“เลือกบวก” โดยไม่รู้ตัว ควรทำย่างไรต่อไป?

สวัสดีทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ เราเป็นเกย์ อายุ20ต้นๆ เรียนจบแล้ว หน้าตาเราก็ไม่ถึงกับแย่เราเป็นรับ ตัวเล็ก ขาว เรายอมรับว่าเราชอบการมี SEX แต่ไม่ถึงกับมั่วทุกคน อย่างมากก็แค่ถ่ายรูปถอดเสื้ออ่อยๆให้คนอื่นเข้ามาทัก.แต่ไม่ถึงกับนัดเจอกันอย่างน้อยก็คุยทำความรู้จัก “ช่วงที่มีแฟนจะไม่ทำแบบนี้เลยเพราะให้เกียรติแฟนมากๆ “ แต่ตอนไม่มีแฟนมันก็ปกติของทุกคนอยู่แล้วที่จะคุยเยอะ ทุกครั้งที่มีSEXกับคนแปลกหน้าเราป้องกันมันตลอด แล้วจำนวนคนที่เราผ่านมาก็ไม่ถึง20 เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ซีเรียสมากๆ เราเก็บมันไว้ไม่ได้บอกใครเลยสักคน เราแค่อยากระบายแล้วก็มีคนรับฟังเพียงเท่านั้น
        เมื่อเดือนที่แล้วเราเข้า รพ บ่อยมากหมอตรวจเท่าไหร่ก็หาสาเหตุไม่เจอสักทีว่าเราเป็นอะไร เรามีอาการแพ้ทุกอย่างมีผื่นขึ้น แต่ไม่มีไข้จนคุณหมอได้ทำการเจาะเลือดเรา ตอนนั้นเรามั่นใจมากๆว่าเราต้องไม่เป็นแน่ๆเพราะเราป้องกันทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ แต่ใครจะไปรู้ว่าถุงยางที่ใช้มันจะได้ผล 100% หรือเปล่า พอผลเลือดออกมาเราก็แถบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าเลือดเราบวกจริงๆ ตอนนั้นทำอะไรไม่ได้นอกจากร้องไห้ แล้วยอมทำการรักษากับ รพ เนื่องจากอายุเราเลย20 จนบรรลุนิติภาวะแล้วพ่อแม่จึงไม่จำเป็นต้องเซ็นยินยอมทำการรักษา เรามืดไปหมดทุกอย่าง มันกลัวไปหมด กลัวว่าสังคมจะรังเกียดเราไหม เพราะเราคงไม่ได้อธิบายได้กับทุกคน กลัวว่าเราจะตายไหม มันจะหายหรือเปล่า รักษาได้หรือไม่       
        ตอนนั้นคำถามมากมายเข้ามาในหัว เข้ามาลุมไปหมดทุกสิ่งอย่าง เศรษฐกิจก็ไม่ดี ออกจากงาน ออกจากหอ ค่ารักษา ทุกๆอย่างแม้กระทั้งจะบอกใครก็กลัวเขาจะรังเกลียดเรา นอกจากหมอและพยาบาลก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย จึงเก็บมันไว้คนเดียว จนบ้างครั้งก็อยากคิดฆ่าตัวตายหลายรอบมาก แต่ก็ทำไม่ได้กลัวไม่มีใครดูแลพ่อแม่ แต่อยู่ไปตัวเราเองก็ยังดูแลไม่ได้. แถมน่าจะเป็นภาระพ่อแม่อีก เหนื่อยไปหมดทุกอย่างท้ออยากระบาย อยากมีคนรับฟัง ตัวเราเองก็ไม่อยากให้มันเกิด เราอ่อนแอมากๆ แต่เราก็ต้องสู้เราร้องไห้ทุกวัน 😢 เรากินยารักษาแล้ว ทำจิตใจให้สบายก็แล้ว แต่มันก็อดคิดไม่ได้ทุกที  เราได้แต่ยอมรับมันแล้วพยายามมีความสุขกับมัน โดยที่เราเก็บและปกปิดมัน
        เราบอกเลิกแฟนโดยที่เขาไม่รู้สาเหตุ เรากลับมาใช้ชีวิตที่โดดเดี่ยว ไม่มีคนคอยปรึกษาหรือให้กำลังใจ เพราะเรากลัวว่าถ้าเขารู้เขาต้องเอาเราไปพูดแน่ๆ แลเวทำให้เราอายเข้าไปใหญ่ มันก็คงจริงที่เราทำอะไรแล้วไม่คิด แต่เราก็ยอมรับมัน แล้วอยู่ให้ได้กับมัน จนวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ เราอยากระบาย เราเหงา เราเสียใจ เราอยากขอโทษตัวเราเอง


“——- เราอยากได้คำปรึกษาของคนที่เป็นเหมือนกัน ——-“
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่