ผมกับแฟนยังไม่แต่งงานกันนะครับ แต่คบกันมา 8-9 ปีแล้ว อยู่ด้วยกันมา 3 ปี มีลูกติดแฟน 1 คน แต่เราเข้ากันได้ดี เพราะเห็นเขามาแต่เด็กแล้ว
1.ผมทำงานประจำ ส่วนแฟนขายของออนไลน์
2.ผมทำงานแบบเข้าออฟฟิศบางวัน จึงมีเวลาช่วยแฟนขายของด้วยกัน สรุปคือผมทำงานตัวเองด้วย และช่วยกันขายของกับแฟน
3.รายได้จากการขายของเยอะกว่างานประจำ ขายของกำไรตกเดือนละ 50,000 เงินเดือนผม 28,000
4.ค่าใช้จ่ายในบ้านมาจากการขายของเป็นหลัก เพราะในบ้านมีผม แฟน ลูก และแม่แฟนอยู่ด้วยกัน 4 คน
5.รายได้จากการขายของใช้ไปกับค่าผ่อนรถเดือนละ 16,000 บาท ค่ากินอยู่ของใช้ในบ้าน ค่าเรียนลูก เดือนๆนึงใช้จ่ายในบ้านไม่ต่ำกว่า 40,000 บาท
6.รายได้จากงานประจำผมเอาไว้จ่ายค่าเช่าบ้านและน้ำไฟ ตกเดือนละ 7,000 และจ่ายค่าบำรุงรถตกเดือนละ 2,000 และให้ป้าผมเดือนละ 3,000 หลักๆ รวมเดือนละ 12,000 ที่เหลือผมเอาไว้ใช้จ่ายส่วนตัวและพาที่บ้านกินข้าวข้างนอกหรือเที่ยวเป็นครั้งคราว
ที่ผ่านมาผมใช้เงินเดือนของผมเดือนชนเดือนเลย มันมีค่าใช้จ่ายจุกจิก ค่ากิน ค่าเดินทางต่างๆ ค่าประกัน แต่ปัญหาคือ...
แฟนผมคิดว่าผมเหลือเงินไว้ และไม่ได้เอามารวมกับค่าขายของ แฟนผมคิดว่ามันควรจะเอามารวมกันเพื่อใช้จ่ายร่วมกัน หรืออย่างน้อยก็ปันส่วนนึงมาช่วยค่าใช้จ่ายในบ้านบ้าง เดือนละ 3,000-5,000 ก็ยังดี
ส่วนผมบอกแฟนว่าเดือนๆ นึงมันไม่เหลือ (ซึ่งไม่เหลือจริงๆ)
กลายเป็นว่าเราทะเลาะกัน เขาบอกว่าผมไม่แฟร์ เพราะค่าใช้จ่ายหลักๆ มาจากการขายของออนไลน์ ส่วนผมทำงานก็ใช้ของผมเองเป็นหลัก มีแต่ช่วยจ่ายค่าเช่าบ้าน
ส่วนผมลึกๆเข้าใจแฟนนะครับ แต่มันไม่เหลือจริงๆ ก็ได้แต่บอกแฟนว่ามันไม่เหลือจะให้ คี้นจะให้หารายได้เพิ่ม ผมก็ไม่มีเวลาทำอะไรเพิ่มแล้ว เพราะทำทั้งงานประจำ ทำทั้งขายของ วันๆ นอนแค่ 5-6 ชั่วโมง บางวันน้อยกว่านั่น ก็ไม่รู้จะทำยังไง
จากมุมมองพี่น้องทุกท่าน ผมควรแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไรดีครับ
ควรยกเงินให้แฟนจัดการเลยดีไหม เพราะยังไงมันก็ไม่เหลืออยู่แล้ว แต่อย่างน้อยเค้าจะได้สบายใจว่าเราให้เขาแล้ว เราก็เบิกมาใช้จ่ายของเราไปตามปกติ หรือจะแบ่งให้แฟนใช้ดี ส่วนเราก็ประหยัดแบบสุดๆ แทน เขาจะได้สบายใจขึ้น
หรือใครมีแนวทางแนะนำที่ดีกว่านี้ วอนผู้มีประสบการณ์ช่วยทีนะครับ ขอบคุณครับ
กรณีแบบนี้ ผมควรแบ่งรายได้หรือยกรายได้ให้แฟนดูแลไหมครับ?
1.ผมทำงานประจำ ส่วนแฟนขายของออนไลน์
2.ผมทำงานแบบเข้าออฟฟิศบางวัน จึงมีเวลาช่วยแฟนขายของด้วยกัน สรุปคือผมทำงานตัวเองด้วย และช่วยกันขายของกับแฟน
3.รายได้จากการขายของเยอะกว่างานประจำ ขายของกำไรตกเดือนละ 50,000 เงินเดือนผม 28,000
4.ค่าใช้จ่ายในบ้านมาจากการขายของเป็นหลัก เพราะในบ้านมีผม แฟน ลูก และแม่แฟนอยู่ด้วยกัน 4 คน
5.รายได้จากการขายของใช้ไปกับค่าผ่อนรถเดือนละ 16,000 บาท ค่ากินอยู่ของใช้ในบ้าน ค่าเรียนลูก เดือนๆนึงใช้จ่ายในบ้านไม่ต่ำกว่า 40,000 บาท
6.รายได้จากงานประจำผมเอาไว้จ่ายค่าเช่าบ้านและน้ำไฟ ตกเดือนละ 7,000 และจ่ายค่าบำรุงรถตกเดือนละ 2,000 และให้ป้าผมเดือนละ 3,000 หลักๆ รวมเดือนละ 12,000 ที่เหลือผมเอาไว้ใช้จ่ายส่วนตัวและพาที่บ้านกินข้าวข้างนอกหรือเที่ยวเป็นครั้งคราว
ที่ผ่านมาผมใช้เงินเดือนของผมเดือนชนเดือนเลย มันมีค่าใช้จ่ายจุกจิก ค่ากิน ค่าเดินทางต่างๆ ค่าประกัน แต่ปัญหาคือ...
แฟนผมคิดว่าผมเหลือเงินไว้ และไม่ได้เอามารวมกับค่าขายของ แฟนผมคิดว่ามันควรจะเอามารวมกันเพื่อใช้จ่ายร่วมกัน หรืออย่างน้อยก็ปันส่วนนึงมาช่วยค่าใช้จ่ายในบ้านบ้าง เดือนละ 3,000-5,000 ก็ยังดี
ส่วนผมบอกแฟนว่าเดือนๆ นึงมันไม่เหลือ (ซึ่งไม่เหลือจริงๆ)
กลายเป็นว่าเราทะเลาะกัน เขาบอกว่าผมไม่แฟร์ เพราะค่าใช้จ่ายหลักๆ มาจากการขายของออนไลน์ ส่วนผมทำงานก็ใช้ของผมเองเป็นหลัก มีแต่ช่วยจ่ายค่าเช่าบ้าน
ส่วนผมลึกๆเข้าใจแฟนนะครับ แต่มันไม่เหลือจริงๆ ก็ได้แต่บอกแฟนว่ามันไม่เหลือจะให้ คี้นจะให้หารายได้เพิ่ม ผมก็ไม่มีเวลาทำอะไรเพิ่มแล้ว เพราะทำทั้งงานประจำ ทำทั้งขายของ วันๆ นอนแค่ 5-6 ชั่วโมง บางวันน้อยกว่านั่น ก็ไม่รู้จะทำยังไง
จากมุมมองพี่น้องทุกท่าน ผมควรแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไรดีครับ
ควรยกเงินให้แฟนจัดการเลยดีไหม เพราะยังไงมันก็ไม่เหลืออยู่แล้ว แต่อย่างน้อยเค้าจะได้สบายใจว่าเราให้เขาแล้ว เราก็เบิกมาใช้จ่ายของเราไปตามปกติ หรือจะแบ่งให้แฟนใช้ดี ส่วนเราก็ประหยัดแบบสุดๆ แทน เขาจะได้สบายใจขึ้น
หรือใครมีแนวทางแนะนำที่ดีกว่านี้ วอนผู้มีประสบการณ์ช่วยทีนะครับ ขอบคุณครับ