ผบรห ช่อง3 เผย ปี 2020 ช่อง 3 จะเน้น New Media -Go Inter- Digital- New Content -Artist-Data ผูกชะตากับระบบเรทติ้งน้อยลง

ปี 2020 ช่อง 3 จะทำอะไรบ้าง


ประเด็นหลักในการสัมภาษณ์ครั้งนี้คือแผน 6 ด้านที่ช่อง 3 จะเน้นในปี 2020 นี้ครับ ซึ่งคุณอริยะเชื่อว่าช่อง 3 จะกลับมามีกำไรจากแผนทั้ง 6 ข้อนี้

1  New Media หรือสื่อใหม่ที่จะเน้นไปที่ D2C (Direct to consumer) หรือเจาะเข้าหาผู้บริโภคมากขึ้น เพราะปัญหาของแบรนด์ยุคก่อนคือไม่ได้มีข้อมูลของลูกค้าตัวเอง ข้อมูลก็อยู่ที่ตัวกลางเช่นค้าปลีก หรือในยุคออนไลน์เอง ข้อมูลลูกค้าก็ไปอยู่กับหน้าร้านออนไลน์ต่างๆ ทำให้ช่อง 3 เริ่มแผน D2C กับ 7-11 เพื่อให้ผู้ชมสามารถสแกน QR ระหว่างชมรายการแล้วไปรับส่วนลดที่ 7-11 ซึ่งในอนาคตก็จะมีรูปแบบ D2C นี้ที่ช่อง 3 จะร่วมกับอีกหลายๆ บริษัท ซึ่งทำทั้งผ่านทีวีและออนไลน์

2  Go Inter เน้นขยายเนื้อหาไปที่จีนและภูมิภาคอินโดจีน โดยตั้งเป้าปี 2020 เติบโต 2 เท่า

3  Digital ช่อง 3 กำลังยุบแอปช่อง 3 เดิมอย่าง Ch3 หรือ Mello ให้รวมเป็นแอปเดียวกันคือแอป 3+ ซึ่งเป็นชื่อที่สื่อความเป็นช่อง 3 ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นพาร์ทเนอร์กับแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง LINE TV, Youtube เพราะผู้บริโภคอยู่ไหน เนื้อหาก็ต้องตามไปรองรับ ซึ่งตัวแอป 3+ จะเปิดตัวสิ้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ และอนาคตอาจมีรูปแบบการสมัครสมาชิก แต่ยังไม่ใช่เร็วๆ นี้

4  New Content คุณอริยะเล่าให้ฟังว่า เมื่อก่อนช่วงพีคของช่อง 3 คือเวลาพาร์มไทม์ช่วง 2 ทุ่ม แต่ตอนนี้ 18.00 – 22.00 น. โดยเป็นช่วงที่คนเลิกงานกลับบ้าน และช่วงพีคสุดคือ 19.00 – 20.00 น. ซึ่งช่วงเวลานี้ช่อง 3 จะวางเนื้อหาใหม่ๆ ให้เหมาะสมคือ18.00 – 19.00 น. ช่วงที่คนกำลังกลับบ้าน ช่อง 3 จะเปิดตัวรายการใหม่เข้ามา เน้นกลุ่มครอบครัว
19.00 – 20.00 น. ช่วงเวลากินข้าวของครอบครัว ทั้งคนตามหัวเมืองและคนต่างจังหวัด เนื้อหาก็ต้องเป็นกลุ่ม mass ซึ่งปีที่ผ่านมาเราเริ่มเห็นละครที่ไปได้สวยในช่วงนี้
ช่วงเวลา 20.20 น. เป็นต้นไป เป็นช่วงของกลุ่มคนในหัวเมืองใหญ่ ซึ่งตอนนี้เนื้อหาของช่อง 3 คือละคร ที่ปรับการเล่าเรื่องให้กระชับ และสนุก เช่นละคร “ซ่อนเงารัก” ที่ผู้ชมบอกว่าไม่กล้าเข้าห้องน้ำ เพราะออกมาแล้วจะไม่รู้เรื่องแล้ว เรื่องมันไปเร็ว ซึ่งเป็นผลตอบรับที่ดี

5  Artist  เพราะจุดเด่นของช่อง 3 คือมีศิลปินกว่า 200 คน แต่คนก็ไม่ได้อยากรอดูแค่ในละคร ทำให้ช่อง 3 สร้างรายการใหม่ๆ เพื่อดีงศิลปินเข้ามาใช้
อย่าง The Brother ซึ่งช่อง 3 ก็จะดึงความสามารถอื่นๆ ของดาราออกมาใช้ และจะพยายามพลักดันไปที่จีนด้วย

6  Data จากแผน D2C ช่อง 3 จะมีข้อมูลมากขึ้น และจะเพิ่มการเข้าถึงสินค้าจากหน้าจอต่างๆ เช่นสั่งได้ผ่านแอป หรือสแกน QR จากจอทีวี ซึ่งอนาคตช่อง 3 อาจสร้างระบบโกดังและจัดส่งของตัวเองด้วย



https://www.beartai.com/article/tech-article/399507
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่