ชอบดูหนังเหมือนคนแถวๆนี้ครับ อ่านรึวิวคนอื่นมาก็เยอะเลยลองรีวิวกับเค้าบ้าง เห็นอะไรบางอย่างในหนังที่ดูก็เลยจะเอามาลองเล่าให้ฟังกัน ออกตัวก่อน จขกท เป็นคนที่ชอบดูเฉยๆไม่ได้มีความรู้พิเศษด้านการผลิตภาพยนต์แต่อย่างใด
เรื่องแรก 1917 มหาสงครามข้ามทุ่ง
เห็นตัวอย่างเห็นรีวิวแล้วคาดหวังไว้เยอะ ในใจคิดว่าต้องเป็นหนังฟอร์มยักษ์เทียบชั้น saving private ryan แน่ๆ หนังมีดีที่การถ่ายเป็นช็อตยาวๆไปเลยที่เดียว มุมกล้องเกาะไปกับตัวละครหลักของเรื่องคล้ายๆมุมภาพในเกมยิง fps อะไรทำนองนั้น หนังเป็นเรื่องราวของ 2 ทหารหนุ่มที่ได้รับหมอบหมายหน้าที่ด่วนพิเศษให้นำจดหมายไปให้นายพลท่านหนึ่งเพื่อช่วยเหลือกองทหารจำนวน 1600 ชีวิตรวมทั้งพี่ชายของผู้นำสาส์นเองด้วย ด้วยเวลาที่จำกัดทั้งของตัวละครหลักทั้งสองและการถ่ายทำแบบ long take ทุกอย่างจึงแคบ ส่วนหนึ่งของเรื่องก็จะอยู่ในสนามเพลาะไม่ก็ที่ตัวเอกที่ 2 คนซะเป็นส่วนใหญ่
หนังเดินเรื่องไปอย่างรวดเร็วรีบไปรีบมารีบถ่ายทำ ฉะนั้นคุณจะไม่ได้เห็นเห็นฉากพิเศษสุดตราตรึง อย่างการยกพลขี้นบกสุดอลังการ การเล็งยิงแบบเท่ๆพร้อมบทสวดของพลแม่นปืน หรือฉากปักมีดลงบนอกศัตรูช้าๆแบบใน saving private ryan แบบว่าหนังคนละฟอร์มกันแต่หนังก็ทำได้น่าติดตามให้เราคอยลุ้นเอาใจช่วย 2 ตัวละครให้ไปถึงจุดหมายจากสนามเพลาะหนึ่งไปยังสนามเพลาะอีกแห่งได้อย่างปลอดภัย หนังสนุกดีครับการถ่ายทำที่เคลมไว้เอาเข้าจริงก็สนใจอยู่พักนึงหลังๆก็หันมาเอาใจช่วย 2 ทหารหนุ่มจนลืมดูมุมกล้องไปเลย...
เรื่องต่อมา Ready or Not เจ้าสาวพันธุ์อึด
หนังนอกสายตาผมที่ดูจากภาพโปรโมทคงไม่เท่าไรแต่พอได้ดูถึงกับร้อง"ว้าว"ในใจ เริ่มตั้งแต่ดนตรีประกอบตั้งแต่เสียงแรกโผล่ก็โดนแล้ว หนังเป็นหนังที่เชิงสูงทั้ง มุมกล้อง ภาพ ดนตรี ตัวหนังสือ การเล่าเรื่อง การหน่วงเวลา ตลกร้าย การเล่าเรื่องเป็นไปตามครรลองของหนังฮอลลีวู้ดที่เราพบเห็นบ่อยคือสปอยตัวเองตั้งแต่ฉากแรก เล่าว่าเกิดอะไรขี้นเป็นน้ำจิ้มก่อนจะตามมาด้วยไก่ย่างหอมกรุ่นชิ้นโต
หนังเป็นเรื่องของเจ้าสาวที่อยู่ผิดที่ผิดทางในบ้านประหลาดหลังหนึ่งทั้งคืน ตัวหนังมีหักมุมเกี่ยวกับตัวละครที่หลอกลวงหรือดีเลวที่จากเกิดจากผลพวงของสภาพจิตใจจากสิ่งที่ได้รับเมื่อครั้งอดีต ตัวหนังค่อยๆเล่าเรื่องอย่างมีชั้นเชิงผ่านมุมมองของตัวเจ้าสาว ซึ่งหนังหน่วงไว้อยู่นาน แทนที่ตัวละครจะได้เล่าให้กันฟังแล้วคนดูก็จะได้รู้ด้วย แต่จนแล้วจนรอดก็ปล่อยให้ตัวเจ้าสาวเห็นกับตาตัวเองพร้อมกับท่านผู้ชม ว้าว! ในส่วนดนตรีประกอบ และนักแสดงหลักๆก็ทำได้ดีมากแม้ตัวประกอบที่ดูจะเพี้ยนๆไปหน่อยแต่ก็เป็นไปตามความเพี้ยนของตัวหนัง... เกือบพลาดของดีซะแล้ว
เรื่องสุดท้าย underwater ปมนรกสุดขั้ว
เป็นหนังที่ผมเกือบมองข้ามอีกเรื่อง ก็น่าจะแค่หนังเอาตัวรอดธรรมดา แต่หนังทำได้ลุ้นระทึกทีเดียวแม้ชั้นเชิงจะไม่เท่าเรื่องที่สอง หนังไม่ลุ้นอยู่ฉากเดียวก็แค่ตอนที่นางเอกแปรงฟันแค่นั้นหลังจากนั้นต้องลุ้นระทึกคอยเอาใจช่วยกันทั้งเรื่อง หนังเป็นเรื่องราวของพนักงานแท่นขุดเจาะใต้น้ำที่ต้องมาเจอเรื่องพิลึกกึกกือเอาชีวิตกันเกือบไม่รอด หนังไม่มีอะไรก็แค่วิ่งและวิ่งไปข้างหน้าอย่าหยุด ดูแล้วสนุกดี หนังเป็นไปตามครรลองของหนังเอาชีวิตรอดแล้วนี้ คือตัวเอกต้องมีปมและไอ้มืดต้องตายก่อน แอบสปอย...
อย่าลืมลองไปหาชมกันนะครับ
แนะนำหนังเอาตัวรอดสนุกๆเอาไว้ดูในวันหยุดกันครับ 3 เรื่องควบ
เรื่องแรก 1917 มหาสงครามข้ามทุ่ง
เห็นตัวอย่างเห็นรีวิวแล้วคาดหวังไว้เยอะ ในใจคิดว่าต้องเป็นหนังฟอร์มยักษ์เทียบชั้น saving private ryan แน่ๆ หนังมีดีที่การถ่ายเป็นช็อตยาวๆไปเลยที่เดียว มุมกล้องเกาะไปกับตัวละครหลักของเรื่องคล้ายๆมุมภาพในเกมยิง fps อะไรทำนองนั้น หนังเป็นเรื่องราวของ 2 ทหารหนุ่มที่ได้รับหมอบหมายหน้าที่ด่วนพิเศษให้นำจดหมายไปให้นายพลท่านหนึ่งเพื่อช่วยเหลือกองทหารจำนวน 1600 ชีวิตรวมทั้งพี่ชายของผู้นำสาส์นเองด้วย ด้วยเวลาที่จำกัดทั้งของตัวละครหลักทั้งสองและการถ่ายทำแบบ long take ทุกอย่างจึงแคบ ส่วนหนึ่งของเรื่องก็จะอยู่ในสนามเพลาะไม่ก็ที่ตัวเอกที่ 2 คนซะเป็นส่วนใหญ่
หนังเดินเรื่องไปอย่างรวดเร็วรีบไปรีบมารีบถ่ายทำ ฉะนั้นคุณจะไม่ได้เห็นเห็นฉากพิเศษสุดตราตรึง อย่างการยกพลขี้นบกสุดอลังการ การเล็งยิงแบบเท่ๆพร้อมบทสวดของพลแม่นปืน หรือฉากปักมีดลงบนอกศัตรูช้าๆแบบใน saving private ryan แบบว่าหนังคนละฟอร์มกันแต่หนังก็ทำได้น่าติดตามให้เราคอยลุ้นเอาใจช่วย 2 ตัวละครให้ไปถึงจุดหมายจากสนามเพลาะหนึ่งไปยังสนามเพลาะอีกแห่งได้อย่างปลอดภัย หนังสนุกดีครับการถ่ายทำที่เคลมไว้เอาเข้าจริงก็สนใจอยู่พักนึงหลังๆก็หันมาเอาใจช่วย 2 ทหารหนุ่มจนลืมดูมุมกล้องไปเลย...
เรื่องต่อมา Ready or Not เจ้าสาวพันธุ์อึด
หนังนอกสายตาผมที่ดูจากภาพโปรโมทคงไม่เท่าไรแต่พอได้ดูถึงกับร้อง"ว้าว"ในใจ เริ่มตั้งแต่ดนตรีประกอบตั้งแต่เสียงแรกโผล่ก็โดนแล้ว หนังเป็นหนังที่เชิงสูงทั้ง มุมกล้อง ภาพ ดนตรี ตัวหนังสือ การเล่าเรื่อง การหน่วงเวลา ตลกร้าย การเล่าเรื่องเป็นไปตามครรลองของหนังฮอลลีวู้ดที่เราพบเห็นบ่อยคือสปอยตัวเองตั้งแต่ฉากแรก เล่าว่าเกิดอะไรขี้นเป็นน้ำจิ้มก่อนจะตามมาด้วยไก่ย่างหอมกรุ่นชิ้นโต
หนังเป็นเรื่องของเจ้าสาวที่อยู่ผิดที่ผิดทางในบ้านประหลาดหลังหนึ่งทั้งคืน ตัวหนังมีหักมุมเกี่ยวกับตัวละครที่หลอกลวงหรือดีเลวที่จากเกิดจากผลพวงของสภาพจิตใจจากสิ่งที่ได้รับเมื่อครั้งอดีต ตัวหนังค่อยๆเล่าเรื่องอย่างมีชั้นเชิงผ่านมุมมองของตัวเจ้าสาว ซึ่งหนังหน่วงไว้อยู่นาน แทนที่ตัวละครจะได้เล่าให้กันฟังแล้วคนดูก็จะได้รู้ด้วย แต่จนแล้วจนรอดก็ปล่อยให้ตัวเจ้าสาวเห็นกับตาตัวเองพร้อมกับท่านผู้ชม ว้าว! ในส่วนดนตรีประกอบ และนักแสดงหลักๆก็ทำได้ดีมากแม้ตัวประกอบที่ดูจะเพี้ยนๆไปหน่อยแต่ก็เป็นไปตามความเพี้ยนของตัวหนัง... เกือบพลาดของดีซะแล้ว
เรื่องสุดท้าย underwater ปมนรกสุดขั้ว
เป็นหนังที่ผมเกือบมองข้ามอีกเรื่อง ก็น่าจะแค่หนังเอาตัวรอดธรรมดา แต่หนังทำได้ลุ้นระทึกทีเดียวแม้ชั้นเชิงจะไม่เท่าเรื่องที่สอง หนังไม่ลุ้นอยู่ฉากเดียวก็แค่ตอนที่นางเอกแปรงฟันแค่นั้นหลังจากนั้นต้องลุ้นระทึกคอยเอาใจช่วยกันทั้งเรื่อง หนังเป็นเรื่องราวของพนักงานแท่นขุดเจาะใต้น้ำที่ต้องมาเจอเรื่องพิลึกกึกกือเอาชีวิตกันเกือบไม่รอด หนังไม่มีอะไรก็แค่วิ่งและวิ่งไปข้างหน้าอย่าหยุด ดูแล้วสนุกดี หนังเป็นไปตามครรลองของหนังเอาชีวิตรอดแล้วนี้ คือตัวเอกต้องมีปมและไอ้มืดต้องตายก่อน แอบสปอย...
อย่าลืมลองไปหาชมกันนะครับ