#รู้ลึกกับโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 กับความจริง 20 ประการ ของ#โรคปอดบวมอู่ฮั่น หรือ #โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019
1 โคโรนาเป็นไวรัสขนาดใหญ่และกลุ่มใหญ่ ดูด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน จะมีรูปร่างคล้ายกับมงกุฎจึงเรียกว่าโคโรน่าไวรัส พบได้ทั้งในคนและสัตว์
2 โคโรนาไวรัสที่เกิดโรคในคน แต่เดิมมี 6 ชนิด เป็นสายพันธุ์ที่พบแบบดั้งเดิม แล้วมี 4 ชนิด และอุบัติใหม่ทำให้เกิดเป็นโรคทางเดินหายใจอักเสบแบบเฉียบพลัน คือ Sars และMars
3 โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หรือโรคปอดบวมอู่ฮั่น อุบัติใหม่ที่เมืองอู่ฮั่นประเทศจีน ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2019 และวินิจฉัยได้หลังปีใหม่ ถอดรหัสพันธุกรรมสำเร็จ ในวันที่ 11 มกราคม 2020
4 จุดกำเหนิดของโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ผู้ป่วยกลุ่มแรกที่พบ ส่วนใหญ่มีแหล่งสัมผัสจากตลาดสด ที่มีการขายอาหารทะเล และสัตว์มีชีวิต
5 โคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ เช่นเดียวกันกับไวรัสที่ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจอักเสบ มีได้ทั้งแบบไม่มีอาการ มีอาการทางเดินหายใจอักเสบแบบเฉียบพลัน จนไปถึงปอดบวม และเกิดโรคแทรกซ้อน
6 ระยะฟักตัวของโรค ที่ประมาณ 2 -7 วัน และมีการเฝ้าสังเกตอาการหลังสัมผัสโรค นานถึง 2 เท่าคือ 14วัน
7 อาการที่ต้องสงสัยคือ ผู้ที่มาจากแหล่งระบาดของโรค จะมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หายใจลำบาก
8 โรคนี้สามารถติดต่อระหว่างคน สู่คนได้ จึงเกิดการแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว
9 การยืนยันผลการวินิจฉัย จำเป็นต้องใช้การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจหาพันธุกรรมของไวรัส
10 ความรุนแรงของโรคไวรัสโคโรนา จะมีความรุนแรงน้อยกว่า Sars และMers
11 ความรุนแรงของโรคน้อยกว่า ดังนั้นผู้ที่ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ จึงสามารถเดินทางไปได้ไกล และสามารถแพร่เชื้อโรคได้ จึงทำให้เกิดการระบาดในวงกว้าง และทั่วโลก
12 เช่นเดียวกับโรคระบาดทั่วไป การกระจายของโรคจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค และอำนาจในการกระจายโรค โรคที่มีความรุนแรงน้อยกว่า จะกระจายได้มากกว่า
3 เมื่อเป็นโรคใหม่นี้ ทุกคนจะไม่มีภูมิต้านทาน จึงมีสิทธิ์ที่จะติดเชื้อได้ทุกคนถ้าสัมผัสกับโรค
14 ในการระบาดของโรค โรคจะหยุดเมื่อมีการติดเชื้อไปจำนวนหนึ่ง
15 ในปัจจุบันยังไม่มียารักษา และวัคซีนป้องกัน
16 การป้องกันที่ดีสุดคือ เลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย,ล้างมือให้สะอาด
17 การเดินสวนกันไป-มา ไม่ทำให้ติดโรค
18 ผู้ป่วยที่เป็นโรคทางเดินหายใจทุกราย ควรใส่หน้ากากอนามัยป้องกันทุกครั้ง
19 ในภาวะปกติที่โรคไม่ระบาด ควรดำเนินชีวิตตามปกติทั่วไป เช่น ออกกำลังกาย และ นอนหลับพักผ่อน 20 การเสพสื่อควรใช้ความรอบครอบ ก่อนที่จะแชร์หรือส่งต่อออกไป
ขอขอบคุณข้อมูล:
#CR.ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต และหัวหน้าศูนย์ เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิค ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย
#ไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 ( 20 ความจริง)
1 โคโรนาเป็นไวรัสขนาดใหญ่และกลุ่มใหญ่ ดูด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน จะมีรูปร่างคล้ายกับมงกุฎจึงเรียกว่าโคโรน่าไวรัส พบได้ทั้งในคนและสัตว์
2 โคโรนาไวรัสที่เกิดโรคในคน แต่เดิมมี 6 ชนิด เป็นสายพันธุ์ที่พบแบบดั้งเดิม แล้วมี 4 ชนิด และอุบัติใหม่ทำให้เกิดเป็นโรคทางเดินหายใจอักเสบแบบเฉียบพลัน คือ Sars และMars
3 โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หรือโรคปอดบวมอู่ฮั่น อุบัติใหม่ที่เมืองอู่ฮั่นประเทศจีน ตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2019 และวินิจฉัยได้หลังปีใหม่ ถอดรหัสพันธุกรรมสำเร็จ ในวันที่ 11 มกราคม 2020
4 จุดกำเหนิดของโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ผู้ป่วยกลุ่มแรกที่พบ ส่วนใหญ่มีแหล่งสัมผัสจากตลาดสด ที่มีการขายอาหารทะเล และสัตว์มีชีวิต
5 โคโรนาไวรัส สายพันธุ์ใหม่ เช่นเดียวกันกับไวรัสที่ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจอักเสบ มีได้ทั้งแบบไม่มีอาการ มีอาการทางเดินหายใจอักเสบแบบเฉียบพลัน จนไปถึงปอดบวม และเกิดโรคแทรกซ้อน
6 ระยะฟักตัวของโรค ที่ประมาณ 2 -7 วัน และมีการเฝ้าสังเกตอาการหลังสัมผัสโรค นานถึง 2 เท่าคือ 14วัน
7 อาการที่ต้องสงสัยคือ ผู้ที่มาจากแหล่งระบาดของโรค จะมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หายใจลำบาก
8 โรคนี้สามารถติดต่อระหว่างคน สู่คนได้ จึงเกิดการแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว
9 การยืนยันผลการวินิจฉัย จำเป็นต้องใช้การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจหาพันธุกรรมของไวรัส
10 ความรุนแรงของโรคไวรัสโคโรนา จะมีความรุนแรงน้อยกว่า Sars และMers
11 ความรุนแรงของโรคน้อยกว่า ดังนั้นผู้ที่ติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ จึงสามารถเดินทางไปได้ไกล และสามารถแพร่เชื้อโรคได้ จึงทำให้เกิดการระบาดในวงกว้าง และทั่วโลก
12 เช่นเดียวกับโรคระบาดทั่วไป การกระจายของโรคจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค และอำนาจในการกระจายโรค โรคที่มีความรุนแรงน้อยกว่า จะกระจายได้มากกว่า
3 เมื่อเป็นโรคใหม่นี้ ทุกคนจะไม่มีภูมิต้านทาน จึงมีสิทธิ์ที่จะติดเชื้อได้ทุกคนถ้าสัมผัสกับโรค
14 ในการระบาดของโรค โรคจะหยุดเมื่อมีการติดเชื้อไปจำนวนหนึ่ง
15 ในปัจจุบันยังไม่มียารักษา และวัคซีนป้องกัน
16 การป้องกันที่ดีสุดคือ เลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย,ล้างมือให้สะอาด
17 การเดินสวนกันไป-มา ไม่ทำให้ติดโรค
18 ผู้ป่วยที่เป็นโรคทางเดินหายใจทุกราย ควรใส่หน้ากากอนามัยป้องกันทุกครั้ง
19 ในภาวะปกติที่โรคไม่ระบาด ควรดำเนินชีวิตตามปกติทั่วไป เช่น ออกกำลังกาย และ นอนหลับพักผ่อน 20 การเสพสื่อควรใช้ความรอบครอบ ก่อนที่จะแชร์หรือส่งต่อออกไป
ขอขอบคุณข้อมูล:
#CR.ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต และหัวหน้าศูนย์ เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิค ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย