[SR] Movie Review : Better Days - ไม่มีวัน ไม่มีฉัน ไม่มีเธอ (10/10)

Better Days (Derek Tsang / 2020)

SCORE : 10/10

ช่วงเวลาสมัยเรียนมัธยมฯ อาจเป็นช่วงเวลาอันแสนสุขสำหรับคนจำนวนมาก แต่สำหรับ เฉินเหนียน มันไม่ต่างอะไรกับการตกนรกทั้งเป็น เพราะหลังจากเพื่อนสนิทเสียชีวิตโดยมีต้นเหตุมาจากการกลั่นแกล้งในโรงเรียน เธอก็กลายเป็นเป้าหมายใหม่ โดนใครต่อใครทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจเสมอ จนกระทั่ง เสี่ยวเป่ย ก้าวเข้ามาในชีวิต จากภายนอก เสี่ยวเป่ย อาจดูเป็นผู้ชายแบดบอยมาดร้าย แต่ภายในเขามีจิตใจดีงาม และยังปฏิบัติต่อ เฉินเหนียน อย่างให้เกียรติที่สุด ท่ามกลางผู้คนและสภาพสังคมอันโหดร้าย การมีเขาอยู่เคียงข้างคือกำลังใจในการใช้ชีวิตอยู่ต่อ พร้อมกับความหวังถึงอนาคตภายหน้าที่ดีกว่าวันนี้
.
นี่คือหนังที่เรารอคอยให้เข้าฉายในไทยมากที่สุด ซึ่งเราชอบตั้งแต่ตัวอย่าง อีกทั้งมารู้ภายหลังว่าหนังได้รับคำแนนวิจารณ์อย่างท้วมท้นจากทุกสื่ออีก ซึ่งพอได้ดูเราก็ต้องค้นพบเลยว่า คะแนนต่างๆ ที่หนังเรื่องนี้ได้มา มันไม่ได้เกิดจากการอวย เพราะมันคือหนังที่ยอดเยี่ยมในทุกอย่าง จนเรายกให้เป็น 1 ในหนังที่ต้องติดลิสต์หนังที่เรารักมากที่สุดประจำปีนี้อย่างแน่นอน
.
ตัวหนังมีการพูดถึงประเด็นการบูลลี่กันภายในโรงเรียนได้อย่างชัดเจน ซึ่งประเด็นมันรุนแรง และเกิดขึ้นอยู่ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง (ไม่เว้นแม้แต่สังคมไทย) แม้ในขณะที่คุณกำลังอ่านรีวิวหนังเรื่องนี้อยู่ ก็คงมีคนกำลังโดนบูลลี่อยู่เช่นเดียวกัน นอกจากนั้นแล้ว ตัวหนังยังมีการวิพากษ์วิจารณ์กรอบทางสังคมที่ให้คุณค่าของการศึกษาเป็นที่สุด สังคมที่ผู้ใหญ่มองต่อเด็ก หนังมีพูดถึงประเด็นละเอียดอ่อนเหล่านี้อย่างตรงตัว รุนแรง และเต็มไปด้วยอารมรณ์ จนทำให้หนังสะท้อนสังคมหลายเรื่องยอมแพ้ได้เลย เราค้นพบว่าวัตถุดิบเหล่านี้เป็นสิ่งที่หนังและซีรีส์หลายเรื่องหยิบเอามาพูดถึง เพราะมันใกล้ตัวและ touch ได้ง่ายมากๆ แต่คงไม่มีหนังเรื่องไหนที่จะเล่าเรื่อราวเหล่านั้นออกมาได้รุนแรงเท่าเรื่องนี้แล้ว
.
เราค้นพบว่าหนังมันมีความเป็นมนุษย์สูงมาก ที่จะทำให้เราไม่ต้องเกลียดตัวละครใดภายในเรื่อง ตัวหนังค่อยๆ พาเราไปทำความรู้จักทุกๆ ตัวละคร ผ่านมุมมองและทัศนคติในแบบต่างๆ ตัวละครแต่ละตัวมีมิติและเรื่องราวที่แตกต่างกัน น่าสนใจ และเต็มไปด้วยข้อเท็จจริงของสังคม ความต่างทางชนชั้น กรอบทางสังคม การเลี้ยงดูของพ่อแม่ ทุกอย่างมีส่วนที่ทำให้ทุกตัวละครแต่ละตัวมีแรงขับเคลื่อนในแบบของมันที่จะทำบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งพอเราเข้าใจทุกตัวละคร เราจะเกลียดพวกเขาลงได้ไงอะ ทั้งเด็กที่โดนบูลลี่จนต้องกระทำการบางอย่าง, เด็กที่ชีวิตไม่เคยมีใครเห็นคุณค่า, การเลี้ยงดูของผู้ปกครองที่บีบคั้นให้เด็กต้องกระทำการบางอย่าง รวมไปถึง การทำงานและอำนาจของผู้ใหญ่ที่เข้ามามีส่วนในชีวิตของเด็กๆ (และอดีตของผู้ใหญ่เหล่านั้น ในวันที่โตขึ้น) ผนวกเข้ากับความรักของวัยรุ่นสองคนที่ใจแตกสลายและต้องเยียวยาซึ่งกันและกัน นอกจากจะไม่เกลียดตัวไหนแล้ว ยังเอาใจช่วยสองตัวละครหลักเรื่องนี้อีก
.
นอกจากประเด็นของหนังที่โดนใจเราแบบสุดๆ แล้ว หนังยังมีการใช้ศาสตร์ทางภาพยนตร์ให้เข้ามามีบทบาทในการเล่าเรื่องสูงมากๆ ทั้งพาร์ทการเล่าเรื่องที่ไม่ได้เล่าเป็นเส้นตรง หนังเลือกใช้จังหวะต่างๆ ได้เก่ง และมีสไตล์เป็นของตัวเองสุดๆ การหยิบยกเพลงมาใส่และเอาออก การค่อยๆ บิ๊วท์และพาผู้ชทให้ค่อยๆ รู้สึกและซึมซับไปในห้วงความรู้สึกต่างๆ ทั้งในพาร์ทของตัวเรื่องและพาร์ทของตัวละคร นั่นจึงทำให้เราตลอดการรับชมเรารู้สึก สุข เศร้า เหงา ซึ้ง น้ำตาคลอ และอิ่มเอิบไปกับเรื่องราวเหล่านี้แบบสุดๆ
.
อีกสิ่งหนึ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้คือนักแสดง อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เรารอคอยหนังเรื่องนี้ก็เพราะนักแสดงด้วแหละ โดยนักแสดหลักที่เราชอบอย่าง Zhou Dongyu ซึ่งหนังเรื่องก่อนๆ ที่เราเคยดูของเธอมี Us and Them และ Animal World ซึ่งทั้งสองเรื่องทำให้เราหลงรักการแสดงของเธอมากๆ จนมาถึงเรื่อง Better Days ซึ่งเรื่องนี้เหมือนปลดล็อคการแสดงไปอีกขั้นอะ การแสดงของเธอในเรื่องนี้คือทรงพลังอย่างแท้จริง นั่นจึงทำให้จากปกติที่หลงรักอยู่แล้ว ทวีความหลงรักมากขึ้นไปอีก
.
โดยรวมนี่คือหนังที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเป็นมนุษย์และนำเสนอประเด็นการบูลลี่รวมทั้งวิพากษ์วิจารณ์สังคมได้อย่างจัดเต็มที่สุด ไม่มีเหตุผลข้อไหนที่จะทำให้ไม่ไปดูหนังเรื่องนี้ และแน่นอน หนังเรื่องนี้ต้องติดอยู่ในลิสต์หนังยอดเยี่ยมประจำปีของเราอย่างแน่นอน .
ชื่อสินค้า:   Better Days ไม่มีวันไม่มีฉันไม่มีเธอ
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่