คนไทยเข้าใจผิดกันจริงๆ ตามที่ คุณ  Febie  คห 5 บอก  เพราะที่ไทยไม่มีน้ำดื่มที่มีก๊าซขาย  ปกติน้ำดื่มมีก๊าซนั้นมันมีมาแล้วจากน้ำดื่มที่เป็นน้ำแร่มาจากแหล่งธรรมชาติบางแหล่งที่อยู่ใกล้ภูเขาไฟ   แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติที่ไม่มีก๊าซ   การทำตลาดจึงมาใส่ก๊าซเพิ่มเข้าไปเองในภายหลัง

คำว่า "น้ำโซดา"  ที่ไทยใช้เรียกนั้นแท้จริงแล้วความหมายและขนิดของน้ำเป็นอย่างอื่นไม่ใช่ความหมายอย่างที่ใช้ในยุโรป     น้ำดื่มมีก๊าซมีหลายคำที่ใช้  ได้แก่  tonic water, mineral water, carbonated water, และ  sparkling water

tonic water  นี่แยกออกไปชัดเจนเลยเพราะจะมีรสขื่นหน่อยจากการใส่ควินิน    แต่เมื่อพูดถึงน้ำที่ใส่  carbon dioxide  ที่ขายเป็นน้ำดื่มในยุโรปนั้น   จริงๆ แล้วคือน้ำดื่ม  mineral water หรือ น้ำดื่มบรรจุขวดอุตสาหกรรม นั่นเอง   ทุกยี่ห้อจะมีให้เลือกชนิด  ธรรมดา หรือ neutral, natural, still  คือน้ำดื่มที่ไม่ใส่ก๊าซ     หรือจะเลือกแบบ  medium  หรือ light  นั่นคือใส่ก๊าซ  CO2  เข้าไปมากหรือน้อย  อาจจะเรียกว่า  fizzy water, carbonated water, sparkling water ก็ได้    ที่ดื่มกันอยู่คือแบบนี้เท่านั้น

ส่วนที่เรียกว่า  soda water  หรือ club soda   หรือ Seltzer   ทึ่ขายในกระป๋องหรือขวดเล็กจิ๋วขนาด 0.2 ลิตร นั้นจะใส่เกลือแร่เข้าไปเพิ่มเป็นพิเศษอีก  ได้แก่ bicarbonate, potassium sulfate  จะมีรสชาติแปร่งเล็กน้อยและจะให้ความรู้สึกสดชื่น  จึงเหมาะที่จะใช้เป็น   mixer  ในเ cocktail  drinks  ต่างๆ

ที่คนไทยเอาไปผสมมะนาวหรืออะไรก็ตามคือ  น้ำโซดาสำหรับใช้เป็น mixer นี่เอง   ไม่ใช่ที่ยุโรปดื่มน้ำแร่ที่ใส่ก๊าซเป็นน้ำดื่มประจำวันปกติ   คะละชนิดกัน

เพียงแต่ว่าเมื่อฝรั่งนักท่องเที่ยวไปไทยซึ่งไม่มีน้ำดื่มที่อัดก๊าซขาย  แต่ดื่มจนติดความซ่าจนเคยชินหรือไม่ก็อาจจะเพราะไม่มั่นใจในคุณภาพน้ำดิ่มของไทย    ก็เลยต้องซื้อ soda mixer  ทึ่ขายเป็นกระป๋องที่ไทยมาดื่มแทน

รูปถ่ายน้ำดื่ม   mineral water  หรือน้ำแร่ที่มีก๊าซที่มีอยู่ที่บ้าน คือ Vilsa   ส่วนน้ำแร่  Volvic  เป็นแบบ still water ธรรมดา   กับ   soda water  ของ  Thomas Henry  ขนาด 0.2  ลิตรมาเปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่าง