน่า ทำให้นักท่องเที่ยวจีนหายไปเกือบหมด ปรกติแล้ว ทุกๆวันจะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาเยี่ยมชมห้องพักที่นี่วันละไม่ต่ำว่า 300 คนทุกวัน !!!
คุณเจี๊ยบเล่าให้ผมฟังว่า บางวันที่พีคสุดๆ เคยมีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมวันเดียวพันกว่าคน เรียกว่าแน่นแทบไม่มีที่ยืนกันเลย
ก่อนเข้าไปยังห้องพักของ เติ้ง ลี่จวิน จะมีห้องนั่งฟังวิดิโอบรรยายประวัติความเป็นมาของเติ้ง ลี่จวินกับโรงแรมอิมพีเรียล ประมาณ 15 นาที
ห้องที่เติ้ง ลี่จวิน มาเช่าพักอยู่ประจำ คือชั้น 15 ห้อง 1502 ซึ่งเป็นห้องสวีทที่หรูที่สุด แพงที่สุด ของโรงแรม
แต่ละครั้งที่ เติ้ง ลี่จวิน มาพักที่นี่ จะใช้เวลาอยู่ประมาณ 1 เดือน ราคาในสมัยนั้น ( เกือบ 30 ปีก่อน ) ห้องสวีทห้องนี้ราคาคืนละ 10,000 บาท
หลังจากที่ เติ้ง ลี่จวิน ได้เสียชีวิตลง เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2538 ด้วยโรคหอบหืด ทางโรงแรมได้ปิดห้องนี้ เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก โดยยังคงข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างให้มีสภาพเหมือนเดิมทั้งหมด แต่คุณเจี๊ยบได้เล่าให้ผมฟังว่า ทางโรงแรมเคยเปิดให้แฟนเพลงชาวญี่ปุ่นคู่หนึ่งเข้าพักตามคำขอร้องโดยทางโรงแรมได้คิดราคาห้องคืนละ 35,000 บาท จากนั้นก็ไม่เคยเปิดให้ใครเข้าพักอีกเลยจวบจนถึงทุกวันนี้
สิ่งที่ผมรู้สึกทึ่งกับคำบอกเล่าของคุณเจี๊ยบ คือนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่กว่า 70 % ที่มาเยี่ยมชม ไม่ใช่ชาวไต้หวันที่เป็นประเทศบ้านเกิดของ เติ้ง ลี่จวิน แต่เป็นชาวจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งผมเดาเอาว่า อาจเป็นเพราะ ช่วงที่ เติ้ง ลี่จวินโด่งดังสุดขีดในเวลานั้น คนจีนแผ่นดินใหญ่ต่างเรียกร้องให้เธอมาเปิดการแสดงที่ประเทศจีน แต่ด้วยความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างจีนกับไต้หวันตอนนั้น และท่าที่ของเติ้ง ลี่จวินเอง ที่แสดงออกถึงความรักชาติอย่างมาก ทำให้เพลงของเธอถูกแบนในประเทศจีน ชาวจีนต้องหาซื้อแผ่นเพลงของเธอฟังในตลาดมืด และแอบเปิดฟังตอนกลางคืน จนมีคำกล่าวว่า เติ้ง เสี่ยวผิง ครองเมืองตอนกลางวัน แต่ เติ้ง ลี่จวิน ครองเมืองตอนกลางคืน
อาจจะเป็นเหตุนี้ก็เป็นได้ เมื่อยังมีชีวิตอยู่ คนจีนเหล่านั้นไม่มีโอกาสได้พบกับ เติ้ง ลี่จวิน ตัวเป็นๆ เมื่อมีโอกาสจึงอยากมาเยือนสถานที่สุดท้ายที่เธอมาใช้ชีวิตอยู่คือ โรงแรมอิมพีเรียลแม่ปิง จังหวัดเชียงใหม่ นี่เอง
คุณเจี๊ยบเล่าให้ฟังว่า อาทิตย์ก่อน มีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น สามีภรรยาคู่นึงมาเยี่ยมชม ระหว่างที่ฟังเธอเล่าให่ฟังถึงเรื่องราวของ เติ้ง ลี่จวิน ระหว่างที่พักอยู่ที่โรงแรม จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต ที่เธอร้องของความช่วยเหลือ ก่อนจะมาล้มฟุบที่หน้าลิฟต์ ทั้งคู่น้ำตาไหลพราก ด้วยความอาลัย จนเธอเองก็แทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ไปด้วย
ภาพส่วนใหญ่ในห้อง จะเป็นภาพช่วงที่ เติ้ง ลี่จวินมาพักที่โรงแรม ส่วนบางภาพสมัยสาวๆ เป็นภาพที่ทางโรงแรมได้ซื้อลิขสิทธิจากทางครอบครัวของเธอเพื่อมาจัดแสดงในห้องแห่งนี้ดวย
คุณเจี๊ยบเล่าให้ฟังว่า ตอนแรกที่ เติ้ง ลี่จวินมาเช็คอินที่โรงแรมแห่งนี้ ไม่มีใครรู้เลยว่า เธอคือราชินีเพลงจีนผู้โด่งดัง เพราะตอนเช็คอิน จะเป็นมิสเตอร์พอล แฟนหนุ่มชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ลงทะเบียน สมัยนั้น เทคโนโลยี่ การสื่อสารมันก็ไม่ได้ทันสมัยเหมือนสมัยนี้ อีกอย่างนึง เวลานั้น เติ้ง ลี่จวิน อายุก็ล่วงเข้า 42 ปีแล้ว ถ้าแฟนเพลงตอนนั้นจะนึกถึงหน้าของ เติ้ง ลี่จวิน ก็คงจะคิดถึงใบหน้าบนปกเทปสมัยสาวๆมากกว่า
จนกระทั่งวันหนึ่ง เติ้ง ลี่จวิน นั่งอยู่ในคอฟฟี่ชอปของโรงแรม เธอนึกสนุก อยากร้องเพลง เลยขอขึ้นไปร้องเพลงบนเวที เสียงของเธอสร้างความตกตะลึงไปทั่ว แขกทุกคนเหมือนตกอยู่ในมนต์สะกด แล้วก็มีแขกชาวญี่ปุ่นคนนึงจำได้ว่า เธอคือ เติ้ง ลี่จวิน สร้างความฮือฮาเป็นอันมาก ทุกคนในนั้นจึงได้รับรู้ในนาทีนั้นว่า นี่คือนักร้องซุปเปอร์สตาร์ตัวเป็นๆมาร้องเพลงให้ฟังตรงหน้า ( น่าอิจฉาจริงๆ)
ภาพที่เธอขึ้นไปร้องเพลงบนเวที
เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่าง ยังคงออริจินอล ยกเว้นโทรทัศน์ซึ่งเปลี่ยนเป็น จอแบน LED เพื่อเปิดเพลง เติ้ง ลี่จวิน คลอไประหว่างชมห้อง ( ความเห็นผม ถ้าเอาเครื่องเล่นแผ่นเสียงมาเปิดแทน น่าจะคลาสสิคกว่านี้ ยุคนี้กำลังกลับมานิยมด้วย )
ส่วนนี้คือห้องน้ำในห้องพัก จุดแรกที่เติ้ง ลี่จวิน หน้ามืดและหมดสติล้มลง ก่อนจะใส่เสื้อคลุมวิ่งออกมาขอความช่วยเหลือจากพนักงานหน้าห้อง และเสียชีวิตในที่สุด
ผมถามคุณเจี๊ยบว่า โรงแรมปิดตัวเพื่อใช้เวลารีโนเวทถึง 2 ปี พนักงานหลายร้อยชีวิตคงจะลำบากแย่ แต่คำตอบที่ได้ฟังเล่นเอาผมถึงกับทึ่ง เพราะเธอบอกว่าเฮียเจ้าของโรงแรม ยังคงจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานทุกคน 250 กว่าชีวิตทุกๆเดือน จนกว่าโรงแรมจะเปิดบริการใหม่ ( แบบนี้ก็มีเหรอ ? ) ผมเลยถามว่า เจ้าของโรงแรมคือใครอะ ทำไมใจดีแบบนี้ คำตอบของเธอเล่นเอาผมถึงกับเงิบ เหมือนโง่ยังไงไม่รู้ที่ไม่ทราบว่า เจ้าของโรงแรมคือ คุณเจริญ เจ้าของเบียร์ช้าง มหาเศรษฐีระดับโลกนี่เอง
ผมจบทัวร์นี้ด้วยความอิ่มใจ ในฐานะแฟนเพลงของเติ้ง ลี่จวิน ( เปิดฟังทุกวันเวลาที่ขับรถ) ขอบคุณพนักงานคือคุณเจี๊ยบที่ได้ให้สาระและความรู้เกี่ยวกับ เรื่องราวของเติ้ง ลี่จวินกับโรงแรมแห่งนี้ ขอบคุณโรงแรมอิมพีเรียลแม่ปิง ที่ยังอนุรักษ์ห้องแห่งความทรงจำเอาไว้เหมือนเดิมทุกอย่าง ( มองมุมนึงอาจจะทำเพื่อการพาณิชย์ แต่มองอีกมุม ระดับเจ้าสัวไม่ต้องทำก็ได้ แต่เมื่อจะทำแล้ว ผมก็เข้าใจว่าทุกอย่างมันต้องมีต้นทุนในการดูแล บำรุงรักษา )
สุดท้าย ขอบคุณ เจ โชว์ ที่เนรมิต เติ้ง ลี่จวิน ให้กลับมามีชีวิตบนเวทีคอนเสริตน์ ด้วยเทคนิคพิเศษ เมื่อปี 2013 ดูแล้วน้ำตาจะไหล
แด่ เติ้ง ลี่จวิน นักร้องที่เสียงเพลงเป็นอมตะ ไม่มีวันตาย ตลอดกาล
เพลง เหอรื่อจวินไจ้ไหล ที่มีนักจัดรายการเพลงจีนท่านหนึ่งบอกว่า เป็นเพลงที่เธอรักที่สุด