ภาคสุดท้ายของเรื่องราวของตำนานกังฟู ผู้มีตัวตนอยู่จริงที่ล่วงลับ นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ให้ดูกันยาวนาน 11 ปี รวม 4 ภาค ดำเนินมาจนถึงภาคสุดท้าย ซึ่งในไทยฉายช้ากว่าต่างประเทศ คือเข้าช่วงตรุษจีน หลังจากดูจบแล้ว อยาก รีวิว สักนิดนึง เพราะดูแล้วรู้สึกว่า สร้างมาได้พอเหมาะ พอดี ไม่มากไป ไม่น้อยไป ครบรสตามสไตล์หนัง ยิปมัน สามภาคที่ผ่านไป และ ผมว่า ภาคนี้ ดูสนุกกว่า ภาค 3 แต่ ถ้าว่ากันเรื่อง ดราม่า ภาคแรก คงกินขาดหมด และ ภาค 2 คงเป็นเรื่องของ Entertain หนักหน่อย 

มาเข้าเรื่อง ภาค 4 ก็ไม่พ้น อาจารย์ ยิป ต้องต่อสู้กับคนพาลอีกเช่นเคย คราวนี้ บุก อเมริกา ในยุคที่ อเมริกา มีปัญหาเรื่องผิวสีมากสุด จริงๆแล้ว น่าจะทั่วโลกที่มีคนต่างถิ่นเข้าไปอยู่ แม้ในอังกฤษ หรือ ยุโรปแผ่นดินใหญ่ก็ตาม คนผิวสี คนผิวเหลือง มักถูกมองว่า ต่ำต้อยด้อยกว่า สำหรับ แฟนหนัง บรูซ ลี คงจะทราบ เพราะ บรูซ ลี ก็โดนไม่น้อยกว่าใคร 

ยิปมัน นอกจากใน ฝอซานแล้ว ไปไหนก็โดนลองของตลอด คราวนี้ บุกอเมริกา ก็เจอ คนจีนด้วยกัน ลองของและดูถูกกันเองด้วยซ้ำ ทำให้ อาจารย์ ยิป จึงต้องแสดงศิลปการต่อสู้หมัดหย่งชุนอีกวาระ โดยพวกอาจารย์เจ้าถิ่น ล้วนไม่มีใครเห็นหัวอาจารย์ยิปในคราแรกพบ เหมือนตอนไป ฮ่องกง เป๊ะๆ แต่ส่วนนี้ ผมมีความสงสัยนิดนึงในตัว อาจารย์สอนกังฟู ในอเมริกาที่เป็นผู้หญิง ว่า เธอคือ คนที่แสดง The Karate Kid 2010 เมื่อสิบปีก่อน โดยเข้าฉากนี้หรือไม่ 

ผมว่าหน้าตาท่าทางเธอคล้ายนะ และตอนเธอต่อสู้ ก็เหมือนจะใช้มวยงูด้วย ( อันนี้ไม่รับประกัน ผมแค่สงสัยน่ะครับ ) และเธอก็ Uncredit ซะด้วยในข้อมูล wiki ที่ผมลองเปิดๆดูนะ ใครหาได้ช่วยรบกวนบอกหน่อยละกัน ลีลาเธอ เป็นมวยจีนจริงนะท่าทาง

หนัง ยิปมัน ภาคปิดท้ายนี้ นอกจากได้ดูฉากสู้กันเต็มอิ่ม โดยเนื้อหาไม่ค่อยมี พล็อตเรื่องเดิมๆ และ สาเหตุต่อสู้อันเบาโหวงเหวงและซ้ำซากจำเจ แต่เราคงไม่ว่ากันเพราะนี่คือหนัง ยิปมัน เหมือนคุณเข้าไปดูหนัง เฉินหลง คงไม่บ่นกันว่า หนังไร้สาระเพราะเราไปดูหาความสนุกกัน 

แต่ภาคนี้มีข้อคิดนะครับ หากมองกันดีๆ ระหว่าง ยิปมัน ผู้เป็นพ่อ กับ ลูกชาย และ มีภาพสะท้อนครอบครัว ยิปมัน ที่อเมริกา ทำให้ ยิปมัน ก็คิดได้ว่า ตนเองนั้น ไม่ต่างจาก คนอื่นในเรื่องการเลี้ยงลูก และความเข้าใจกันระหว่าง พ่อ กับ ลูก โดย ผู้เป็นพ่อแบกหลายอย่างไว้ ไม่เคยบอกลูก และลูก ก็มองว่า พ่อไม่เคยเข้าใจตัวเอง ผมว่า ส่วนนี้ง่าย และชัดเจนว่า คนต่างวัย มองอะไรต่างกัน และ มันแก้ยาก แต่หากรักกันจริง ก็ประสานไม่ยากเหมือนกัน ใครอยากรู้ลองไปดูกันครับ ในส่วน พ่อลูกนี้ 

สำหรับนางเอก คงต้องเรียกแบบนั้นเพราะ ภรรยา ยิปมัน ได้ตายไปจากภาคที่แล้ว ภาคนี้ มีเด็กสาว มานั่งบ่นพ่อให้ ยิปมันฟัง แบบ ยิปมัน ฟังแล้วก็ ก้มหน้ายิ้ม เพราะ เหมือนโดนบ่นใส่โดยตรง ดูแล้วก็ขำนิดๆครับ สำหรับฉากนี้ 

ฉากต่อสู้ คิวบู๊ ดูสนุกสมจริง สำหรับผมนะ ยิ่งดุในโรงภาพยนตร์ยิ่งให้ความรู้สึกบันเทิง ไม่โหดร้ายเกินไปสำหรับคอหนังแอ็คชั่น ตัวร้ายก็ ไม่ได้ฉวยโอกาสเอาเปรียบกันจนน่าเกลียด เรียกว่า ดูกันเพลินๆ ตามสไตล์หมัดหย่งชุน  เทคนิค แท็คติก ความพริ้ว ความหนัก ว่ากันไปตามสไตล์หนังกังฟู เรียกว่าสนุกครับ

สุดท้ายแล้ว ยิปมัน ทั้ง 4 ภาค ก็คือ การต่อสู้กับคนที่เอาเปรียบคนอื่น ไม่ว่าจะชนชาติไหน ทั้ง คนญี่ปุ่น พวกฝรั่ง หรือแม้แต่คนจีนด้วยกันเอง ไม่ต้องแบ่งชนชาติ ก็เห็นอยู่ในหนังว่า ล้วนมีความถือดีกันทั้งนั้น ยกตนข่มท่าน และแย่งชิงชื่อเสียง ผลประโยชน์กันทั้งนั้น  อีกทั้งการดิ้นรนหรือต่อสู้เพื่อให้ตัวเอง หรือ พรรคพวกได้มีที่ยืนในแผ่นดินที่ตนมุ่งหมาย ไม่ว่าจะต่อสู้กันซึ่งหน้า หรือ แทรกซึม อย่าง ที่ พี่ วาเนส แกเอาวิชามวยจีนไปเสนอกองทัพ อเมริกันให้บรรจุ จนได้บรรจุให้คนอเมริกัน ได้เรียนมวยจีนกันจริงๆ ซึ่งตรงนี้ แสดงให้เห็นว่า แม้แต่คนจีน ยังมองต่างกัน พวกหัวเก่า ไม่สอนฝรั่งเหมือนยุค บรูซลี แต่พวกหัวใหม่ รู้ว่าต้านไม่ได้ ก็แทรกซึมเข้าไป แจกจ่ายของดีกันไป ผมมองว่าเป็นวิถีธรรมชาติทั้งสองแบบ แบบไหนไม่ได้ผล ก็ใช้อีกแบบ คือ เอาชนะไม่ได้ ก็เป็นเพื่อนกันดีกว่า 

อีกสิ่งนึงที่หนังยิปมัน แสดงให้เห็น จริงๆก็เหมือน ละครน้ำเน่าทั่วไปคือ คนที่ไปรังแกเขา พอโดนเขาสวนเจ็บตัวมา ก็จะกลับมาฟ้องผุ้ใหญ่ บิดเบือนโกหกไปว่าโดนคนอื่นรังแกมา เรื่องแบบนี้ ชัดเจนว่า สมัยก่อนคนเป็นพ่อแม่ หรือ หัวหน้า พวกผู้ใหญ่อาจมีหน้ามืดเชื่อกันง่ายๆ โดยไม่เช็คเลยว่า คนของตัวเอง ทำอะไรบ้าง แต่สมัยนี้ ถ้าจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ค่านิยมประเภทว่าคนของข้า ใครอย่าแตะ แบบไม่ลืมหูลืมตา พอไล่ความจริงกันขึ้นมา เดี๋ยวเรื่องก็แดงขึ้นมาเอง แต่หนังเขาก็สร้างให้มันมีเรื่องกันจนได้ ตามประสาการตลาด

สุดท้ายขอลงภาพภาคเก่าๆ ไว้ทิ้งท้ายกับตัวละครในแต่ละภาค นิดนึง

สัปดาห์ก่อน ทีวีช่อง โมโน เอามาฉาย ดูอาจารย์เลี่ยวสู้คร้งแรก เห็นเลยว่าโดนทุกดอก แต่อาจารย์ ยิป ยั้งไว้เกือบหมด แกเป็นตัวละครที่มีสีสันต์ดีนะผมว่า

หย่งชุน ปะทะ หงกวน ผมว่านี่คือฉากต่อสู้ที่ผมชอบมากสุดในทุกภาค หงจินเป่า สุดยอดจริงๆ ในเรื่องภาค 2 อาจารย์หงกวน คือคนที่ ยิปมัน นับถือมากสุด

ภรรยา ยิปมัน จากภาค 3 เธอคือคนที่เป็นส่วนสำคัญในชีวิต อาจารย์ ยิป มาตลอด แม้จะไม่ชอบให้ต่อยตี แต่ก็คอยสนับสนุนกันมาเสมอ นางเอกน่ารักครับ

หากใครเป็นแฟน หนัง ยิปมัน และลังเล ว่าจะดูดีมั้ย ก็ขอเชียร์ว่า ไปดูเถอะครับ ไม่มีอะไรน่าเบื่อ ยกเว้น ขอติงนิดเดียวคือ การพากย์ไทย ที่สอดแทรกความตลกเข้ามาในจังหวะที่ไม่ใช่ และ มากเกินไปในบางฉากช่วงแรกๆ ไม่ว่าจะเป็น นโยบาย หรือ อะไรก็ตาม อันนี้ก็ขอให้ ฟีดแบค สำหรับคนดูกลับไปละกันว่ามุขตลกนิดหน่อยพอได้ แต่มากไปก็ไม่ตลก และทำลายบรรยากาศโทนของหนังไปแบบ จะดีอยู่แล้ว กลายเป็นมีตำหนิไปซะ แต่เข้าใจครับ ตลาดคนดูหนังบางส่วน ก็คงจะชอบกัน เรียกว่า ต่างคน ต่างคิดละกันครับ แค่ฝากไว้เฉยๆ 

สามดาวครับ สำหรับ ยิปมันภาคสุดท้าย