สงครามท็อปโฟร์ 4 บนตาราง พรีเมียร์ลีก! & คู่แข่งจัดกันเต็ม!แลมพาร์ดรับเชลซีเป็นรองทีมชิงท็อปโฟร์

สงครามท็อปโฟร์ 4 บนตาราง พรีเมียร์ลีก!

​พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้เรื่องลุ้นแชมป์อาจจะไม่ค่อยน่าตื่นเต้นซักเท่าไหร่ เมื่อ​ ลิเวอร์พูล ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ จัดการควบตะบึงไล่บดชนะทั้ง 19 ทีมในลีกได้ครบหมดจดเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์เป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่บุกไปเอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ไปแบบไม่ต้องลุ้นเยอะด้วยสกอร์ 2-0 เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา 



หงส์แดง ทิ้ง​ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนิดที่เรียกว่าไม่เห็นฝุ่น PM 2.5 แบบสุดกู่ถึง 19 คะแนนจากการลงสนาม 24 นัดเท่ากัน ขอแค่เก็บชัยชนะอีกแค่ 8 นัดหรือ 24 คะแนนต่อจากนี้ พวกเขาก็จะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีและจะเป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก ครั้งแรกนับตั้งแต่ที่มีการก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1992

นั่นมันเป็นเรื่องของบนหัวตาราง ซึ่งก็น่าจะทราบผลในอีก 2-3 เดือนนี้

แต่ที่น่าตื่นเต้นและเร้าใจยิ่งกว่าสำหรับลีกสูงสุดของเมืองผู้ดีในซีซันนี้ก็คือ การลุ้น 'อันดับ 4' หรือ 'ท็อปโฟร์' โควต้า ​ยูฟา แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งเป็นพื้นที่ทองคำของบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ในยุคนี้

สถานการณ์บนตารางในการลุ้นท็อปโฟร์ที่เอาเข้าจริงน่าจะเรียกว่าการ 'ลุ้นอันดับ 4' น่าจะชัดกว่านั้นไม่อนุญาตให้แฟนบอลได้กระพริบตาและหายใจหายคอกันเลยแม้แต่นาทีเดียว



ตอนนี้ทีมที่เกาะอันดับ 4 อย่างเหนียวแน่นก็คือ​ เชลซี ของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ซึ่งมี 40 คะแนน โดยที่ช่วงหลัง ๆ มานี้บรรดาดาวรุ่งของพี่แกเข้าข่าย 3 วันดี 4 วันพ่าย เดี๋ยวแพ้ เดี๋ยวชนะ เดี๋ยวเสมอ ทำเอาสาวก สิงห์บลู หายใจไม่ทั่วท้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ณ เวลานี้ทีมอันดับรองลงมาตั้งแต่อันดับ 5-7 กำลังค่อย ๆ ทำผลงานคืบคลานเข้ามาเรื่อย ๆ 

​แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ​ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ และ วูล์ฟแฮมตัน คือทีมอันดับ 5-7 ที่ว่านั้น ทั้ง 3 ทีมนี้มี 34 คะแนนเท่ากัน ห่างจาก สิงโตน้ำเงินคราม เพียง 6 คะแนนในขณะที่เหลือการเแข่งขัน 14 เกม และไอ้ช่องว่างเพียงแค่ 6 คะแนนก็สามารถพลิกไปมาได้ในช่วงเวลาแค่ 2-3 เกมต่อจากนี้

แต่ก็ใช่ว่าทีมอันดับ 5-7 จะนิ่งนอนใจได้ เพราะพวกเขายังมี เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ซึ่งถือได้ว่าเป็น 'น้องใหม่ไฟแรง' ที่เกาะขบวนตามหลังมาแบบหายใจรดต้นคอมาในอันดับ 8 ด้วยการมี 33 คะแนน ยังไม่นับพวกที่มี 31 และ 30 คะแนนไล่ไปตั้งแต่อันดับ 9-14 ซึ่งถ้าทีมเหล่านี้ไล่เก็บแต้มได้ 2-3 เกมติด ๆ กันก็อาจจะกระโดดขึ้นมาถึงอันดับ 5 เลยก็เป็นได้
 

นั่นทำให้ เชลซี เองที่รั้งโควต้าสุดท้ายในการไป แชมเปี้ยนส์ลีก ใช่ว่าจะนั่งบนภูดูเพื่อน ๆ เค้าตะลุมบอนกันสบาย ๆ เพราะตัวเองถ้าเกิดยังทำผลงานตะกุกตะกักแบบนี้ก็มีสิทธิ์น้ำตาร่วงหลังพวงมาลัยได้เช่นกัน



กลายเป็นว่าเรื่องของการลุ้นแชมป์นั้นไม่ได้มีอะไรให้น่าตื่นเต้น แค่รอลุ้นว่า ลิเวอร์พูล จะได้แชมป์เมื่อไหร่ และทำลายสถิติตอะไรได้บ้าง ส่วน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ เลสเตอร์ ซิตี้ นั้นก็ก้มหน้าก้มตาเก็บแต้มของตัวเองต่อไปเรื่อย ๆ รักษาสถานภาพที่มีอยู่ให้อยู่ได้ตลอดรอดฝั่งน่าจะเพียงพอ

ส่วนพื้นที่ที่เหลืออีกเพียง 1 โควต้านั้นคือสมรภูมิเดือดที่มีทีมที่มีลุ้นอย่างจริงจังไม่ต่ำกว่า 4 ทีม
ความร้อนระอุยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมกราคม โดยเฉพาะทีมระดับท็อปซิกที่มีลุ้นท็อปโฟร์ต่างพากันเสริมทัพเฮือกสุดท้ายเพื่อโควต้าที่ทุกคนหวังไว้

แมนฯ ยูไนเต็ด จัดทีเด็ดมาตัวเดียวเน้น ๆ อย่าง บรูโน แฟร์นันเดส ที่สาวก ปีศาจแดง คงไม่ต้องรออีก 48 ชั่วโมงต่อไปเนื่องจากนักเตะบินมาตรวจร่างกายและน่าจะพร้อมลงช่วยทีมอย่างช้าก็อาจจะเป็นเกมสัปดาห์หน้าโน้น

ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ทีมอันดับ 6 ที่มีคะแนนเท่ากันกับ ผีแดง ก็ได้ปีกตัวใหม่จาก พีเอสวี อย่าง เบิร์กไวจ์น และจัดการมอบสญญาถาวรให้ โจวานนี โล เซลโซ ที่ยืมมาจาก เบติส เป็นที่เรียบร้อยแม้จะเสีย คริสเตียน เอริคเซน ไปก็ตาม



ส่วน ​อาร์เซนอล ซึ้งรั้งอันดับ 10 บนตาราง แม้ว่าจะมีแต้มห่างจากโควต้า แชมเปี้ยนส์ลีก ถึง 10 แต้ม แต่พวกเขาก็พยายามดิ้นสุดตัว และมีแนวโน้มที่น่าจะดีขึ้นหลังได้ มิเกล อาร์เตต้า มาคุมทีม โดยปเพิ่งประกาศคว้าตัว ปาโบล มารี กองหลังสแปนิชมาเสริมหลังบ้านหลังจากยื้อกับ ฟลาเมงโก้ มาพอหอมปากหอมคอ

คงมีเพียง เชลซี ที่เป็นข่าวกับคนนั้นคนนี้เพียงอย่างเดียว โดย แฟรงค์ แลมพาร์ด ผู้เป็นกุนซือก็ได้แต่ออกมากระตุ้นให้ ปีเตอร์ เช็ค และ มารีนา กรานอฟสเกีย 2 ผู้บริหารรีบทำงานด่วนก่อนตลาดวาย 

ยังไม่นับทีมที่พร้อมสอดแทรกอย่าง วูล์ฟแฮมตัน, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด หรือ เอฟเวอร์ตัน แม้ตัวเลขอันดับจะดูห่างไกลแต่คะแนนไม่ได้ห่างกันซักเท่าไหร่นัก

14 นัดต่อจากนี้ทุกทีมที่ยังมีลุ้นจะมาเต้นโป๊งชึ่งกันเหมือนที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว พวกเขาต้องสร้างความคงเส้นคงวาเพื่อเป้าหมายสูงสุดในการกลับไปเล่นใน แชมเปี้ยนส์ลีก กันอีกครั้งให้ได้ โดยเฉพาะทีมท็อปซิกของเมืองผู้ดี

เพราะหากพลาดอันดับ 4 บ่อย ๆ อาจส่งผลให้บางทีมกลายเป็น 'ทีมกลางตาราง' โดยสมบูรณ์แบบเลยก็เป็นได้



cr : www.goal.com/th

คู่แข่งจัดกันเต็ม!แลมพาร์ดรับเชลซีเป็นรองทีมชิงท็อปโฟร์

แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือ เชลซี ระบุ ตอนนี้ "สิงโตน้ำเงินคราม" เป็นรองทีมอื่นๆ ที่แย่งพื้นที่ท็อปโฟร์ด้วยกัน หลังจากไม่ได้แข้งใหม่เลยในช่วงเดือนมกราคม สวนทางกับทีมอื่นๆ ที่เสริมทัพได้สำเร็จ

แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผู้จัดการทีม เชลซี ยอดสโมสรของวงการ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าตอนนี้ทีมของตนเป็นรองบรรดาคู่แข่งรายอื่นๆ ที่ชิงพื้นที่ 4 อันดับแรกของตารางคะแนนด้วยกันแล้ว เนื่องจาก "สิงโตน้ำเงินคราม" ไม่ได้นักเตะหน้าใหม่มาร่วมทัพเลยในตลาดซื้อ-ขายนักเตะ รอบ 2 ที่เพิ่งปิดตัวลงไป

ตอนแรก เชลซี โดนสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ลงโทษห้ามลงทะเบียนนักเตะหน้าใหม่ในตลาดช่วงหน้าหนาวของปี 2020 จากความผิดฐานดึงนักเตะอายุต่ำกว่าเกณฑ์มาร่วมทัพในช่วงหลายปีก่อน แต่สุดท้ายพวกเขาก็อุทธรณ์ผ่านจนทำให้หลายคนคาดว่ายอดทีมแห่งถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ จะเสริมทัพแบบเต็มที่ เพราะเดิมที โรมัน อบราโมวิช เศรษฐีชาวรัสเซียก็ขึ้นชื่อเรื่องชอบทุ่มเงินช็อปอยู่แล้ว และ เชลซี ก็จำเป็นต้องทำให้ทีมแข็งแกร่งเพื่อรักษาอันดับ 4 ของตารางคะแนนให้ได้ด้วย หลังจากตอนนี้พวกเขานำหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เป็นอันดับ 5 อยู่ 6 คะแนน

อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดแล้วทีมของ แลมพาร์ด ก็ไม่มีนักเตะหน้าใหม่มาร่วมทีมเลย ทั้งที่มีข่าวกับแข้งหลายราย อย่างเช่น เอดินสัน คาวานี่ หัวหอก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ ดรีส์ เมอร์เท่นส์ ตัวรุกของ นาโปลี เป็นต้น ในทางกลับกัน แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ทั้ง บรูโน่ แฟร์นันด์ส และ โอเดียน อิกาโล่ มาร่วมทัพ ส่วน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่เป็นอันดับ 6 ก็ปิดดีลกับทั้ง เจดสัน แฟร์นันด์ส และ สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น ได้สำเร็จ แม้กระทั่ง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมในอันดับ 8 ยังได้แข้งใหม่มาร่วมทีมบ้างเลย

หลังจากโดนถามว่าเขากังวลกับการที่ทีมอื่นๆ เสริมทัพได้ ต่างกับ เชลซี ที่ไม่ได้ใครมาร่วมทีมเลยหรือไม่นั้น แลมพาร์ด ก็ตอบว่า "ใช่ ผมรู้สึกกังวล ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่ความจริงที่เกิดขึ้นก็คือเราไม่ได้ทำการเสริมทัพเลย เรื่องราวของตลาดการเสริมทัพมันเป็นแบบนั้น"

"ในความคิดของผม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เซ็นสัญญากับนักเตะระดับโลก (หมายถึง แฟร์นันด์ส) ส่วนทีมอื่นๆ ที่มีอันดับใกล้เคียงกับเรา อย่างเช่น เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ก็ทำการเสริมทัพที่ยอดเยี่ยมได้ในบางราย สาเหตุที่ คริส ไวล์เดอร์ มีผลงานที่ยอดเยี่ยมมันก็เป็นเพราะเขาทำงานร่วมกับนักเตะหลายคนในชุดนี้มาหลายปี แล้วตอนนี้พวกเขายังเสริมทัพในจุดที่พวกเขาคิดว่าจำเป็นต้องเสริมทัพได้อีก ขณะที่ ท็อตแน่ม ก็เซ็นสัญญากับนักเตะบางรายเหมือนกัน และพวกเขาก็ไม่ได้อยู่ห่างจากเรามากเท่าไหร่เช่นกัน"

"ที่ผมมาพูดแบบนี้ไม่ใช่เพราะอยากทำให้เราหดหู่หรอกนะ เพราะเราเป็นอันดับ 4 โดยที่ทิ้งห่างอยู่ 6 แต้ม แต่จากมุมมองของผมน่ะ ตอนนี้เราอาจจะเป็นรองทีมอื่นๆ แล้ว เพราะบรรดาทีมที่อยู่ใกล้กับเราได้ทำการเสริมทัพกันอย่างเต็มที่ นั่นคือข้อเท็จจริง"



cr : www.siamsport.co.th
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่