ก่อนอื่นเราต้องขอบอกเลยว่าเรื่องที่เราจะเล่าเป็นเรื่องจริงไม่มีการเสริมแต่งใดใดทั้งสิ้น...
..ก่อนคืนกีฬาสี เราตอนม.6 ต้องไปนอนบ้านเพื่อนที่ใกล้โรงเรียนที่สุดเพื่อเตรียมอะไรหลายๆอย่าง เรากับเพื่อนอีก 2 คน กำลังช่วยกันเขียนป้ายผ้า เพื่อใช้ถือในขบวนพาเหรดก่อนถึงเช้า เพื่อนคนอื่นๆก็ทำพรอพอะไรต่างๆอยู่ในบ้าน แต่เรากับเพื่อนอีกสองคนเขียนป้ายอยู่นอกบ้าน เพราะกลัวสีหกเลาะเทอะในบ้าน เวลาตอนนั้นประมาณ สามทุ่มกว่าๆ เราก็เขียนป้ายกับเพื่อนไปเรื่อยๆ แล้วก็หยุดพูดคุยกันเรื่อยเปลื่อยจนเราสังเกตุ ว่าป้ายที่เราเขียนนั้นมีรอยเท้าคนเปื่อนดินเหยียบบนแผ่นป้าย ประมาณ 4-5 รอย เราสามคนก็พากันงง เพราะก่อนหน้านี้ ผ้าที่ใช้เขียนก็เป็นผ้าขาวปกติไม่มีรอยอะไร ก็เลยสงสัยกันเองว่าอาจมีคนใดคนหนึ่งแกล้งกันเล่น เลยให้ทุกคน มาวางเท้าเทียบรอยเท้าปริศนานั้น แต่ก็ไม่มีใครที่เท้าพอดีเป๊ะๆกับรอยเท้าปริศนา เพราะรอยนั้นใหญ่กว่าเท้าพวกเรามาก ตอนนั้นก็รู้สึกไม่ค่อยดีแล้ว แต่พวกเราก็ใจดีสู้เสือ ตัดสินใจเขียนใส่ผ้าผืนใหม่ เขียนกันจนเสร็จก็เอาไปตากบนหลังกะบะรถ รอจนสีแห้งออกมาเก็บป้ายก็เวลาประมาณสี่ทุ่มจะห้าทุ่มแล้ว ปรากฏว่ามีรอยเท้ามาเหยียบบนแผ่นป้ายอีกแล้ว ทีนี้เราก็ทิ้งป้ายแล้วรีบวิ่งหน้าตั้งเข้าบ้านหาเพื่อนเลย ตอนนั้นกลัวมากขนตัวขนหัวลุกไปหมด เพราะคงไม่มีใครไปเหยียบป้ายที่ตากผึ่งลมไว้ที่หลังกะบะตอนสี่ทุ่มห้าทุ่มแน่ๆ เพราะนอกบ้านก็ไม่มีใครอยู่แล้ว เพื่อนที่ทำงานพรอพในบ้านก็เลยถามว่าเป็นอะไร เราเลยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง แล้วถามว่าใครเป็นคนหาผ้ามา แล้วมีเพื่อนคนหนึ่งตอบว่า มันเป็นคนหาผ้ามาเอง แล้วผ้านั้นก็คือผ้าขาวห่อศพที่คนบริจาคมาแต่ยังไม่ได้ใช้ เพื่อนมันทำงานเป็นกู้ภัยเลยขอๆมา เห็นว่าน่าจะช่วยประหยัดงบสี เราก็เลยถึงบางอ้อเลยว่ารอยเท้าปริศนานั้นน่าจะเป็นรอยเท้าของ...(คนอ่านน่าจะรู้)
แล้วสรุปคืนนั้นก็พากันทำพรอพไม่เสร็จ เพราะทุกคนก็กลัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น แล้วป้ายที่เขียนพวกนั้นก็ไม่ได้เอาไปใช้ถือในขบวน
..
ปล.เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว..ตอนเราอยู่ม.6
เรื่องหลอนก่อนคืนกีฬาสี..(รอยเท้าปริศนา?)
..ก่อนคืนกีฬาสี เราตอนม.6 ต้องไปนอนบ้านเพื่อนที่ใกล้โรงเรียนที่สุดเพื่อเตรียมอะไรหลายๆอย่าง เรากับเพื่อนอีก 2 คน กำลังช่วยกันเขียนป้ายผ้า เพื่อใช้ถือในขบวนพาเหรดก่อนถึงเช้า เพื่อนคนอื่นๆก็ทำพรอพอะไรต่างๆอยู่ในบ้าน แต่เรากับเพื่อนอีกสองคนเขียนป้ายอยู่นอกบ้าน เพราะกลัวสีหกเลาะเทอะในบ้าน เวลาตอนนั้นประมาณ สามทุ่มกว่าๆ เราก็เขียนป้ายกับเพื่อนไปเรื่อยๆ แล้วก็หยุดพูดคุยกันเรื่อยเปลื่อยจนเราสังเกตุ ว่าป้ายที่เราเขียนนั้นมีรอยเท้าคนเปื่อนดินเหยียบบนแผ่นป้าย ประมาณ 4-5 รอย เราสามคนก็พากันงง เพราะก่อนหน้านี้ ผ้าที่ใช้เขียนก็เป็นผ้าขาวปกติไม่มีรอยอะไร ก็เลยสงสัยกันเองว่าอาจมีคนใดคนหนึ่งแกล้งกันเล่น เลยให้ทุกคน มาวางเท้าเทียบรอยเท้าปริศนานั้น แต่ก็ไม่มีใครที่เท้าพอดีเป๊ะๆกับรอยเท้าปริศนา เพราะรอยนั้นใหญ่กว่าเท้าพวกเรามาก ตอนนั้นก็รู้สึกไม่ค่อยดีแล้ว แต่พวกเราก็ใจดีสู้เสือ ตัดสินใจเขียนใส่ผ้าผืนใหม่ เขียนกันจนเสร็จก็เอาไปตากบนหลังกะบะรถ รอจนสีแห้งออกมาเก็บป้ายก็เวลาประมาณสี่ทุ่มจะห้าทุ่มแล้ว ปรากฏว่ามีรอยเท้ามาเหยียบบนแผ่นป้ายอีกแล้ว ทีนี้เราก็ทิ้งป้ายแล้วรีบวิ่งหน้าตั้งเข้าบ้านหาเพื่อนเลย ตอนนั้นกลัวมากขนตัวขนหัวลุกไปหมด เพราะคงไม่มีใครไปเหยียบป้ายที่ตากผึ่งลมไว้ที่หลังกะบะตอนสี่ทุ่มห้าทุ่มแน่ๆ เพราะนอกบ้านก็ไม่มีใครอยู่แล้ว เพื่อนที่ทำงานพรอพในบ้านก็เลยถามว่าเป็นอะไร เราเลยเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง แล้วถามว่าใครเป็นคนหาผ้ามา แล้วมีเพื่อนคนหนึ่งตอบว่า มันเป็นคนหาผ้ามาเอง แล้วผ้านั้นก็คือผ้าขาวห่อศพที่คนบริจาคมาแต่ยังไม่ได้ใช้ เพื่อนมันทำงานเป็นกู้ภัยเลยขอๆมา เห็นว่าน่าจะช่วยประหยัดงบสี เราก็เลยถึงบางอ้อเลยว่ารอยเท้าปริศนานั้นน่าจะเป็นรอยเท้าของ...(คนอ่านน่าจะรู้)
แล้วสรุปคืนนั้นก็พากันทำพรอพไม่เสร็จ เพราะทุกคนก็กลัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น แล้วป้ายที่เขียนพวกนั้นก็ไม่ได้เอาไปใช้ถือในขบวน
..
ปล.เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว..ตอนเราอยู่ม.6