จากที่เราสังเกตดูคิดว่าผู้จัดดีไซน์คาแรกเตอร์เอย-มาย มาในแบบ Ep.ที่ 10 เป็นต้นไป เพราะเห็นตอนริชชี่ขอบคุณทีมงาน น้องก็ขอโทษที่ทำไม่ได้อย่างที่หวังทั้งที่กระแสตอบรับดีขนาดนี้ เลยสะดุดตั้งแต่ตอนนั้นว่าริชชี่คงโดนติเรื่องการแสดงจากทีมผู้จัดเยอะมาก แถมพอป้าอี๊ดมาชมมารีน่าว่าทำได้ดีแล้วก็ยิ่งชัดเลยว่าบทเอย-มาย แบบที่มารีน่าเล่นคือสไตล์ที่ผู้จัดต้องการ ส่วนแบบที่ริชชี่แสดงไว้น่าจะยังน้อยไป ก็เลยกดดันจนขอถอนตัวออกไป ทำให้ทีมต้องวุ่นวายหาคนใหม่มาเล่นแทน และมารีน่าก็คือคนที่เลือก
ทีนี้ตอนโปรโมท ด้วยความเป็นพี่ไก่คงไม่พูดว่าตัวเองมีปัญหาอะไรเพราะเดี๋ยวจะเสียพิคเจอร์ และไม่คิดว่าการเปลี่ยนนักแสดงจะมีปัญหาที่ส่งผลต่อคนดูขนาดนี้ ซึ่งส่วนหนึ่งก็ถือว่าเป็นสปิริตของผู้จัดที่ไม่พูดปัญหาออกมาเพราะไม่งั้นริชชี่อาจโดนเพ่งเล็งจากคนดูตั้งแต่ละครยังไม่ฉาย แถมตอนแรกน้องยังไม่กระแสดีจนมีคนปกป้องเหมือนตอนนี้ แต่สุดท้ายด้วยการแสดงและคาแรกเตอร์ตัวละครที่ริชชี่ทำคือดีงามจนคนดูหลงรักทั้งเอย-มาย พอมาต่อด้วยคาแรกเตอร์ที่ผู้จัดดีไซน์ที่แสดงโดยมารีน่ามันหลุดไปไกลจากที่ริชชี่ทำไว้ ความต่อเนื่องเลยไม่เกิด บวกกับบทที่ป่วยเลยทำให้แย่เข้าไปอีก แต่ถึงอย่างนั้นผู้จัดก็ยังเชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองคิดคือถูกต้องและเหมาะกับละครที่สุดเพราะมีประสบการณ์มานาน
ส่วนการที่ทีมงาน 3 คนอยากลาออก ก็คงมาจากการที่ริชชี่แสดงได้ไม่ตรงตามต้องการของผู้จัดซักที ทำให้คนในทีมที่เหลือต้องเหนื่อยตามไปด้วย รวมถึงตัวริชชี่เองก็คงท้อจนต้องขอถอนตัวเพื่อให้ทุกคนเดินหน้าต่อไปได้ แต่ทั้งนี้เรามองว่าการพยายามให้ริชชี่เล่นใหญ่ก็เป็นส่วนดี เพราะสไตล์น้องเป็นนักแสดงที่เล่นจากอินเนอร์ ถ้าประสบการณ์ยังน้อยหรือฝีมือไม่ถึง(ตามที่ผู้จัดหรือ ผกก.ต้องการ) ก็ต้องอาศัยการตัดต่อหรือใช้เทคนิคมุมกล้องช่วยด้วย ช่างภาพ ฝ่ายเทคนิคตัดต่อ ฯลฯ ก็ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อให้ดีพอที่ผู้จัดชอบ จนทุกคนเหนื่อยกันเป็นแถวจากการที่ผู้จัดบอกว่า "นักแสดงยังเล่นดีไม่พอ"
เลยคิดว่าเหตุการณ์นี้ที่พี่ไก่พูดก็มีส่วนถูก เพราะตราบใดที่ผู้จัดยังต้องการให้ริชชี่แสดงในแบบที่ตัวเองชอบ ทั้งที่ตัวน้องไม่ได้เป็นสไตล์นั้น ทีมงานก็คงต้องเหนื่อยและรู้สึกว่านักแสดงเป็นคนผิดที่ทำไม่ได้อย่างต้องการ แต่พอมารีน่ามาเล่นก็ได้ดั่งใจทุกอย่าง เพราะสามารถแรง เหวี่ยง ร้าย ฯลฯ ได้
แต่ด้วยความที่การตีความคาแรกเตอร์ของผู้จัด "ไม่ตรง" กับความชอบของคนดู ในขณะที่ริชชี่ตีความ "ได้ตรง" มากกว่า กระแสละครครึ่งแรกกับครึ่งหลังเลยเป็นหนังคนละม้วน ราวกับมารีน่าไม่เคยดูการแสดงครึ่งแรกของริชชี่มาก่อน ส่วนผู้กำกับ ทีมงานตัดต่อ ก็ราวกับเปลี่ยนใหม่ยกทีม เล่นเอาคนดูงงเป็นไก่ตาแตก
มาที่บทละคร...คิดว่าสาเหตุที่ผู้จัดมองว่าริชชี่เล่นได้ไม่ดีพอ คงเพราะในบทมายจะต้องแรงและร้ายขึ้นแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ เพื่อส่งต่อให้กลายเป็นนางร้ายเต็มตัว ที่พี่เหนือจะได้เทใจไปรักเอยได้แบบไม่ค้านสายตาคนดู ซึ่งพอได้เปลี่ยนเป็นมารีน่า ความร้ายของมายก็เลยเดินหน้าต่อไปพร้อมกับบทที่เปลี่ยนแบบรุนแรง ตามคอนเซปต์ "พลิกไปพลิกมา" แบบที่พี่ไก่เคยให้สัมฯไว้ ซึ่งก็อาจรวมถึงการพลิกบทเอย เหนือ ดาว ฯลฯ ให้ร้ายแบบงงๆ ส่วนบทแม่ที่วายป่วงอยู่แล้วก็ต้องเพิ่มให้วอดวายหนักขึ้นไปอีก เพื่อจะได้สมกับคำว่า "ละครเข้มข้น" จนลืมไปเลยว่า ep.1-9 เคยทำอะไรไว้ เพราะไหนๆ ก็ได้นางเอกที่เล่นได้สมใจแล้ว งานนี้ก็ลุยต่อกับบทที่ตั้งใจมานาน เพื่อที่สุดจะได้นำไปสู่การรักกันอย่างชอบธรรมของเหนือ-เอย ที่แสนจะขัดศีลธรรมและค้านสายตาคนดู
.
.
มาถึงจุดนี้ กระแสวิจารณ์ในแง่ลบที่พี่ไก่ได้รับมาตลอด บวกกับไม่ได้อ่านคำวิจารณ์อย่างละเอียดต่อเนื่อง เลยทำให้ทั้งผู้จัดและทีมงานรู้สึกว่าปัญหาทั้งหมดเกิดจากการที่ริชชี่ถอนตัว ไม่ได้เกิดจากบทและคาแรกเตอร์ที่ตัวเองดีไซน์ไว้ ทั้งที่ความจริงในสายตาคนดูสวนทางกัน แถมพัฒนาการในการวิจารณ์เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เริ่มจาก
1. การเปลี่ยนตัวนักแสดง / คนดูอารมณ์ค้าง แต่ส่วนใหญ่ยังหวังว่ามารีน่าจะไปต่อได้เพราะผูกพันกับตัวละครแล้ว
2. การแสดงที่ไม่ต่อเนื่อง / คนดูผิดหวัง แต่ยังลุ้นว่าพี่เหนือจะคู่กับใครระหว่างเอย และมาย มีบางคนไม่ชอบมารีน่าแสดง แต่หลายคนก็ให้กำลังใจ
3. บทละครที่วายป่วง / คนดูรับไม่ได้ แต่หลายคนยังจะดูจนจบเพราะอยากรู้ว่าจะจบแบบไหน
4. พี่ไก่ออกมาโทษริชชี่ / คนดูแอนตี้ กระแสตีกลับ ...จากนี้ไม่รู้จะเป็นยังไงต่อไป
สรุปแล้ว... คนดูรู้ว่าการวิจารณ์ละครเรื่องนี้มีขั้นตอนที่มายังไง เพราะบางคนก็เทละครตั้งแต่ข้อ1 บางคนก็ข้อ2, 3 แต่พอมาถึงข้อ4 ที่พี่ไก่เริ่มหมดความอดทน เลยพาทุกคนเทกระจาดย้อนไปแค่ข้อ1 เพื่อให้รู้ว่าที่มาจริงๆของความลำบากต่างๆที่ทีมงานเจอคืออะไร เพื่อเรียกความเป็นธรรมให้ตัวเอง แต่ด้วยความที่พี่ไก่ไม่ได้เปิดใจดูคำวิจารณ์ที่เติบโตตามลำดับถึงข้อ 4 กระแสเลยตีกลับ และกลายเป็นถูกขุดคุ้ยว่าในอดีตพี่ไก่เคยทำแบบนี้กับนักแสดงคนไหนบ้าง เลยยิ่งหนักเข้าไปอีก
.
.
แต่ทั้งนี้การถอนตัวของริชชี่ที่เราเขียนไว้ก็ยังเป็นแค่การคาดเดาจากหลักฐานต่างๆ ที่เห็น อาจไม่ตรงกับความจริงทั้งหมดแต่อย่างน้อยลำดับการวิจารณ์ 4 ข้อที่เราเขียนไว้มันก็เกิดขึ้นจริงแล้ว เลยอยากฝากถึงพี่ไก่และทีมผู้จัดทุกท่านว่าการตอบโต้คนดู อาจต้องเริ่มจากการอ่านคอมเมนท์คนดูอย่างจริงจัง และเปิดใจมองว่าเหตุใดคนดูถึงวิจารณ์เรื่องนี้อย่างหนัก เพราะคนดูมีหลายแบบ ยิ่งคนที่ไม่ชอบหลายอย่างแต่ดูต่ออย่างเหนียวแน่น พวกคุณยิ่งต้องรับฟังให้มากๆ แม้เค้าจะวิจารณ์แต่นี่คือประโยชน์ที่ทีมผู้จัดจะใช้พัฒนาละครต่อไป
หรือถ้าเอาแบบวิน-วิน เรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญของทีมงานทุกคนโดยเฉพาะตัวพี่ไก่ เพราะเรื่องฝีมือ ประสบการณ์ และความตั้งใจ เราว่าพี่ไก่ทำได้ดีอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ ประสบการณ์=อีโก้ ได้เหมือนกัน คนเก่งจริงจึงต้องหมั่นเปิดใจเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ โดยเฉพาะเรียนรู้กับคนที่แตกต่างจากตัวเองมากๆ ซึ่งถ้าพี่ไก่และทีมงานทุกคนเปิดใจก็จะเห็นเหมือนคนดูว่าริชชี่แสดงเรื่องนี้ได้ดีเหลือเชื่อจริงๆ จะด้วยการเคี่ยวเข็ญหรือฝีมือของน้องก็ตามแต่ทุกคนก็ได้ประจักษ์แล้วว่าทีม "ซ่อนเงารัก" ทำละครได้ดีจริงๆ จนทำให้คนที่ไม่ดูละครกลับมาดูอีกครั้ง และเชื่อว่าอนาคตจะต้องมีเรื่องที่จะได้รับคำชมทั้งหมดแน่นอน
ป.ล. อย่างที่บอกว่าหลายอย่างคือการคาดเดาของเราบวกกับข้อมูลที่เห็นจากสื่อ ถ้ามีตรงไหนเขียนพาดพิงเกินไปก็ขออภัยด้วยนะคะ และที่สำคัญขอเป็นกำลังใจให้ทั้งริชชี่ มารีน่า พี่ไก่ นักแสดงทุกคน รวมถึงทีมงานซ่อนเงารักทั้งหมด เพราะการทำงานสื่อไม่ว่าจะในแง่มุมไหนย่อมได้รับฟีดแบ็กจากคนดูแบบเลี่ยงไม่ได้ และนี่คืออีกหนึ่งโจทย์ที่ทุกคนต้องผ่านไปเพื่อเข้าสู่การพัฒนาที่ดีขึ้น สู้ๆๆ นะคะ
**เพิ่มเติม ล่าสุดคุณบอยผู้สื่อข่าวช่องวันออกมาให้ข้อมูลเรื่องริชชี่เพิ่มด้วย ข้อมูลคนละเรื่องกับพี่ม้าเลย 55555
วิเคราะห์การสลับตัวนักแสดง+โพสต์พี่ไก่
ทีนี้ตอนโปรโมท ด้วยความเป็นพี่ไก่คงไม่พูดว่าตัวเองมีปัญหาอะไรเพราะเดี๋ยวจะเสียพิคเจอร์ และไม่คิดว่าการเปลี่ยนนักแสดงจะมีปัญหาที่ส่งผลต่อคนดูขนาดนี้ ซึ่งส่วนหนึ่งก็ถือว่าเป็นสปิริตของผู้จัดที่ไม่พูดปัญหาออกมาเพราะไม่งั้นริชชี่อาจโดนเพ่งเล็งจากคนดูตั้งแต่ละครยังไม่ฉาย แถมตอนแรกน้องยังไม่กระแสดีจนมีคนปกป้องเหมือนตอนนี้ แต่สุดท้ายด้วยการแสดงและคาแรกเตอร์ตัวละครที่ริชชี่ทำคือดีงามจนคนดูหลงรักทั้งเอย-มาย พอมาต่อด้วยคาแรกเตอร์ที่ผู้จัดดีไซน์ที่แสดงโดยมารีน่ามันหลุดไปไกลจากที่ริชชี่ทำไว้ ความต่อเนื่องเลยไม่เกิด บวกกับบทที่ป่วยเลยทำให้แย่เข้าไปอีก แต่ถึงอย่างนั้นผู้จัดก็ยังเชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองคิดคือถูกต้องและเหมาะกับละครที่สุดเพราะมีประสบการณ์มานาน
ส่วนการที่ทีมงาน 3 คนอยากลาออก ก็คงมาจากการที่ริชชี่แสดงได้ไม่ตรงตามต้องการของผู้จัดซักที ทำให้คนในทีมที่เหลือต้องเหนื่อยตามไปด้วย รวมถึงตัวริชชี่เองก็คงท้อจนต้องขอถอนตัวเพื่อให้ทุกคนเดินหน้าต่อไปได้ แต่ทั้งนี้เรามองว่าการพยายามให้ริชชี่เล่นใหญ่ก็เป็นส่วนดี เพราะสไตล์น้องเป็นนักแสดงที่เล่นจากอินเนอร์ ถ้าประสบการณ์ยังน้อยหรือฝีมือไม่ถึง(ตามที่ผู้จัดหรือ ผกก.ต้องการ) ก็ต้องอาศัยการตัดต่อหรือใช้เทคนิคมุมกล้องช่วยด้วย ช่างภาพ ฝ่ายเทคนิคตัดต่อ ฯลฯ ก็ต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อให้ดีพอที่ผู้จัดชอบ จนทุกคนเหนื่อยกันเป็นแถวจากการที่ผู้จัดบอกว่า "นักแสดงยังเล่นดีไม่พอ"
เลยคิดว่าเหตุการณ์นี้ที่พี่ไก่พูดก็มีส่วนถูก เพราะตราบใดที่ผู้จัดยังต้องการให้ริชชี่แสดงในแบบที่ตัวเองชอบ ทั้งที่ตัวน้องไม่ได้เป็นสไตล์นั้น ทีมงานก็คงต้องเหนื่อยและรู้สึกว่านักแสดงเป็นคนผิดที่ทำไม่ได้อย่างต้องการ แต่พอมารีน่ามาเล่นก็ได้ดั่งใจทุกอย่าง เพราะสามารถแรง เหวี่ยง ร้าย ฯลฯ ได้
แต่ด้วยความที่การตีความคาแรกเตอร์ของผู้จัด "ไม่ตรง" กับความชอบของคนดู ในขณะที่ริชชี่ตีความ "ได้ตรง" มากกว่า กระแสละครครึ่งแรกกับครึ่งหลังเลยเป็นหนังคนละม้วน ราวกับมารีน่าไม่เคยดูการแสดงครึ่งแรกของริชชี่มาก่อน ส่วนผู้กำกับ ทีมงานตัดต่อ ก็ราวกับเปลี่ยนใหม่ยกทีม เล่นเอาคนดูงงเป็นไก่ตาแตก
มาที่บทละคร...คิดว่าสาเหตุที่ผู้จัดมองว่าริชชี่เล่นได้ไม่ดีพอ คงเพราะในบทมายจะต้องแรงและร้ายขึ้นแบบพลิกหน้ามือเป็นหลังมือ เพื่อส่งต่อให้กลายเป็นนางร้ายเต็มตัว ที่พี่เหนือจะได้เทใจไปรักเอยได้แบบไม่ค้านสายตาคนดู ซึ่งพอได้เปลี่ยนเป็นมารีน่า ความร้ายของมายก็เลยเดินหน้าต่อไปพร้อมกับบทที่เปลี่ยนแบบรุนแรง ตามคอนเซปต์ "พลิกไปพลิกมา" แบบที่พี่ไก่เคยให้สัมฯไว้ ซึ่งก็อาจรวมถึงการพลิกบทเอย เหนือ ดาว ฯลฯ ให้ร้ายแบบงงๆ ส่วนบทแม่ที่วายป่วงอยู่แล้วก็ต้องเพิ่มให้วอดวายหนักขึ้นไปอีก เพื่อจะได้สมกับคำว่า "ละครเข้มข้น" จนลืมไปเลยว่า ep.1-9 เคยทำอะไรไว้ เพราะไหนๆ ก็ได้นางเอกที่เล่นได้สมใจแล้ว งานนี้ก็ลุยต่อกับบทที่ตั้งใจมานาน เพื่อที่สุดจะได้นำไปสู่การรักกันอย่างชอบธรรมของเหนือ-เอย ที่แสนจะขัดศีลธรรมและค้านสายตาคนดู
.
.
มาถึงจุดนี้ กระแสวิจารณ์ในแง่ลบที่พี่ไก่ได้รับมาตลอด บวกกับไม่ได้อ่านคำวิจารณ์อย่างละเอียดต่อเนื่อง เลยทำให้ทั้งผู้จัดและทีมงานรู้สึกว่าปัญหาทั้งหมดเกิดจากการที่ริชชี่ถอนตัว ไม่ได้เกิดจากบทและคาแรกเตอร์ที่ตัวเองดีไซน์ไว้ ทั้งที่ความจริงในสายตาคนดูสวนทางกัน แถมพัฒนาการในการวิจารณ์เปลี่ยนไปเรื่อยๆ เริ่มจาก
1. การเปลี่ยนตัวนักแสดง / คนดูอารมณ์ค้าง แต่ส่วนใหญ่ยังหวังว่ามารีน่าจะไปต่อได้เพราะผูกพันกับตัวละครแล้ว
2. การแสดงที่ไม่ต่อเนื่อง / คนดูผิดหวัง แต่ยังลุ้นว่าพี่เหนือจะคู่กับใครระหว่างเอย และมาย มีบางคนไม่ชอบมารีน่าแสดง แต่หลายคนก็ให้กำลังใจ
3. บทละครที่วายป่วง / คนดูรับไม่ได้ แต่หลายคนยังจะดูจนจบเพราะอยากรู้ว่าจะจบแบบไหน
4. พี่ไก่ออกมาโทษริชชี่ / คนดูแอนตี้ กระแสตีกลับ ...จากนี้ไม่รู้จะเป็นยังไงต่อไป
สรุปแล้ว... คนดูรู้ว่าการวิจารณ์ละครเรื่องนี้มีขั้นตอนที่มายังไง เพราะบางคนก็เทละครตั้งแต่ข้อ1 บางคนก็ข้อ2, 3 แต่พอมาถึงข้อ4 ที่พี่ไก่เริ่มหมดความอดทน เลยพาทุกคนเทกระจาดย้อนไปแค่ข้อ1 เพื่อให้รู้ว่าที่มาจริงๆของความลำบากต่างๆที่ทีมงานเจอคืออะไร เพื่อเรียกความเป็นธรรมให้ตัวเอง แต่ด้วยความที่พี่ไก่ไม่ได้เปิดใจดูคำวิจารณ์ที่เติบโตตามลำดับถึงข้อ 4 กระแสเลยตีกลับ และกลายเป็นถูกขุดคุ้ยว่าในอดีตพี่ไก่เคยทำแบบนี้กับนักแสดงคนไหนบ้าง เลยยิ่งหนักเข้าไปอีก
.
.
แต่ทั้งนี้การถอนตัวของริชชี่ที่เราเขียนไว้ก็ยังเป็นแค่การคาดเดาจากหลักฐานต่างๆ ที่เห็น อาจไม่ตรงกับความจริงทั้งหมดแต่อย่างน้อยลำดับการวิจารณ์ 4 ข้อที่เราเขียนไว้มันก็เกิดขึ้นจริงแล้ว เลยอยากฝากถึงพี่ไก่และทีมผู้จัดทุกท่านว่าการตอบโต้คนดู อาจต้องเริ่มจากการอ่านคอมเมนท์คนดูอย่างจริงจัง และเปิดใจมองว่าเหตุใดคนดูถึงวิจารณ์เรื่องนี้อย่างหนัก เพราะคนดูมีหลายแบบ ยิ่งคนที่ไม่ชอบหลายอย่างแต่ดูต่ออย่างเหนียวแน่น พวกคุณยิ่งต้องรับฟังให้มากๆ แม้เค้าจะวิจารณ์แต่นี่คือประโยชน์ที่ทีมผู้จัดจะใช้พัฒนาละครต่อไป
หรือถ้าเอาแบบวิน-วิน เรื่องนี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญของทีมงานทุกคนโดยเฉพาะตัวพี่ไก่ เพราะเรื่องฝีมือ ประสบการณ์ และความตั้งใจ เราว่าพี่ไก่ทำได้ดีอยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ ประสบการณ์=อีโก้ ได้เหมือนกัน คนเก่งจริงจึงต้องหมั่นเปิดใจเพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ๆอยู่เสมอ โดยเฉพาะเรียนรู้กับคนที่แตกต่างจากตัวเองมากๆ ซึ่งถ้าพี่ไก่และทีมงานทุกคนเปิดใจก็จะเห็นเหมือนคนดูว่าริชชี่แสดงเรื่องนี้ได้ดีเหลือเชื่อจริงๆ จะด้วยการเคี่ยวเข็ญหรือฝีมือของน้องก็ตามแต่ทุกคนก็ได้ประจักษ์แล้วว่าทีม "ซ่อนเงารัก" ทำละครได้ดีจริงๆ จนทำให้คนที่ไม่ดูละครกลับมาดูอีกครั้ง และเชื่อว่าอนาคตจะต้องมีเรื่องที่จะได้รับคำชมทั้งหมดแน่นอน
ป.ล. อย่างที่บอกว่าหลายอย่างคือการคาดเดาของเราบวกกับข้อมูลที่เห็นจากสื่อ ถ้ามีตรงไหนเขียนพาดพิงเกินไปก็ขออภัยด้วยนะคะ และที่สำคัญขอเป็นกำลังใจให้ทั้งริชชี่ มารีน่า พี่ไก่ นักแสดงทุกคน รวมถึงทีมงานซ่อนเงารักทั้งหมด เพราะการทำงานสื่อไม่ว่าจะในแง่มุมไหนย่อมได้รับฟีดแบ็กจากคนดูแบบเลี่ยงไม่ได้ และนี่คืออีกหนึ่งโจทย์ที่ทุกคนต้องผ่านไปเพื่อเข้าสู่การพัฒนาที่ดีขึ้น สู้ๆๆ นะคะ
**เพิ่มเติม ล่าสุดคุณบอยผู้สื่อข่าวช่องวันออกมาให้ข้อมูลเรื่องริชชี่เพิ่มด้วย ข้อมูลคนละเรื่องกับพี่ม้าเลย 55555