รีวิวทริป Hokkaido 5 วัน 4 คืน (5 มกราคม-10 มกราคม 2563) : Sapporo Otaru and Noboribetsu
ไปเอง ประหยัด คุ้ม จริง เตรียมตัวอย่างไร ไปดูกันเลย>>>>>>>>>
ทริปนี้เราเดินทางร่วม 6 คน เพิ่งมาตั้งชื่อทีมตอนนั่งเครื่องกลับจ้า ชื่อทีม “6p”มาจาก”six people”หัวหน้าเป็นคนตั้งจ้ะ
เมื่อเพื่อนชวนเที่ยว เที่ยว Japan : Hokkaido หูววว์ตื่นเต้นมากค่ะ เลขาเตรียม set สถานที่เที่ยว จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม (on line) สมัยนี้มันง่ายจริงๆ (ไม่ได้ทำเอง) ส่วนตัวแอบอ่านรีวิวเล็กๆน้อยๆ ศึกษาอากาศ วัฒนธรรม เตรียมกระเป๋าเดินทาง (Luggage) ไม่ควรเล็กกว่า 24 นิ้วนะคะ ซึ่งกระเป๋าเดินทางเราขนาด 24 นิ้ว อัดแน่นมาก รวมน้ำหนักก่อนขึนเครื่องได้ 14.8กก.เอง การเตรียมเสื้อผ้าสำหรับอากาศติดลบ อันนี้แนะนำเลยควรซื้อ heattech ไม่ระบุยี่ห้อนะเอาที่สะดวกเลย จากประสบการณ์พวก ถุงน่อง ถุงเท้าบุขน และเสื้อ coat wool หรือขนเป็ดนะถึงเอาอยู่ หนาวแค่ไหนหายห่วงค่ะ ที่เราไป 0-10 องศาเซลเซียสเลยนะคะ หิมะตกทุกวัน พรอพอื่นๆหมวก ที่ปิดหู ผ้าพันคอ ถุงมือ ของมันต้องมี เพื่อความ kawaii รองเท้าควรเป็นรองเท้าลุยหิมะ มีขายตามเพจทั่วไป ไม่เช่นนั้นต้องระวังเป็นอย่างมากเวลาเดิน คือมีคนลื่นล้มมาแล้วจริงๆ (แผ่นติดรองเท้ากันลื่นเห็นมีขายที่ห้างในญี่ปุ่นราคาประมาณ 200JPY:1Bth.=0.28 JPY ) ของใช้ส่วนตัว อย่าลืม under wear ยาสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เราพกยาแก้แพ้ Zytine แก้วิงเวียน Dimen แก้ปวดอักเสบ คลายกล้ามเนื้อ Voltaren เหมือนรู้ว่าต้องเดินตลอดทริป (ทานก่อนนอนทุกวัน) และยาแก้ปวดลดไข้ Paracetamal ออ Pass sport ด้วยนะคะ เราเตรียมถ่ายเอกสารไว้ด้วย 1 ใบเผื่อฉุกเฉิน ทำ check list ไว้เลยดีที่สุดค่ะ และที่สำคัญที่สุดทำงาน เก็บ ออมเงิน หนักมาก เรามีเวลาเตรียมตัวหลายเดือนอยู่ 5-6 เดือน จึงเตรียมตัวค่อนข้างพร้อม ขาดอย่างเดียวนะไม่ได้ซื้อซิมต่างประเทศ ราคาประมาณ 399-499 บาทนะคะ ใช้ได้ ประมาณ 10 วัน เครือข่ายไม่ระบุนะตามสะดวกเลยจ้า
พวกเราตัดสินใจนั่งสายการบินไทย (Economy) full service ค่าเครื่องบินไป-กลับ คนละ 19,450บาท เป็นสายการบินร่วมกับ ANA Airway (together ANA) เทียบกับสายการบินอื่นแล้วไม่แตกต่างจริง ได้โหลดใต้เครื่อง 30กก. ขึ้นเครื่อง7กก. เสริฟอาหารและเครื่องดื่มตลอดการเดินทาง เราพลาดนิดหน่อย ขาไปไม่ได้อาหาร เนื่องจากไม่รู้ ไม่เคยนั่งเครื่องบิน (ครั้งแรกคือบ้านนอกจริงๆ) แต่เพื่อนๆได้กันหมดยกเว้นเราและเพื่อนอีกคน (หัวหน้า) แหมๆแถมแอร์ฝั่งเรานั่งเป็นญี่ปุ่นจ้า กว่าจะคุยรู้เรื่องเด้อ หัวหน้ายังกระซิบบอกเราบอกไปคนไทยค่ะ แต่สาวแอร์ I’m Japan ขำเลยค่ะทีนี้ ขากลับนี่ยิ่งหนักกว่าเดิม แอร์เอ่ออออออ ขอโทษนะคะ พวกเราเรียกป้าและลุง อย่าทำบาปป้าและลุง อย่าเรียกใช้ป้าและลุงบ่อย สงสารอายุเยอะแล้ว หัวหน้าเราผิดหวังมากๆ อยากเจอแอร์สาวๆสวยๆ เหมือนแอร์เกาหลี แบบว่าหน้า block เดียวกันทั้งลำ แต่ประทับใจป้า-ลุงสุดๆจ้า
ทำประกันอุบัติเหตุหมู่ คนละ 249 บาท (เริ่มเอาประกัน 08.00 น.วันที่ 5ม.ค.63 - 24.00 น.วันที่10ม.ค.2563) ควรทำไว้นะเกิดเราได้รับอุบัติเหตุขึ้นมาช่วยได้จริงๆในต่างแดน เช่นลื่นล้ม แขน ขา หัก อะไรประมาณนี้ อันนี้เราติดต่อทำผ่านตัวแทนประกันชีวิตที่รู้จักกัน ทำงานที่เดียวกับเราเอง ออและเพิ่มมาอีกอย่างคือการขอลาพักร้อน และทำหนังสือขออนุมัติผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด (จำเป็นสำหรับข้าราชการ) ควรดำเนินการล่วงหน้าประมาณ 1 เดือนก่อนเดินทางนะคะ ติดต่อรับเอกสารที่งานการเจ้าที่ ที่เราทำงาน
การเดินทางจากบ้านเราที่อยู่ต่างจังหวัด เราสะดวกเหมารถตู้รับส่งไป-กลับ เที่ยวละ1,000บาท รวม 2,000บาท/คน เพราะวันเดินทางเป็นช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ผู้คนกำลังหลั่งไหลกลับเข้าเมืองกรุง ดีที่ตัดสินใจมารถตู้เหมา คือรถติดตลอดทาง เราเดินทางมาทางจังหวัดสระแก้ว มาถึงทันเวลา ไม่ต้องรีบ กังวลมาก มีเวลาเผื่อแลกเงิน ที่เคาน์เตอร์ธนาคาร เราใช้บริการธนาคารกสิกรไทย อัตราแลกเปลี่ยน 1Bth.=0.28 JPY ไม่แตกต่างกันแต่ละธนาคาร ลงบันไดเลื่อนมาจากประตู 4 เจอก็แลกเลย เราหาอะไรรองท้องก่อนขึ้นเครื่องในชั้นเดียวกันนี้ เราไม่ลืมที่จะถ่ายรูป Check in ด้วยกันด้วยสิ แล้วก็รอจนถึงเวลาตรวจคนเข้าเมือง (ด่านตม.ไทย) ตรวจสอบสัมภาระ กระเป๋า เป็นอันเรียบร้อย ได้ขึ้นเครื่องและบินเวลา23.55น. หลับไปบนเครื่องตื่นมาอีกทีก็ New Chitose: New CTS เลยค่ะ เวลา 08.20น. เร็วกว่าบ้านเรา 2ชม. (รวมเดินทาง 6 ชม.25นาที) มีกรอกเอกสารเข้าเมืองเล็กน้อย ไม่ยากเราศึกษามาแล้ว 555 บวกกับถาม คนข้างๆค่ะ พอเครื่อง landing ถึงเวลาลงนะมองออกไปข้างนอกสนามบินก็เห็นหิมะ (ครั้งแรก) ตื่นเต้นมาก สัมผัสได้ถึงความเย็นติดลบ -4 องศาค่ะ ออถามว่าไปหลายคนมีปัญหาบ้างมั้ย ตอบเลยว่าสนุกสนานตลอดการเดินทาง
สรุปค่าใช้จ่ายต่อคน
1. ค่าเครื่องบินไป-กลับคนละ 19,450 บาท
2. ค่าประกันอุบัติเหตุหมู่ คนละ 249 บาท
3. ค่ารถตู้รับส่งไป-กลับ เที่ยวละ 1,000 บาท
4. ทิป พขร.+ค่าทางด่วน 100 บาท
5. ค่าอาหารวันเดินทาง (ไม่เท่ากันนะคะ) 100 บาท
รวม 20,899 บาท
วันที่1 First day in Japan: Hokkaido # Sapporo>>>>>>>>
ลงเครื่องมานะก่อนผ่านตม.ญี่ปุ่นขณะรอรับกระเป๋า (สายพาน B) ตอนนี้เราพอมีเวลานะคะ เปลี่ยนเสื้อผ้า แปรงฟัน แต่งหน้า พร้อมเที่ยววันแรกกันเลย ไม่ต้องเสียเวลา บางคนก็เริ่มเชคอินกันที่นี่เลยนะ มีตัวโดราเอมอน การ์ตูนในตำนานให้เซลฟี่ กรุ๊ปเราให้เวลาตรงนี้ ชม.กว่า รวมรับกระเป๋าแต่งตัว(อันนี้นานหน่อย อิอิ สำคัญ คือสวยสะเทือนเกาะ Hokkaido ก็ว่ากันไป ) และ ตรวจคนเข้าเมือง ขึ้นบันไดเลื่อนต่อนะคะ ไปหาที่ขึ้นรถไฟ JR Train ไป Sapporo กันค่ะ ราคาตั๋ว 1,150 JPY ออกตั๋วที่ตู้เองเลยค่ะ ก็ตื่นเต้นอยู่นะ ครั้งแรกคือทำได้ ผ่านก็ amazing Japan จริงๆ มาครั้งนี้ไม่ได้ซื้อ JR Rail pass ออกตั๋วเองทุกเที่ยวตลอดทริปคิดว่าประหยัดกว่า อันนี้แล้วแต่โปรแกรมเที่ยว ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาทีถึง Sapporo ถ้ากะไม่ผิดนะ แล้วก็หาทางออกไปโรงแรมกันค่ะ หา north gate กัน หาให้เจอ ออกถูกก็สบายละ ชุลมุนนิดๆงงๆ เราจอง WBF Hotel ใกล้ๆเดินลากกระเป๋าถึงจ้า มีหลงนิดนึง แต่เรารอดค่ะเพราะแม่ทีมโหลด App.แปลภาษามา คือนางรอบคอบมาก เสมือนเราพูดภาษาเค้าได้เลยทีนี้ 555 moment นี้นะเดินลากกระเป๋าท่ามกลางหิมะ ลืมหนาวไปเลยนะคะ ถ่ายรูปหลายๆแอ่ค! จนลืมไปเลย555พวกเรายังไม่เจอโรงแรม ในที่สุดเราก็หาโรงแรมเจอค่ะLobby อยู่ที่ชั้น 2 เราพักชั้น 8 (801, 802) ด้านล่างมีร้านสะดวกซื้อ LAWSON เหมือน7-11มีทั่วๆไป น่าจะมากกว่า 7-11 บ้านเรา หาอะไรรองท้องเบาๆ หลังจากทานอาหารบนเครื่องแล้ว เรายังไม่ได้ทานไรเลยค่ะ เราฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อนที่นี่เค้า check in กัน 15.00น. คือดีย์ฝากกระเป๋า Luggage ไม่เสียค่าฝาก ลูกอมหยิบฟรี พนักงาน คุยต้อนรับดีเยี่ยม ภาษาอังกฤษเค้าก็พอๆกับเรานะ อิอิ แทบจะเก่งกว่าเค้าเด้อเข้าห้องน้ำโรงแรม ทำธุระ ก็ตื่นเต้นไปอีก ห้องน้ำ คือมันสะอาดและก็เป็นทุกที่ที่ไป คิดในใจแค่นี้ก็โอเคละ ไม่ต้องกังวลส้วมเหม็น ไม่สะอาด มีกระดาษชำระทุกที่ มีเตรียมไว้เผื่อเติมตลอด ออ คือมันไม่ใช่ toilet นะ มันเรียกว่า rest room ค่าโรงแรมก็ตกคนละ 11,150 JPY เตรียมตัวลุยเที่ยวเลย เราลงมาซื้อถุงอุ่น นะราคา 47 JPY(ของที่นี่คิดราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มต่างหากนะ ไม่ตามป้ายจ้าน่าจะ 8% ) ติดตัวไว้ กำไว้ ช่วยได้จริง จุดแรกก็มาเดินห้างบริเวณ JR Tower หาไรทานแบบเต็มๆมื้อแรก ที่ DAIMARU ชั้น 8 ห้างนี้จะไฮโซสุด เพิ่งรู้ตอนมาอ่านรีวิย้อนหลังค่ะ ส่วนใหญ่ จะเป็นของมียี่ห้อราคากลางๆไปถึงสูง ชั้นใต้ดินเป็นซุปเปอร์มาเก็ต บนสถานีรถไฟใต้ดิน มีหลายห้างมากให้เลือกเดิน มื้อแรกแยกย้ายกันหาทานตามที่ชอบ ตามที่สะดวกนะ เราไปทาน ข้าวหมูทอด Thonkatsu (เนื้อสันนอกติดมัน) สั่งมาสองอย่าง ตกคนละ1605 JPY เสริฟมาเป็นชุด มีข้าวญี่ปุ่น เครื่องเคียง ขิงดอง น้ำซุป ซอสญี่ปุ่น วาซาบิสด ทานโล่งจมูกเลยจ้า เรียบร้อยกันแล้ว หาทางลงสถานีรถไฟใต้ดินจ้ะเราจะไปที่ TV Tower Sapporoนั่ง Subway Nambuku line (สีเขียว) ไปลง สถานี Odori ค่าตั๋ว 210 JPY หยอดตู้เหมือนเดิม ห้ามแซงคิวคนที่นี่นะ เสียมารยาทมาก ไม่ว่าจะซื้อของ ซื้อตั๋ว ขึ้นบันเลื่อน บันไดอะไรให้ชิดซ้ายทันทีเลยนะ ออรถยนต์ที่นี่ขับเหมือนบ้านเรา พวงมาลัยขวา รถก็เหมือนๆที่ขับในบ้านเรา ส่วนใหญ่เป็น Eco car คันเล็กๆ NISSAN TOYOTA HONDA 555 ก็บ้านเราส่วนใหญ่เป็นรถญี่ปุ่นนี่นา แนะนำใครสอบใบขับขี่นานาชาติผ่าน ให้เช่ารถขับเลย แบบว่าเค้าขับรถมีมารยาทอ่ะ ในซอยให้คนผ่านก่อนเสมอ รู้สึกปลอดภัยมาก คนที่นี่ข้นรถไฟแล้วนะจะไม่คุยกันเสียงดังเลย ไม่คุยโทรศัพท์ เราเป็นตัวประหลาด ไปเลย บางครั้งยังเจอยุ่นเอ็ดเอาเลยนะ ไม่ทานอาหารบนรถไฟ ไม่เดินทาน บ้านเมืองสะอาดแรงจ้า เที่ยวนี้นั่งรถไฟใต้ดินไม่ถึง 5นาที ก็ถึงสถานี Odori เริ่มค่ำแล้วสี่โมงกว่าที่นี่เริ่มมืด หอส่งทีวีซัปโปโร (Sapporo TV Tower) เป็นหอสูงที่ตั้งอยู่ติดกับสวนโอโดริที่อยู่กลางเมือง เป็นอีกจุดสำคัญของการท่องเที่ยวฮอกไกโด ที่ไม่มาไม่ได้ เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง! หอส่งทีวีซัปโปโร เป็นหอสำหรับส่งสัญญาณวิทยุและโทรทัศน์ในยุคอนาล็อกที่ใช้กันมาหลายสิบปี สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1957 มีความสูงถึง 147.2 เมตร ตั้งอยู่ปลายสวนโอโดริด้านทิศตะวันออก (สวนใหญ่ๆ ยาวๆ ที่ตั้งอยู่กลางถนนในเมืองซัปโปโรนั่นแหละค่ะ) ตัวหอจำลองแบบมาจากหอโตเกียว (ที่ทำตามแบบหอไอเฟลของฝรั่งเศสอีกที ^^) แต่ย่อส่วนเล็กกว่าTV Tower Sapporo อยู่ติดกับสถานีรถไฟใต้ดินOdoriมีค่าเข้าชม 720 JPYขึ้นบันไดถึงชั้น 3 ซื้อตั๋วชั้นนี้ แล้วจะมีพนักงานพาขึ้นลิฟต์แก้ว จุดชมวิวประมาณชั้น 7 เห็นบรรยากาศรอบๆเมือง Sapporo สวยมากเลยนะ หิมะตกปรอยๆ ปกคลุมไปทั่ว แอบสยิวอยู่เหมือนกัน ข้างบนมีร้านขายของที่ระลึก พวกปากกา พวงกุญแจ น่ารักๆ แต่เราเน้นเก็บภาพสวยกันค่ะ มองลงมาเห็นสวน Odoriขาลงลิฟต์ถ่ายคลิป ขำๆกัน ลงมาสัมผัสหิมะข้างล่างกันต่อ ฟินๆ เย็นๆ ไม่มีแววความเมื่อยล้าเลย ได้เวลากลับกันค่ะขึ้น Subway Nambuku line สถานี Odori ถึงสถานี Sapporo 210 JPY เช่นเดิมกลับมาโรงแรม ออก north gate นะ เราจองห้อง 3 เตียง (เสริม 1 เตียง) ห้องดี ไม่ได้เลือกแพคเกจอาหารเช้านะ save ค่ะ ถึงห้องอุ่นเลย น้ำอุ่น WIFI มีเสื้อคลุมซึ่งเราใส่นอนได้เลย ครีมอาบน้ำ ยาสระผม ครีมนวดผม set หวี ผ้าคาดผม cotton but แปรง ยาสีฟัน ไดรร์เป่าผม ครบ ชอบจัง ใครสะดวกแช่ตัวก็ตามสบายนะมีอ่างน้ำ คลายความเมื่อยล้า นอนแช่อุ่นๆ หมวกคลุมอาบน้ำ หยิบได้ที่ Lobby นะคะ มีเกลือ SPA Aroma หยิบฟรี พร้อมฟองน้ำขัดตัว มีน้ำเปล่าให้คนละขวดค่ะ บางโรงแรมไม่มีให้นะที่นี่เค้ารองน้ำก๊อกดื่มได้ ในห้องมี TVตู้เย็น กาแฟ ชง ทานตามสะดวก ก็มีพวกกาแฟ ชา ชงดื่มฟรีได้ตลอดค่ะ
สรุปค่าใช้จ่ายต่อคน
ค่าโรงแรมคนละ 11,150 JPY
ข้าวหมูทอด Thonkatsu 1,605 JPY
TV Tower Sapporo มีค่าเข้าชม 720 JPY
Subway Nambuku line Sapporo - Odori
ค่าตั๋ว 210 ไป-กลับ 420 JPY
รวม 13,895 JPY
[CR] HOKKAIDO
ไปเอง ประหยัด คุ้ม จริง เตรียมตัวอย่างไร ไปดูกันเลย>>>>>>>>>
ทริปนี้เราเดินทางร่วม 6 คน เพิ่งมาตั้งชื่อทีมตอนนั่งเครื่องกลับจ้า ชื่อทีม “6p”มาจาก”six people”หัวหน้าเป็นคนตั้งจ้ะ
เมื่อเพื่อนชวนเที่ยว เที่ยว Japan : Hokkaido หูววว์ตื่นเต้นมากค่ะ เลขาเตรียม set สถานที่เที่ยว จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม (on line) สมัยนี้มันง่ายจริงๆ (ไม่ได้ทำเอง) ส่วนตัวแอบอ่านรีวิวเล็กๆน้อยๆ ศึกษาอากาศ วัฒนธรรม เตรียมกระเป๋าเดินทาง (Luggage) ไม่ควรเล็กกว่า 24 นิ้วนะคะ ซึ่งกระเป๋าเดินทางเราขนาด 24 นิ้ว อัดแน่นมาก รวมน้ำหนักก่อนขึนเครื่องได้ 14.8กก.เอง การเตรียมเสื้อผ้าสำหรับอากาศติดลบ อันนี้แนะนำเลยควรซื้อ heattech ไม่ระบุยี่ห้อนะเอาที่สะดวกเลย จากประสบการณ์พวก ถุงน่อง ถุงเท้าบุขน และเสื้อ coat wool หรือขนเป็ดนะถึงเอาอยู่ หนาวแค่ไหนหายห่วงค่ะ ที่เราไป 0-10 องศาเซลเซียสเลยนะคะ หิมะตกทุกวัน พรอพอื่นๆหมวก ที่ปิดหู ผ้าพันคอ ถุงมือ ของมันต้องมี เพื่อความ kawaii รองเท้าควรเป็นรองเท้าลุยหิมะ มีขายตามเพจทั่วไป ไม่เช่นนั้นต้องระวังเป็นอย่างมากเวลาเดิน คือมีคนลื่นล้มมาแล้วจริงๆ (แผ่นติดรองเท้ากันลื่นเห็นมีขายที่ห้างในญี่ปุ่นราคาประมาณ 200JPY:1Bth.=0.28 JPY ) ของใช้ส่วนตัว อย่าลืม under wear ยาสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เราพกยาแก้แพ้ Zytine แก้วิงเวียน Dimen แก้ปวดอักเสบ คลายกล้ามเนื้อ Voltaren เหมือนรู้ว่าต้องเดินตลอดทริป (ทานก่อนนอนทุกวัน) และยาแก้ปวดลดไข้ Paracetamal ออ Pass sport ด้วยนะคะ เราเตรียมถ่ายเอกสารไว้ด้วย 1 ใบเผื่อฉุกเฉิน ทำ check list ไว้เลยดีที่สุดค่ะ และที่สำคัญที่สุดทำงาน เก็บ ออมเงิน หนักมาก เรามีเวลาเตรียมตัวหลายเดือนอยู่ 5-6 เดือน จึงเตรียมตัวค่อนข้างพร้อม ขาดอย่างเดียวนะไม่ได้ซื้อซิมต่างประเทศ ราคาประมาณ 399-499 บาทนะคะ ใช้ได้ ประมาณ 10 วัน เครือข่ายไม่ระบุนะตามสะดวกเลยจ้า
พวกเราตัดสินใจนั่งสายการบินไทย (Economy) full service ค่าเครื่องบินไป-กลับ คนละ 19,450บาท เป็นสายการบินร่วมกับ ANA Airway (together ANA) เทียบกับสายการบินอื่นแล้วไม่แตกต่างจริง ได้โหลดใต้เครื่อง 30กก. ขึ้นเครื่อง7กก. เสริฟอาหารและเครื่องดื่มตลอดการเดินทาง เราพลาดนิดหน่อย ขาไปไม่ได้อาหาร เนื่องจากไม่รู้ ไม่เคยนั่งเครื่องบิน (ครั้งแรกคือบ้านนอกจริงๆ) แต่เพื่อนๆได้กันหมดยกเว้นเราและเพื่อนอีกคน (หัวหน้า) แหมๆแถมแอร์ฝั่งเรานั่งเป็นญี่ปุ่นจ้า กว่าจะคุยรู้เรื่องเด้อ หัวหน้ายังกระซิบบอกเราบอกไปคนไทยค่ะ แต่สาวแอร์ I’m Japan ขำเลยค่ะทีนี้ ขากลับนี่ยิ่งหนักกว่าเดิม แอร์เอ่ออออออ ขอโทษนะคะ พวกเราเรียกป้าและลุง อย่าทำบาปป้าและลุง อย่าเรียกใช้ป้าและลุงบ่อย สงสารอายุเยอะแล้ว หัวหน้าเราผิดหวังมากๆ อยากเจอแอร์สาวๆสวยๆ เหมือนแอร์เกาหลี แบบว่าหน้า block เดียวกันทั้งลำ แต่ประทับใจป้า-ลุงสุดๆจ้า
ทำประกันอุบัติเหตุหมู่ คนละ 249 บาท (เริ่มเอาประกัน 08.00 น.วันที่ 5ม.ค.63 - 24.00 น.วันที่10ม.ค.2563) ควรทำไว้นะเกิดเราได้รับอุบัติเหตุขึ้นมาช่วยได้จริงๆในต่างแดน เช่นลื่นล้ม แขน ขา หัก อะไรประมาณนี้ อันนี้เราติดต่อทำผ่านตัวแทนประกันชีวิตที่รู้จักกัน ทำงานที่เดียวกับเราเอง ออและเพิ่มมาอีกอย่างคือการขอลาพักร้อน และทำหนังสือขออนุมัติผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด (จำเป็นสำหรับข้าราชการ) ควรดำเนินการล่วงหน้าประมาณ 1 เดือนก่อนเดินทางนะคะ ติดต่อรับเอกสารที่งานการเจ้าที่ ที่เราทำงาน
การเดินทางจากบ้านเราที่อยู่ต่างจังหวัด เราสะดวกเหมารถตู้รับส่งไป-กลับ เที่ยวละ1,000บาท รวม 2,000บาท/คน เพราะวันเดินทางเป็นช่วงหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ ผู้คนกำลังหลั่งไหลกลับเข้าเมืองกรุง ดีที่ตัดสินใจมารถตู้เหมา คือรถติดตลอดทาง เราเดินทางมาทางจังหวัดสระแก้ว มาถึงทันเวลา ไม่ต้องรีบ กังวลมาก มีเวลาเผื่อแลกเงิน ที่เคาน์เตอร์ธนาคาร เราใช้บริการธนาคารกสิกรไทย อัตราแลกเปลี่ยน 1Bth.=0.28 JPY ไม่แตกต่างกันแต่ละธนาคาร ลงบันไดเลื่อนมาจากประตู 4 เจอก็แลกเลย เราหาอะไรรองท้องก่อนขึ้นเครื่องในชั้นเดียวกันนี้ เราไม่ลืมที่จะถ่ายรูป Check in ด้วยกันด้วยสิ แล้วก็รอจนถึงเวลาตรวจคนเข้าเมือง (ด่านตม.ไทย) ตรวจสอบสัมภาระ กระเป๋า เป็นอันเรียบร้อย ได้ขึ้นเครื่องและบินเวลา23.55น. หลับไปบนเครื่องตื่นมาอีกทีก็ New Chitose: New CTS เลยค่ะ เวลา 08.20น. เร็วกว่าบ้านเรา 2ชม. (รวมเดินทาง 6 ชม.25นาที) มีกรอกเอกสารเข้าเมืองเล็กน้อย ไม่ยากเราศึกษามาแล้ว 555 บวกกับถาม คนข้างๆค่ะ พอเครื่อง landing ถึงเวลาลงนะมองออกไปข้างนอกสนามบินก็เห็นหิมะ (ครั้งแรก) ตื่นเต้นมาก สัมผัสได้ถึงความเย็นติดลบ -4 องศาค่ะ ออถามว่าไปหลายคนมีปัญหาบ้างมั้ย ตอบเลยว่าสนุกสนานตลอดการเดินทาง
สรุปค่าใช้จ่ายต่อคน
1. ค่าเครื่องบินไป-กลับคนละ 19,450 บาท
2. ค่าประกันอุบัติเหตุหมู่ คนละ 249 บาท
3. ค่ารถตู้รับส่งไป-กลับ เที่ยวละ 1,000 บาท
4. ทิป พขร.+ค่าทางด่วน 100 บาท
5. ค่าอาหารวันเดินทาง (ไม่เท่ากันนะคะ) 100 บาท
รวม 20,899 บาท
วันที่1 First day in Japan: Hokkaido # Sapporo>>>>>>>>
ลงเครื่องมานะก่อนผ่านตม.ญี่ปุ่นขณะรอรับกระเป๋า (สายพาน B) ตอนนี้เราพอมีเวลานะคะ เปลี่ยนเสื้อผ้า แปรงฟัน แต่งหน้า พร้อมเที่ยววันแรกกันเลย ไม่ต้องเสียเวลา บางคนก็เริ่มเชคอินกันที่นี่เลยนะ มีตัวโดราเอมอน การ์ตูนในตำนานให้เซลฟี่ กรุ๊ปเราให้เวลาตรงนี้ ชม.กว่า รวมรับกระเป๋าแต่งตัว(อันนี้นานหน่อย อิอิ สำคัญ คือสวยสะเทือนเกาะ Hokkaido ก็ว่ากันไป ) และ ตรวจคนเข้าเมือง ขึ้นบันไดเลื่อนต่อนะคะ ไปหาที่ขึ้นรถไฟ JR Train ไป Sapporo กันค่ะ ราคาตั๋ว 1,150 JPY ออกตั๋วที่ตู้เองเลยค่ะ ก็ตื่นเต้นอยู่นะ ครั้งแรกคือทำได้ ผ่านก็ amazing Japan จริงๆ มาครั้งนี้ไม่ได้ซื้อ JR Rail pass ออกตั๋วเองทุกเที่ยวตลอดทริปคิดว่าประหยัดกว่า อันนี้แล้วแต่โปรแกรมเที่ยว ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาทีถึง Sapporo ถ้ากะไม่ผิดนะ แล้วก็หาทางออกไปโรงแรมกันค่ะ หา north gate กัน หาให้เจอ ออกถูกก็สบายละ ชุลมุนนิดๆงงๆ เราจอง WBF Hotel ใกล้ๆเดินลากกระเป๋าถึงจ้า มีหลงนิดนึง แต่เรารอดค่ะเพราะแม่ทีมโหลด App.แปลภาษามา คือนางรอบคอบมาก เสมือนเราพูดภาษาเค้าได้เลยทีนี้ 555 moment นี้นะเดินลากกระเป๋าท่ามกลางหิมะ ลืมหนาวไปเลยนะคะ ถ่ายรูปหลายๆแอ่ค! จนลืมไปเลย555พวกเรายังไม่เจอโรงแรม ในที่สุดเราก็หาโรงแรมเจอค่ะLobby อยู่ที่ชั้น 2 เราพักชั้น 8 (801, 802) ด้านล่างมีร้านสะดวกซื้อ LAWSON เหมือน7-11มีทั่วๆไป น่าจะมากกว่า 7-11 บ้านเรา หาอะไรรองท้องเบาๆ หลังจากทานอาหารบนเครื่องแล้ว เรายังไม่ได้ทานไรเลยค่ะ เราฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อนที่นี่เค้า check in กัน 15.00น. คือดีย์ฝากกระเป๋า Luggage ไม่เสียค่าฝาก ลูกอมหยิบฟรี พนักงาน คุยต้อนรับดีเยี่ยม ภาษาอังกฤษเค้าก็พอๆกับเรานะ อิอิ แทบจะเก่งกว่าเค้าเด้อเข้าห้องน้ำโรงแรม ทำธุระ ก็ตื่นเต้นไปอีก ห้องน้ำ คือมันสะอาดและก็เป็นทุกที่ที่ไป คิดในใจแค่นี้ก็โอเคละ ไม่ต้องกังวลส้วมเหม็น ไม่สะอาด มีกระดาษชำระทุกที่ มีเตรียมไว้เผื่อเติมตลอด ออ คือมันไม่ใช่ toilet นะ มันเรียกว่า rest room ค่าโรงแรมก็ตกคนละ 11,150 JPY เตรียมตัวลุยเที่ยวเลย เราลงมาซื้อถุงอุ่น นะราคา 47 JPY(ของที่นี่คิดราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มต่างหากนะ ไม่ตามป้ายจ้าน่าจะ 8% ) ติดตัวไว้ กำไว้ ช่วยได้จริง จุดแรกก็มาเดินห้างบริเวณ JR Tower หาไรทานแบบเต็มๆมื้อแรก ที่ DAIMARU ชั้น 8 ห้างนี้จะไฮโซสุด เพิ่งรู้ตอนมาอ่านรีวิย้อนหลังค่ะ ส่วนใหญ่ จะเป็นของมียี่ห้อราคากลางๆไปถึงสูง ชั้นใต้ดินเป็นซุปเปอร์มาเก็ต บนสถานีรถไฟใต้ดิน มีหลายห้างมากให้เลือกเดิน มื้อแรกแยกย้ายกันหาทานตามที่ชอบ ตามที่สะดวกนะ เราไปทาน ข้าวหมูทอด Thonkatsu (เนื้อสันนอกติดมัน) สั่งมาสองอย่าง ตกคนละ1605 JPY เสริฟมาเป็นชุด มีข้าวญี่ปุ่น เครื่องเคียง ขิงดอง น้ำซุป ซอสญี่ปุ่น วาซาบิสด ทานโล่งจมูกเลยจ้า เรียบร้อยกันแล้ว หาทางลงสถานีรถไฟใต้ดินจ้ะเราจะไปที่ TV Tower Sapporoนั่ง Subway Nambuku line (สีเขียว) ไปลง สถานี Odori ค่าตั๋ว 210 JPY หยอดตู้เหมือนเดิม ห้ามแซงคิวคนที่นี่นะ เสียมารยาทมาก ไม่ว่าจะซื้อของ ซื้อตั๋ว ขึ้นบันเลื่อน บันไดอะไรให้ชิดซ้ายทันทีเลยนะ ออรถยนต์ที่นี่ขับเหมือนบ้านเรา พวงมาลัยขวา รถก็เหมือนๆที่ขับในบ้านเรา ส่วนใหญ่เป็น Eco car คันเล็กๆ NISSAN TOYOTA HONDA 555 ก็บ้านเราส่วนใหญ่เป็นรถญี่ปุ่นนี่นา แนะนำใครสอบใบขับขี่นานาชาติผ่าน ให้เช่ารถขับเลย แบบว่าเค้าขับรถมีมารยาทอ่ะ ในซอยให้คนผ่านก่อนเสมอ รู้สึกปลอดภัยมาก คนที่นี่ข้นรถไฟแล้วนะจะไม่คุยกันเสียงดังเลย ไม่คุยโทรศัพท์ เราเป็นตัวประหลาด ไปเลย บางครั้งยังเจอยุ่นเอ็ดเอาเลยนะ ไม่ทานอาหารบนรถไฟ ไม่เดินทาน บ้านเมืองสะอาดแรงจ้า เที่ยวนี้นั่งรถไฟใต้ดินไม่ถึง 5นาที ก็ถึงสถานี Odori เริ่มค่ำแล้วสี่โมงกว่าที่นี่เริ่มมืด หอส่งทีวีซัปโปโร (Sapporo TV Tower) เป็นหอสูงที่ตั้งอยู่ติดกับสวนโอโดริที่อยู่กลางเมือง เป็นอีกจุดสำคัญของการท่องเที่ยวฮอกไกโด ที่ไม่มาไม่ได้ เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึง! หอส่งทีวีซัปโปโร เป็นหอสำหรับส่งสัญญาณวิทยุและโทรทัศน์ในยุคอนาล็อกที่ใช้กันมาหลายสิบปี สร้างตั้งแต่ปี ค.ศ. 1957 มีความสูงถึง 147.2 เมตร ตั้งอยู่ปลายสวนโอโดริด้านทิศตะวันออก (สวนใหญ่ๆ ยาวๆ ที่ตั้งอยู่กลางถนนในเมืองซัปโปโรนั่นแหละค่ะ) ตัวหอจำลองแบบมาจากหอโตเกียว (ที่ทำตามแบบหอไอเฟลของฝรั่งเศสอีกที ^^) แต่ย่อส่วนเล็กกว่าTV Tower Sapporo อยู่ติดกับสถานีรถไฟใต้ดินOdoriมีค่าเข้าชม 720 JPYขึ้นบันไดถึงชั้น 3 ซื้อตั๋วชั้นนี้ แล้วจะมีพนักงานพาขึ้นลิฟต์แก้ว จุดชมวิวประมาณชั้น 7 เห็นบรรยากาศรอบๆเมือง Sapporo สวยมากเลยนะ หิมะตกปรอยๆ ปกคลุมไปทั่ว แอบสยิวอยู่เหมือนกัน ข้างบนมีร้านขายของที่ระลึก พวกปากกา พวงกุญแจ น่ารักๆ แต่เราเน้นเก็บภาพสวยกันค่ะ มองลงมาเห็นสวน Odoriขาลงลิฟต์ถ่ายคลิป ขำๆกัน ลงมาสัมผัสหิมะข้างล่างกันต่อ ฟินๆ เย็นๆ ไม่มีแววความเมื่อยล้าเลย ได้เวลากลับกันค่ะขึ้น Subway Nambuku line สถานี Odori ถึงสถานี Sapporo 210 JPY เช่นเดิมกลับมาโรงแรม ออก north gate นะ เราจองห้อง 3 เตียง (เสริม 1 เตียง) ห้องดี ไม่ได้เลือกแพคเกจอาหารเช้านะ save ค่ะ ถึงห้องอุ่นเลย น้ำอุ่น WIFI มีเสื้อคลุมซึ่งเราใส่นอนได้เลย ครีมอาบน้ำ ยาสระผม ครีมนวดผม set หวี ผ้าคาดผม cotton but แปรง ยาสีฟัน ไดรร์เป่าผม ครบ ชอบจัง ใครสะดวกแช่ตัวก็ตามสบายนะมีอ่างน้ำ คลายความเมื่อยล้า นอนแช่อุ่นๆ หมวกคลุมอาบน้ำ หยิบได้ที่ Lobby นะคะ มีเกลือ SPA Aroma หยิบฟรี พร้อมฟองน้ำขัดตัว มีน้ำเปล่าให้คนละขวดค่ะ บางโรงแรมไม่มีให้นะที่นี่เค้ารองน้ำก๊อกดื่มได้ ในห้องมี TVตู้เย็น กาแฟ ชง ทานตามสะดวก ก็มีพวกกาแฟ ชา ชงดื่มฟรีได้ตลอดค่ะ
สรุปค่าใช้จ่ายต่อคน
ค่าโรงแรมคนละ 11,150 JPY
ข้าวหมูทอด Thonkatsu 1,605 JPY
TV Tower Sapporo มีค่าเข้าชม 720 JPY
Subway Nambuku line Sapporo - Odori
ค่าตั๋ว 210 ไป-กลับ 420 JPY
รวม 13,895 JPY
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้