"พี่เราจะไปทำไรกันวะเนี่ยที่อินเดีย.."
เป็นคำพูดตอนเที่ยงคืนก่อนจะบินไปอินเดียตอน 8โมงเช้า
ปกติจะดูแต่คลิปท่องเที่ยวอินเดีย สารคดีอินเดีย เพราะอะไร..
เพราะคิดตลอดว่า คงไม่กล้าไปโดนเอง ทำไมมันอิ๊ขนาดนั้น
เลยได้แต่นั่งดู โดนสะกดจิตให้หลอนว่า มันมี ความลำบากในการนั่งรถ
รถไฟที่แสนจะแออัด ถนนหนทางที่สกปรก ตลาดที่ดูยังไงก็ไม่อยากไปเดิน
ผู้คนที่หนาแน่น ขอทานที่พร้อมจะเข้ามา และพี่แขกที่หวังจะมาหลอกเงิน นทท.
แต่พอมาวันนึงที่ ญี่ปุ่นไปละ ไต้หวัน มาเล สิงคโปร์ บาหลี ฮ่องกง
อังกฤษ อเมริกา หรือยุโรปก็สัมผัสมาหมดแล้ว ขอลอง "อินเดีย" สักทีดิ๊
รสชาติมันจะแย่อย่างที่เขาบอกจริงเปล่า ไปลองให้รู้สักที
ต้องขอออกตัวก่อนว่า เราพยายามที่จะทานอาหารอินเดียมาหลายครั้งมากๆๆๆ
แต่ไม่เคยชอบเลย นอกจาก garlic naan แล้ว เราไม่ไหวกับกลิ่นเครื่องเทศจริงๆ
เอาวะ วีซ่าพร้อม...
เสบียงพร้อม(พกมาม่าไป 4-5ถ้วย) ยาพร้อม (อายุเยอะละ ท้องไส้ไม่ค่อยจะดี แหะ แหะ)
เงินพร้อม ไปค่ะ...
เราจ่ายค่าตั๋ว ไปอินเดียลงที่ นิวเดลี ที่ สนนราคา 3000นิดๆ (ค่า tax อย่างเดียว แลกไมล์) โดยสายการบินไทย
ไฟลท์ 8โมงเช้าา
เราติดต่อ ไกด์พร้อมคนขับไว้ตลอดทริป 5 คืน 6 วัน สะดวกสบายสุดๆแล้วว ราคาอยู่ที่ 18000รูปี
11โมงหน่อยๆ ตามเวลาที่นัดแนะ ก็มีคนมารอรับที่สนามบินพร้อมป้ายชื่อและ พวงมาลัย
แพลนวันแรกของเราน่ะเหรอ.. ไม่มี.. กิน นอน อยู่ในโรงแรม 5555+
เนื่องจากเป็นไฟลท์เช้า คืนก่อนบินก็ดั๊นนตื่นเต้นไม่นอน พอถึงอินเดียแล้วเพลียจ้า
รูปถ่ายจากโทรศัพท์อย่างเดียว บางรูปแต่งสี แต่งบีบหน้าเรียวขายาว แก้มแดงปากชมพูด้วย ไม่ว่ากันเนาะ
ชอบห้องน้ำในสนามบินชัดเจนดีอะ หญิง หรือ ชาย
เราพักที่ Shangri-La Eros
เข้าที่พักตอนเที่ยงนิดๆ ก็หิวหาไรทาน ไปโดนบุฟเฟต์ของโรงแรม
จัดแบบ incl. ค๊อกเทล ยาวเลยจ้าาา เมา นอนยาววสบายย
อ่อ ภาษีในโรงแรมรุนแรงและทำร้ายเราสุดๆ +40% พวกเครื่องดื่มที่มี แอลกอฮอล์ที่อินเดียชาร์จภาษีโหดมากก
ข้ามไปวันที่ 2 กันเล้ยย
ไลน์การเที่ยวของเราเริ่มต้นที่ 10โมงเช้า
และคุณ Abhi ก็มารับสายไป 10 นาที วันแรก เนื่องจากการจราจรอินเดียไม่สามารถคาดเดาได้
ชื่อสถานที่ต่างๆ เราจำไม่ได้นะคะ และเราก็ไม่ใช่สายเที่ยวเจาะประวัติ ชอบแค่ดูสิ่งปลูกสร้าง ผู้คน เพลินๆ
วัดนี้เป็นวัดของศาสนาฮินดู ไม่อนุญาตให้นำโทรศัพท์ กล้องเข้าไป อันนี้ภายนอกถ่ายก่อนเข้าไป
เท่าที่สังเกต ทุกวัด และตามสถานที่สำคัญๆ จะมีการตรวจกระเป๋าที่เข้มข้นมาก
ซึ่งเรามองว่าดีนะที่เขาห้ามเอาพวกโทรศัพท์และกล้องเข้าไป คนที่เข้าไปจะได้ตั้งใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า
กว่าจะได้เข้าไปในวัด ก็มีการ แย่งกันฝากรองเท้า ฝากโทรศัพท์ให้วุ่นกันหน้าวัด อิอิ นี่สินะ อินเดีย
วัดที่ 2 เป็นของชาวซิก แนะนำให้พกผ้าไปด้วยค่ะ เพราะต้องโพกหัว
ภายในวัดมีเสียงดนตรีตลอดวันเลย ก่อนเข้าไปจะมี คนที่อยู่ในห้องฝากรองเท้าให้ข้อมูลและเล่าว่าศาสนาซิกคืออะไร
เท่าที่จับใจความได้คือ ชนชาวซิกจะเชื่อว่าเรามีชีวิตเดียว ไม่มีโลกก่อนหรือหลังความตาย เขาจึงเปิดรับและพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆรอบๆตัว
อีกสิ่งที่ประทับใจคือการโรงทานในวัด ใหญ่มากก มีโอกาสได้เข้าไปดู เพราะน้อง Abhi พาเข้าไป
สถานที่ ที่ 3 เป็นสุสาน..
เราจบทริปของวันที่ ตลาดปันจาบ
อากาศที่อินเดียช่วงมกราคือดี แต่ค่าฝุ่นนี่สุดติ่งมากกก
หลังจากที่ได้สัมผัสอินเดียจริงๆจังๆ เรารู้สึกตื่นตัวตลอดเวลา
ปกตินั่งรถจะง่วง แต่อินเดียข้างทางนี่คือบันเทิงสุดด บรรยายไม่ถูกเลย บางสิ่งบางอย่างถ่ายเป็นรูปมาไม่สวย
เท่าที่ตาได้ไปเห็น วันแรกในอินเดีย คือชอบนะ ชอบความวุ่นวาย ชอบความไม่เป็นระเบียบ
แต่มันก็อยู่ได้และมันคือเสน่ห์..แล้วจะมาเล่าต่อออ
อินเดีย..สนุกดี 🇮🇳
เป็นคำพูดตอนเที่ยงคืนก่อนจะบินไปอินเดียตอน 8โมงเช้า
ปกติจะดูแต่คลิปท่องเที่ยวอินเดีย สารคดีอินเดีย เพราะอะไร..
เพราะคิดตลอดว่า คงไม่กล้าไปโดนเอง ทำไมมันอิ๊ขนาดนั้น
เลยได้แต่นั่งดู โดนสะกดจิตให้หลอนว่า มันมี ความลำบากในการนั่งรถ
รถไฟที่แสนจะแออัด ถนนหนทางที่สกปรก ตลาดที่ดูยังไงก็ไม่อยากไปเดิน
ผู้คนที่หนาแน่น ขอทานที่พร้อมจะเข้ามา และพี่แขกที่หวังจะมาหลอกเงิน นทท.
แต่พอมาวันนึงที่ ญี่ปุ่นไปละ ไต้หวัน มาเล สิงคโปร์ บาหลี ฮ่องกง
อังกฤษ อเมริกา หรือยุโรปก็สัมผัสมาหมดแล้ว ขอลอง "อินเดีย" สักทีดิ๊
รสชาติมันจะแย่อย่างที่เขาบอกจริงเปล่า ไปลองให้รู้สักที
ต้องขอออกตัวก่อนว่า เราพยายามที่จะทานอาหารอินเดียมาหลายครั้งมากๆๆๆ
แต่ไม่เคยชอบเลย นอกจาก garlic naan แล้ว เราไม่ไหวกับกลิ่นเครื่องเทศจริงๆ
เอาวะ วีซ่าพร้อม...
เสบียงพร้อม(พกมาม่าไป 4-5ถ้วย) ยาพร้อม (อายุเยอะละ ท้องไส้ไม่ค่อยจะดี แหะ แหะ)
เงินพร้อม ไปค่ะ...
เราจ่ายค่าตั๋ว ไปอินเดียลงที่ นิวเดลี ที่ สนนราคา 3000นิดๆ (ค่า tax อย่างเดียว แลกไมล์) โดยสายการบินไทย
ไฟลท์ 8โมงเช้าา
เราติดต่อ ไกด์พร้อมคนขับไว้ตลอดทริป 5 คืน 6 วัน สะดวกสบายสุดๆแล้วว ราคาอยู่ที่ 18000รูปี
11โมงหน่อยๆ ตามเวลาที่นัดแนะ ก็มีคนมารอรับที่สนามบินพร้อมป้ายชื่อและ พวงมาลัย
แพลนวันแรกของเราน่ะเหรอ.. ไม่มี.. กิน นอน อยู่ในโรงแรม 5555+
เนื่องจากเป็นไฟลท์เช้า คืนก่อนบินก็ดั๊นนตื่นเต้นไม่นอน พอถึงอินเดียแล้วเพลียจ้า
รูปถ่ายจากโทรศัพท์อย่างเดียว บางรูปแต่งสี แต่งบีบหน้าเรียวขายาว แก้มแดงปากชมพูด้วย ไม่ว่ากันเนาะ
ชอบห้องน้ำในสนามบินชัดเจนดีอะ หญิง หรือ ชาย
เราพักที่ Shangri-La Eros
เข้าที่พักตอนเที่ยงนิดๆ ก็หิวหาไรทาน ไปโดนบุฟเฟต์ของโรงแรม
จัดแบบ incl. ค๊อกเทล ยาวเลยจ้าาา เมา นอนยาววสบายย
อ่อ ภาษีในโรงแรมรุนแรงและทำร้ายเราสุดๆ +40% พวกเครื่องดื่มที่มี แอลกอฮอล์ที่อินเดียชาร์จภาษีโหดมากก
ข้ามไปวันที่ 2 กันเล้ยย
ไลน์การเที่ยวของเราเริ่มต้นที่ 10โมงเช้า
และคุณ Abhi ก็มารับสายไป 10 นาที วันแรก เนื่องจากการจราจรอินเดียไม่สามารถคาดเดาได้
ชื่อสถานที่ต่างๆ เราจำไม่ได้นะคะ และเราก็ไม่ใช่สายเที่ยวเจาะประวัติ ชอบแค่ดูสิ่งปลูกสร้าง ผู้คน เพลินๆ
วัดนี้เป็นวัดของศาสนาฮินดู ไม่อนุญาตให้นำโทรศัพท์ กล้องเข้าไป อันนี้ภายนอกถ่ายก่อนเข้าไป
เท่าที่สังเกต ทุกวัด และตามสถานที่สำคัญๆ จะมีการตรวจกระเป๋าที่เข้มข้นมาก
ซึ่งเรามองว่าดีนะที่เขาห้ามเอาพวกโทรศัพท์และกล้องเข้าไป คนที่เข้าไปจะได้ตั้งใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า
กว่าจะได้เข้าไปในวัด ก็มีการ แย่งกันฝากรองเท้า ฝากโทรศัพท์ให้วุ่นกันหน้าวัด อิอิ นี่สินะ อินเดีย
วัดที่ 2 เป็นของชาวซิก แนะนำให้พกผ้าไปด้วยค่ะ เพราะต้องโพกหัว
ภายในวัดมีเสียงดนตรีตลอดวันเลย ก่อนเข้าไปจะมี คนที่อยู่ในห้องฝากรองเท้าให้ข้อมูลและเล่าว่าศาสนาซิกคืออะไร
เท่าที่จับใจความได้คือ ชนชาวซิกจะเชื่อว่าเรามีชีวิตเดียว ไม่มีโลกก่อนหรือหลังความตาย เขาจึงเปิดรับและพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆรอบๆตัว
อีกสิ่งที่ประทับใจคือการโรงทานในวัด ใหญ่มากก มีโอกาสได้เข้าไปดู เพราะน้อง Abhi พาเข้าไป
สถานที่ ที่ 3 เป็นสุสาน..
เราจบทริปของวันที่ ตลาดปันจาบ
อากาศที่อินเดียช่วงมกราคือดี แต่ค่าฝุ่นนี่สุดติ่งมากกก
หลังจากที่ได้สัมผัสอินเดียจริงๆจังๆ เรารู้สึกตื่นตัวตลอดเวลา
ปกตินั่งรถจะง่วง แต่อินเดียข้างทางนี่คือบันเทิงสุดด บรรยายไม่ถูกเลย บางสิ่งบางอย่างถ่ายเป็นรูปมาไม่สวย
เท่าที่ตาได้ไปเห็น วันแรกในอินเดีย คือชอบนะ ชอบความวุ่นวาย ชอบความไม่เป็นระเบียบ
แต่มันก็อยู่ได้และมันคือเสน่ห์..แล้วจะมาเล่าต่อออ