ขึ้นศาล KTC ครั้งแรก เข็ดแล้ว พอแล้วกับ KTC

วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ขึ้นศาลครั้งแรกกับ KTC หลังจากนอนเตรียมตัว และเครียดมาหลายเดือน ขอบอกว่าไปศาลคนเดียวไม่มีใครไปเป็นเพื่อนนะครับ พอไปถึงก็ถามสิ ต่อตรงไหน เจ้าหน้าที่บอก KTC ไปบัลลัง 2 เลยค่ะ ในใจคิดเอาแล้วสิ บัลลัง? มันจะต้องเหมือนในละครแน่ๆ ก็ไม่เป็นไรก็เดินขึ้นไปจนถึงห้อง ก็เห็นคนเดินไปมา เราก็ไปตรวจสอบรายชื่อหน้าห้อง ก็ไม่มีชื่อ เลยถามเจ้าหน้าที่หรือทนาย ไม่แน่ใจ เลยบอกว่าเข้าไปข้างในเลยค่ะ พอเปิดห้องเข้าไป คนก็เยอะนะประมาณ 20 กว่าคน รวม จนท. ตอนแรกในใจคิดต้องอายแน่ๆ แต่พอเข้าไปก็เฉยๆ เจ้าหน้าที่ก็ถามชื่อ แล้วก็เอาไปสัญญา 5 ใบมาพูดให้เราฟัง และให้เราเซ็นต์ ประมาณว่าต้องทำเวลา พออธิบายเสร็จให้เราเซ็นต์เลย เรานึกในใจอ้าว ที่ดูข้อมูลมามันต้องไปคุยเจรจากันก่อนไม่ใช่หรอทำไมนี่มาถึงก็พูดๆๆ แล้วให้เซ็นต์ ก็เลยถามออกไปว่า เดี๋ยวครับ คือจะไม่ถามอะไรบ้างเลยหรอครับ จนก.ก็ถามว่าถามอะไรค่ะ เราก็พูดไปว่า ที่ให้เซ็นต์ๆๆ เนี่ย ไม่ถามผมหน่อยหรอ ว่าเป็นอะไรมา มีปัญหาด้านไหน เราก็ออกตัวไปก่อนว่า ขอเจรจาได้มั้ย ขอประนอมได้มั้ย อย่างเช่นลดดอกเบี้ยให้หน่อย หรือขอให้ยอดผ่อนน้อยกว่านี้หน่อย จนท.ก็อ้างแต่ มันเป็นข้อกำหนดของทางธนาคารค่ะ ถ้าไม่เซ็นต์คือก็ต้องถูกบังคับคดีอย่างเดียว เราก็อธิบายไป หนี้มันก็ไม่ได้เยอะ เท่าไร 4 หมื่น 5 รวมดอก แต่ผมต้องจ่ายหลายใบ ลองคำนวนดูแล้วมันหนักไป เค้าเสนอผ่อนเดือนละ 1,500 รวม 33 งวด ดอก 10% ถ้ามีบัตรเดียวไหวมาก ชิวๆ  พูดยังไงก็ไม่ยอม ให้เราเลือกแค่ 2 ทาง เซ็นต์ กับ ยอมบังคับคดี ในใจก็เริ่มเครียดแล้ว เพราะทำอะไรไม่ได้ อ้างแต่เงื่อนไขธนาคาร ใครเข้าไปก็หน้าเซ็งๆ กันทุกคน ทำไงได้ล่ะ ก้มหน้ารับกรรมไป เราเป็นหนี้เรารู้หน้าที่ว่ายังไงก็ต้องจ่าย ถึงไม่ยอมลดให้แต่อย่างน้อยก็น่าจะเห็นใจกันบ้าง อย่างน้อยก็น่าจะรับฟังปัญญหาบ้าง ว่าเราต้องส่งหลายบัตร ก็น่าจะให้จ่ายต่องวดน้อยลง หรือขยายเวลาผ่อนให้นานกว่านี้หน่อย หรือไม่ต้องคิดดอกเบี้ยเพิ่ม นี่ลองคำนวนดูต้นแต่ 4 หมื่น แต่คำนวนดอกเบี้ยเข้าไปก็เกือบๆ 5 หมื่น เอาจริงๆ คือเข็ดหลาบแล้วกับ KTC ไม่แคร์ ไม่สนใดๆ ไม่มีอะลุ่มอะหล่วยใดๆ กฎก็คือกฎ ไม่สนความเป็นอยู่ สวัสดิ์ภาพความเป็นอยู่ ว่าเราจะต้องรับภาระอะไรบ้าง ครอบครัวต่างๆ นาๆ ตอนอยากได้ยอดบัตร ก็อ้อนต่างๆ นาๆ เราก็ช่วยทำไป สุดท้ายเจ็บสุดๆ ลาก่อน KTC อย่าได้พบเจอกันอีกเลย มีเพื่อน มีคนรู้จัก ก็จะไม่แนะนำอย่างเด็ดขาด ขอบคุณนะครับที่อ่านจนจบ ขอเป็นกำลังใจให้ลูกหนี้ทุกคนนะครับ เราต้องผ่านมันไปให้ได้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ว่าเค้าไม่เห็นใจคุณ และเวลาคุณไม่จ่ายเห็นใจเค้าบ้างหรือเปล่าครับ ต้องเข้าใจบริษัทแสวงหาผลกำไรไม่ใช่องค์กรการกุศล ก่อนจะมีก่อนจะใช้ต้องคิดให้ดี จะหาว่าโดนเกลี่ยกล่อมให้ทำก็ไม่ใช่เพราะเราสามารถปฏิเสธได้ครับ
ความคิดเห็นที่ 5
คุณเขียนว่าทาง KTC อยากได้ยอดบัตร พอช่วยก็ทำแล้วมีปัญหาชำระกลับโทษ KTC อย่างนี้ผมว่าคนจะเห็นใจน้อยลงนะครับ คนที่ทำบัตรเพราะอยากช่วยพนักงาน ได้บัตรแล้วไม่ใช้ หรือใช้บัตรก็ควบคุมค่าใช้จ่ายได้มันก็เป็นประโยชน์ทั้งสองฝ่าย การใช้บัตรเครดิตแล้วมีปัญหาในการชำระหนี้หลักๆแล้วต้องโทษการวางแผนของผู้ใช้บัตร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่