▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
เที่ยวญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่น
ฮอกไกโด
เที่ยวต่างประเทศ
จับปุยนุ่นที่ Hokkaido ❄️ ~ FAMILY TRIP & NEW YEAR CELEBRATION ~
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกที่เราจะไปคือ “จุดชิววิวไซโล - ทะเลสาบโทยะ” ใช้เวลานั่งรถประมาณ 1.45ชม
ทะเลสาบโทยะนั้นเกิดมาจากการระเบิดของภูเขาไฟ ลักษณะเหมือนไข่ดาว ไข่แดงคือเกาะนากาจิมะ ส่วนไข่ขาวคือทะเลสาบนั่นเอง
พักทานอาหารกลางวันกันหน่อย ข้าวกลางวันวันนี้เป็นหลากเมนูหอยเชลล์ หอยเชลล์เป็นหอยที่ชาวบ้านแถบนี้กินกันบ่อยที่สุด ถึงกับเปรียบเปรยกันว่าในหนึ่งวันต้องกินหอยเชลล์อย่างน้อยหนึ่งมื้อ ร้านอาหารที่เราไปนั้นเป็นโรงงานทำขนมซึ่งขึ้นชื่อเรื่องขนมมันที่สุด ชื่ออะไรนั้น ก็จำไม่ได้เหมือนกันค่ะ ไกด์พูดครั้งเดียวไม่มีทวน เอาเป็นว่าขนมเค้าดังมากๆ
อาหารของชาวไอนุ ชนพื้นเมืองบนโกะHokkaido หม้อไฟหอยเชลล์ ข้าวอบหอยเชลล์ ซาชิมิหอยเชลล์ กินแต่หอยให้เบื่อกันไปเลย รสชาติอาหารจะไม่เหมือนของญี่ปุ่นแท้ๆแต่ยังคงมีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นผสมผสานกับชาวตะวันตก ข้าวอบหอยเชลล์ตัวใหญ่แบบนี้ หากินที่อื่นยากนะคะ
ด้านบนของตัวอาคารคือร้านอาหาร ด้านล่างคือร้านขายของฝาก อย่างที่ทุกคนรู้ๆกันอยู่ ขนมญี่ปุ่นส่วนใหญ่คือขนมแป้งห่อถั่ว ไม่ก็ถั่วห่อแป้ง
ขนมที่ดังที่สุดของที่นี่คือ ขนมถั่วขาวทอด (กล่องสีขาว) และ ขนมถั่วขาวย่าง (กล่องสีเหลือง) ส่วนชื่อขนมนั้นไกด์ไม่พูดซ้ำค่ะ… ใครอยากจะลองชิมขนมขึ้นชื่อหรือซื้อไปเป็นของฝาก แนะนำให้ซื้อที่ร้านในตัวเมือง Sapporo เพราะส่วนใหญ่ถ้าซื้อของฝากเกิน 5000เยน จะสามารถซื้อสินค้าแบบ Tax free ได้ และ ขนมสามารถหาซื้อได้ที่ร้านของฝากทั่วไป รมไปถึงที่สนามบิน เผลอๆราคาถูกกว่าที่โรงงานอีกนะคะ
รสชาติ based on ปาก จขกท.
ขนมถั่วขาวทอด
อธิบายแบบพื้น รสชาติเหมือนเฟรนด์ฟรายหวาน ข้างนอกกรอบ แป้งบาง ข้างในเป็นถั่วบดหวานแน่นๆ
ขนมถั่วขาวย่าง
บอกเลยว่าถ้าเทียบกับแบบทอด ชอบแบบย่างมากกว่า สิ่งแรกที่ประทับใจคือกลิ่นค่ะ กลิ่นย่างหอมมาก กลิ่นเหมือนโชยุอ่อนๆตรงเปลือกนอก ไส้ถั่วข้างในหวานๆ เป็นไส้เดียวกับแบบที่ทอด
สรุปแล้ว เหมาะกับการซื้อไปเป็นของฝากมากๆค่ะ มีความเป็นเอกลักษณ์ และ นำเสนอความเป็นHokkaidoที่ดี
นั่งรถ 15นาทีไป “โชวะชินซัง”
ก่อนหน้านี้พวกเราได้ไปยังจุดชมวิวไซโลเพื่อไปชมวิวไข่ดาวดีสวยงาม ซึ่งไซโลเนั้นอยู่ฝั่งเหนือ ครั้งนี้เราจะมาฝั่งตรงข้าม ฝั่งใต้ที่โชวะชินจัง นั่งกระเช้าไปชมปากภูเขาไฟโชวะชินซัง และ ทะเลสาบโทยะอีกครั้ง ยังมีควันลอยขึ้นมาอยู่เลยทุกคน วันนี้ขึ้นกระเช้าได้เพราะอากาศดีมากค่ะ แดดตามมากจากไทย
ถ้ามีเวลาอยากให้ทุกคนเดินไปดูปล่องภูเขาไฟอุซุ ที่เค้าว่ากันว่าจะระเบิดทุกๆ 30ปี ปีนี้ก็ปีที่ 20กว่าอะเนอะ น่ากลัวจริงๆ
หลังจากชมวิวสวยๆก็ไปดูหมีสีน้ำตาลที่ สวนหมีโชวะชินซัง หมีสายพันธุ์นี้สามารถหาได้ที่เกาะ Hokkaido เท่านั้น สังเกตุดีๆคือหูของมันจะมินิกว่าหมีสีน้ำตาลปกติ น้องน่ารักเหมือนตุ๊กตาเลย แต่ก็อดสงสารน้องที่ขังอยู่ในกรง เศร้าจริงๆที่น้องกินอาหารที่คนให้ไม่ได้ เศร้าเหมือนน้องตุ๊กตา
เดินทางอีก 1ชมไป “เมืองโนโบริเบ็ทสึ” หรือที่คนไทยเรียกว่าหุบเขานรก ความร้อนจากปล่องภูเขาไฟทำให้เกิดไอน้ำลอยขึ้นมา เยี่ยมชมตาน้ำร้อนตรงกลึ่งกลางของปากป่องภูเขาไฟที่ยังหลงเหลืออยู่ หน้าตาเหมือนในหนังแฟนเดย์เลยจ๊า
คืนนี้พักที่เมืองโนโบริเบ็ทสึค่ะ โรงแรม Noboribetsu Grand Hotel โรงแรมแบบกึ่งเรียวกัง ขึ้นชื่อเรื่องออนเซ็น คนญี่ปุ่นจำนวนไม่น้อยมาพักที่โรงแรมนี้
เมืองนี้เป็นเมืองที่เล็กๆ ส่วนใหญ่ตอนกลางคืนแทบไม่เจอชาวบ้านเลย เจอแต่ จีน เกาหลี ไทย 555 ไกด์บอกว่าที่นี่เป็นที่ที่คนอายุมากแล้วอยู่ พวกหนุ่มๆสาวๆจะย้อยเข้าไปทำงานในตัวเมืองซัปโปโร ก็เลยเปิดเป็นเมืองท่องเที่ยวไปเลย เมื่อเดินเข้าไปในตัวเมืองเราสามารถเจอรูปปั้นยักษ์ได้เกือบทุกที่เลยเพราะคนโนโบริเบ็ทสึนับถือยังษ์นั่นเอง