รุ่นต้นแบบหายากของปืนกลมือ PPSh-41
ข้อมูลเบื้องต้นของปืนกลมือ PPSh-41
PPSh-41 พีพีชา-41 (pistolet-pulemyot Shpagina; รัสเซีย: Пистолет-пулемёт Шпагина; "Shpagin machine pistol") เป็นปืนกลมือของโซเวียตที่ออกแบบโดย Georgy Shpagin ที่มีราคาถูก, มีความน่าเชื่อถือและใช้งานง่ายกว่าปืนกลมือพีพีดี-40.แบบเก่ามันมีชื่อเล่นในภาษารัสเซียว่า pe-pe-sha หรือ papasha มีความหมายว่า พ่อ หรือ ป๊ะป๋า
พีพีชา-41 เป็นปืนกลมือประจำกายแบบซองกระสุนที่ใช้งานแบบเปิดลูกเลื่อนและทำให้ปืนสะท้อนถอยหลัง (Blowback) ส่วนใหญ่มันทำมาจากการปั๊มเหล็กกล้า สามารถบรรจุกระสุนได้ด้วยซองกระสุนแบบกล่องหรือแบบตลับหอยโข่ง (drum magazine) และยิงด้วยกระสุน 7.62×25 มม. โทกาเรฟ PPSh-41 เป็นปืนที่เลือกยิงแบบ select-fire weapon สามารถยิง ในโหมด Semi auto และ Full auto โดยตัวปรับโหมดจะอยู่ที่ด้านหน้าของไกปืนภายนอกคือครอบกันความร้อนที่ยาวตลอดลำกล้องพร้อมกับมี muzzle brake / muzzle flip compensator.หรือตัวลดแรงสะบัดและชดเชยการเงยของลำกล้อง
พีพีชา-41 ถูกใช้อย่างแพร่หลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและสงครามเกาหลีเป็นหนึ่งในอาวุธยุโธปกรณ์หลักของกองทัพโซเวียตในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นอกจากนี้ยังมีการผลิตปืนจำนวนประมาณหกล้านกระบอกในรูปแบบของจีนอย่าง Type 50 (ซึ่งได้รับสิทธิบัตรในการผลิต) และยังถูกใช้งานโดยเวียดกงตลอดช่วงสงครามเวียดนามและในภูมิภาคอื่นๆทั่วโลกเช่น ยุโรปตะวันออก แอฟริกา และ ตะวันออกกลาง ในบทนี้จะนำเสนอรุ่นต้นแบบและหายากของปืนกลมือชนิดนี้
1. PPSh-41 รุ่นต้นแบบพานท้ายถอดได้
2. PPSh-2
ในช่วงปี 1942 กองทัพโซเวียตมีการร้องขอปืนกลมือชนิดใหม่มาเพื่อใช้แทนที่ PPSh-41 ที่มีน้ำหนักและอัตราการยิงที่สูงมากเกินไปรวมถึงต้นทุนที่ถึงแม้จะถูกอยู่แล้วแต่ก็ยังถูกร้องขอให้ออกแบบปืนกลมือชนิดใหม่เพื่อลดต้นทุนอยู่ดีโดย PPSh-2 มีอยู่ 2 รุ่น คือแบบพานท้ายไม้เต็มแต่สามารถถอดออกมาได้และอีกรุ่นหนึ่งที่เป็นแบบเหล็กพับซองกระสุนของปืนชนิดนี้มีแต่แบบ 35 นัดซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาจากที่มีซองกระสุนแบบ 71 นัดซึ่งขัดข้องได้ง่ายอัตราการยิงถูกลดลงจากรุ่น PPSh-41 ให้เหลือแค่ 550 นัดต่อนาทีอย่างไรก็ตามถึงปืนกลมือชนิดนี้จะออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการนั้นแต่ปืน PPS คือปืนที่ชนะการประกวดจัดหาปืนกลมือในครั้งนั้น
PPS ออกแบบโดย Alexei Sudayev
3. PPSh-45
เป็นรุ่นต้นแบบที่สร้างในปี 1945 โดยตัวปืนนั้นไม่มีไม้เป็นส่วนประกอบอีกแล้วแต่เป็นเหล็กปั้มที่ช่วยในการผลิตได้ง่ายขึ้นพานท้ายแบบพับโดยสามารถพับเก็บได้เพื่อความสะดวกในการพกพาโดยสร้างเอาไว้ 2 รุ่นคือรุ่น 1 ใช้ซองกระสุนได้ทั้งแบบกล่องบรรจุ 35 นัดและแบบตลับหอยโข่ง 71 นัดกับอีกรุ่นหนึ่งที่ใช้ได้แต่แบบกล่อง 35 นัดอย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้รับการผลิตจำนวนมากเพื่อเข้าประจำการเพราะในช่วงเวลานั้นการพัฒนาอาวุธปืนของสหภาพโซเวียตเน้นไปที่ปืนไรเฟิลจู่โจมแล้ว
4. PPSh-41 ลำกล้องโค้ง
หลังสงครามมีการสร้าง PPSh-41 ลำกล้องโค้งเพื่อทำให้ทหารสามารถยิงจากหลุมเพลาะหรือมุมตึกได้โดยไม่ต้องออกจากที่กำบังแต่ผลการทดสอบที่ไม่เป็นที่น่าพอใจปืนไม่มีความแม่นยำแม้จะอยู่ในระยะใกล้เพียง 100 เมตรทำให้รุ่นต้นแบบนี้ไม่ได้รับการพัฒนาต่อ.
(เป็นที่สังเกตว่ารุ่นต้นแบบนี้อาจได้รับแนวคิดมาจากอุปกรณ์เสริมลำกล้องโค้งของ STG-44)
5. PPSh-41 รุ่นต้นแบบติดตั้งกล้อง Night Vision
ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่ได้มีเพียงเยอรมันชาติเดียวเท่านั้นที่สามารถสร้างกล้อง Night Vision สำหรับใช้กับปืนได้โซเวียตก็ทำได้เช่นกันโดยต้นแบบกระบอกนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1943
6. Tupolev Tu-2Sh “Gunship”
เป็นการนำปืนกลมือแบบ PPSh-41 จำนวน 88 กระบอก ใช้ซองกระสุนแบบ Drum magazine บรรจุ 71 นัด ดัดแปลงโดยการติดตั้งในใต้ท้องของเครื่องบินทิ้งระเบิด Tupolev Tu-2Sh ทำมุม 45องศา มันจึงได้ฉายาว่า “Flaming Hedgehog“ หรือ "เม่นเพลิงนรก"
ถูกนำไปทดลองในปี 1946 แต่การปฏิบัติงานต้องบินลงต่ำให้อยู่ในระยะทำการของปืนกลมือ PPSh-41 ซึ่งสามารถใช้ได้กับทหารราบที่อยู่ในที่ไม่มีกำบังอย่างดีแต่มันเสี่ยงกับการถูกยิงด้วยอาวุธต่อสู้อากาศยานนานาชนิดโครงการก็เลยยุติการพัฒนาไปในที่สุด
7. "Criminal" converted PPSh
ภายหลังที่สหภาพโซเวียตล่มสลายรัสเซียเข้าสู่ยุคทุนนิยมแต่ปัญหาที่ตามมาก็คือเมื่อทุกอย่างเปิดกว้างอาชญากรรมก็สูงขึ้น จึงไม่แปลกที่จะมีอาวุธปืนจำนวนมากถูกใช้โดยแก๊งอาชญากรที่เกิดขึ้นใหม่หลังการล่มสลายของคอมมิวนิสต์ PPSh กระบอกนี้จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กระทรวงกิจการภายในของรัสเซีย
8. PPSh ดัดแปลงของชาวโครเอเชีย (บางกระบอกมีท่อเก็บเสียงด้วย)
หลังสงครามประกาศอิสรภาพโครเอเชียสามารถตั้งประเทศได้แต่ในช่วงของการตั้งประเทศใหม่นั้นติดกฎหมายระหว่างประเทศที่ว่าด้วยการห้ามส่งอาวุธปืนให้กับประเทศเกิดใหม่ทางทะเลจึงเป็นเหตุให้กองทัพโครเอเชียต้องผลิตปืนกลมือขึ้นมาเองหลายๆชนิดรวมถึงดัดแปลงของเก่าที่มีอยู่แล้วด้วยปืนพวกนี้ก็คือผลจากยุคสมัยนั้น
PPSh-41 ในสงครามอิรัก
ในตอนที่สงครามอิรักกองทัพสหรัฐสามารถยึดปืนกลมือ PPSh-41 จากทหารและผู้ก่อความไม่สงบของอิรักได้เป็นจำนวนไม่น้อยเลยบางส่วนถูกนำเข้าไปรวมเก็บไว้และบ้างกระบอกถูกเอามาใช้เป็นของเล่นของทหารสหรัฐบางคนถึงกับติดตั้งกล้องเล็งและอุปกรณ์เสริมแบบเดียวกับที่ใช้กับปืน M16 ของพวกเขาเลยทีเดียว
แม้ว่า PPSh-41 จะเป็นอาวุธจากสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่มันก็ยังคงถูกใช้งานอยู่จนถึงทุกวันนี้ในบางพื้นที่ที่มีความขัดแย้งในตะวันออกกลางและยุโรปตะวันออกอย่างเช่นยูเครนซึ่งสงครามกับฝ่ายแบ่งแยกดินแดนยังคงไม่จบสิ้นตราบใดที่มันจะถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีและยังมีกระสุนอยู่ก็เป็นที่เชื่อได้อย่างแน่นอนว่า PPSh-41 จะยังคงทำหน้าที่ของมันต่อไป.
แหล่งอ้างอิง
https://www.thefirearmblog.com/blog/2017/08/10/rare-experimental-versions-soviet-ppsh-submachine-gun/
http://www.ppsh41.com/serge3.htm
สารานุกรมปืนตอนที่ 325 รุ่นต้นแบบหายากของปืนกลมือ PPSh-41
ข้อมูลเบื้องต้นของปืนกลมือ PPSh-41
PPSh-41 พีพีชา-41 (pistolet-pulemyot Shpagina; รัสเซีย: Пистолет-пулемёт Шпагина; "Shpagin machine pistol") เป็นปืนกลมือของโซเวียตที่ออกแบบโดย Georgy Shpagin ที่มีราคาถูก, มีความน่าเชื่อถือและใช้งานง่ายกว่าปืนกลมือพีพีดี-40.แบบเก่ามันมีชื่อเล่นในภาษารัสเซียว่า pe-pe-sha หรือ papasha มีความหมายว่า พ่อ หรือ ป๊ะป๋า
พีพีชา-41 เป็นปืนกลมือประจำกายแบบซองกระสุนที่ใช้งานแบบเปิดลูกเลื่อนและทำให้ปืนสะท้อนถอยหลัง (Blowback) ส่วนใหญ่มันทำมาจากการปั๊มเหล็กกล้า สามารถบรรจุกระสุนได้ด้วยซองกระสุนแบบกล่องหรือแบบตลับหอยโข่ง (drum magazine) และยิงด้วยกระสุน 7.62×25 มม. โทกาเรฟ PPSh-41 เป็นปืนที่เลือกยิงแบบ select-fire weapon สามารถยิง ในโหมด Semi auto และ Full auto โดยตัวปรับโหมดจะอยู่ที่ด้านหน้าของไกปืนภายนอกคือครอบกันความร้อนที่ยาวตลอดลำกล้องพร้อมกับมี muzzle brake / muzzle flip compensator.หรือตัวลดแรงสะบัดและชดเชยการเงยของลำกล้อง
พีพีชา-41 ถูกใช้อย่างแพร่หลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและสงครามเกาหลีเป็นหนึ่งในอาวุธยุโธปกรณ์หลักของกองทัพโซเวียตในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง นอกจากนี้ยังมีการผลิตปืนจำนวนประมาณหกล้านกระบอกในรูปแบบของจีนอย่าง Type 50 (ซึ่งได้รับสิทธิบัตรในการผลิต) และยังถูกใช้งานโดยเวียดกงตลอดช่วงสงครามเวียดนามและในภูมิภาคอื่นๆทั่วโลกเช่น ยุโรปตะวันออก แอฟริกา และ ตะวันออกกลาง ในบทนี้จะนำเสนอรุ่นต้นแบบและหายากของปืนกลมือชนิดนี้
1. PPSh-41 รุ่นต้นแบบพานท้ายถอดได้
2. PPSh-2
ในช่วงปี 1942 กองทัพโซเวียตมีการร้องขอปืนกลมือชนิดใหม่มาเพื่อใช้แทนที่ PPSh-41 ที่มีน้ำหนักและอัตราการยิงที่สูงมากเกินไปรวมถึงต้นทุนที่ถึงแม้จะถูกอยู่แล้วแต่ก็ยังถูกร้องขอให้ออกแบบปืนกลมือชนิดใหม่เพื่อลดต้นทุนอยู่ดีโดย PPSh-2 มีอยู่ 2 รุ่น คือแบบพานท้ายไม้เต็มแต่สามารถถอดออกมาได้และอีกรุ่นหนึ่งที่เป็นแบบเหล็กพับซองกระสุนของปืนชนิดนี้มีแต่แบบ 35 นัดซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาจากที่มีซองกระสุนแบบ 71 นัดซึ่งขัดข้องได้ง่ายอัตราการยิงถูกลดลงจากรุ่น PPSh-41 ให้เหลือแค่ 550 นัดต่อนาทีอย่างไรก็ตามถึงปืนกลมือชนิดนี้จะออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการนั้นแต่ปืน PPS คือปืนที่ชนะการประกวดจัดหาปืนกลมือในครั้งนั้น
PPS ออกแบบโดย Alexei Sudayev
3. PPSh-45
เป็นรุ่นต้นแบบที่สร้างในปี 1945 โดยตัวปืนนั้นไม่มีไม้เป็นส่วนประกอบอีกแล้วแต่เป็นเหล็กปั้มที่ช่วยในการผลิตได้ง่ายขึ้นพานท้ายแบบพับโดยสามารถพับเก็บได้เพื่อความสะดวกในการพกพาโดยสร้างเอาไว้ 2 รุ่นคือรุ่น 1 ใช้ซองกระสุนได้ทั้งแบบกล่องบรรจุ 35 นัดและแบบตลับหอยโข่ง 71 นัดกับอีกรุ่นหนึ่งที่ใช้ได้แต่แบบกล่อง 35 นัดอย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้รับการผลิตจำนวนมากเพื่อเข้าประจำการเพราะในช่วงเวลานั้นการพัฒนาอาวุธปืนของสหภาพโซเวียตเน้นไปที่ปืนไรเฟิลจู่โจมแล้ว
4. PPSh-41 ลำกล้องโค้ง
หลังสงครามมีการสร้าง PPSh-41 ลำกล้องโค้งเพื่อทำให้ทหารสามารถยิงจากหลุมเพลาะหรือมุมตึกได้โดยไม่ต้องออกจากที่กำบังแต่ผลการทดสอบที่ไม่เป็นที่น่าพอใจปืนไม่มีความแม่นยำแม้จะอยู่ในระยะใกล้เพียง 100 เมตรทำให้รุ่นต้นแบบนี้ไม่ได้รับการพัฒนาต่อ.
(เป็นที่สังเกตว่ารุ่นต้นแบบนี้อาจได้รับแนวคิดมาจากอุปกรณ์เสริมลำกล้องโค้งของ STG-44)
5. PPSh-41 รุ่นต้นแบบติดตั้งกล้อง Night Vision
ในสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่ได้มีเพียงเยอรมันชาติเดียวเท่านั้นที่สามารถสร้างกล้อง Night Vision สำหรับใช้กับปืนได้โซเวียตก็ทำได้เช่นกันโดยต้นแบบกระบอกนี้ถูกสร้างขึ้นในปี 1943
6. Tupolev Tu-2Sh “Gunship”
เป็นการนำปืนกลมือแบบ PPSh-41 จำนวน 88 กระบอก ใช้ซองกระสุนแบบ Drum magazine บรรจุ 71 นัด ดัดแปลงโดยการติดตั้งในใต้ท้องของเครื่องบินทิ้งระเบิด Tupolev Tu-2Sh ทำมุม 45องศา มันจึงได้ฉายาว่า “Flaming Hedgehog“ หรือ "เม่นเพลิงนรก"
ถูกนำไปทดลองในปี 1946 แต่การปฏิบัติงานต้องบินลงต่ำให้อยู่ในระยะทำการของปืนกลมือ PPSh-41 ซึ่งสามารถใช้ได้กับทหารราบที่อยู่ในที่ไม่มีกำบังอย่างดีแต่มันเสี่ยงกับการถูกยิงด้วยอาวุธต่อสู้อากาศยานนานาชนิดโครงการก็เลยยุติการพัฒนาไปในที่สุด
7. "Criminal" converted PPSh
ภายหลังที่สหภาพโซเวียตล่มสลายรัสเซียเข้าสู่ยุคทุนนิยมแต่ปัญหาที่ตามมาก็คือเมื่อทุกอย่างเปิดกว้างอาชญากรรมก็สูงขึ้น จึงไม่แปลกที่จะมีอาวุธปืนจำนวนมากถูกใช้โดยแก๊งอาชญากรที่เกิดขึ้นใหม่หลังการล่มสลายของคอมมิวนิสต์ PPSh กระบอกนี้จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กระทรวงกิจการภายในของรัสเซีย
8. PPSh ดัดแปลงของชาวโครเอเชีย (บางกระบอกมีท่อเก็บเสียงด้วย)
หลังสงครามประกาศอิสรภาพโครเอเชียสามารถตั้งประเทศได้แต่ในช่วงของการตั้งประเทศใหม่นั้นติดกฎหมายระหว่างประเทศที่ว่าด้วยการห้ามส่งอาวุธปืนให้กับประเทศเกิดใหม่ทางทะเลจึงเป็นเหตุให้กองทัพโครเอเชียต้องผลิตปืนกลมือขึ้นมาเองหลายๆชนิดรวมถึงดัดแปลงของเก่าที่มีอยู่แล้วด้วยปืนพวกนี้ก็คือผลจากยุคสมัยนั้น
PPSh-41 ในสงครามอิรัก
ในตอนที่สงครามอิรักกองทัพสหรัฐสามารถยึดปืนกลมือ PPSh-41 จากทหารและผู้ก่อความไม่สงบของอิรักได้เป็นจำนวนไม่น้อยเลยบางส่วนถูกนำเข้าไปรวมเก็บไว้และบ้างกระบอกถูกเอามาใช้เป็นของเล่นของทหารสหรัฐบางคนถึงกับติดตั้งกล้องเล็งและอุปกรณ์เสริมแบบเดียวกับที่ใช้กับปืน M16 ของพวกเขาเลยทีเดียว
แม้ว่า PPSh-41 จะเป็นอาวุธจากสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่มันก็ยังคงถูกใช้งานอยู่จนถึงทุกวันนี้ในบางพื้นที่ที่มีความขัดแย้งในตะวันออกกลางและยุโรปตะวันออกอย่างเช่นยูเครนซึ่งสงครามกับฝ่ายแบ่งแยกดินแดนยังคงไม่จบสิ้นตราบใดที่มันจะถูกเก็บรักษาไว้อย่างดีและยังมีกระสุนอยู่ก็เป็นที่เชื่อได้อย่างแน่นอนว่า PPSh-41 จะยังคงทำหน้าที่ของมันต่อไป.
แหล่งอ้างอิง
https://www.thefirearmblog.com/blog/2017/08/10/rare-experimental-versions-soviet-ppsh-submachine-gun/
http://www.ppsh41.com/serge3.htm